วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

'ชาวนา'รวมตัวปิดถนน ร้องรัฐจ่ายค่าข้าว




ชาวนาเคลื่อนอีแต๋นร่วม กปปส. ทวงเงินข้าว ไล่รัฐบาล ชาวนา 5 จังหวัดรวมตัวเตรียมปิดถนนเรียกร้องภาครัฐจ่ายเงินค่าข้าว จำนวนกว่า 2,000 คน รวมตัวเตรียมปิดถนนสายเอเชีย บริเวณ ม.7 บ้านท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เรียกร้อง รมต.ให้มารับรู้ความเดือดร้อน หลังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว...
วันที่ 25 ม.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนสาย 117 สี่แยกทุ่งใหญ่ นครสวรรค์-พิษณุโลก ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เครือข่ายชาวนานำโดย นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ ได้นำขบวนรถทางการเกษตร ประมาณ 30 คันเดินทางเข้าไปในเขตเทศบาลเมืองพิจิตรเพื่อสมทบกับกลุ่ม กปปส.และชาวนาจากอำเภออื่นๆรณรงค์ให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งและทวงเงิน จำนำข้าว พร้อมทั้งประชุมแกนนำเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการเคลื่อนขบวนรถทางการเกษตร เข้า กทม.เพื่อขับไล่รัฐบาลและทวงเงินจำนำข้าวต่อไป


ด้าน บริเวณหลักกิโลมตรที่310-311 พลโยธิน ตำบลท่าน้ำอ้อยได้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรชาวนาในพื้นที่5จังหวัด มีจังหวัดอุทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดสิงห์บุรีนำ โดยนายอัฆฒ์พบ เจ้าเจ็ด ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอุทัยธานี นางกรี สังข์ทอง กำนัน ต.ท่าน้ำอ้อย กำนันสำอาง สุวานนท์ กำนัน ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานีเตรียมรวมตัวชุมนุม พร้อมที่จะปิดถนนสายเอเชียที่บริเวณปั๊มเคียงคีรีม.7บ้านท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เพื่อ แสดงพลังของชาวนาให้รัฐบาลได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนที่ชาวนาเผชิญอยู่ หลังจากไม่ได้รับเงินจำนำข้าว โดยตั้งแต่09.00น.-10.00น.มีชาวนาจากจังหวัดต่างๆทยอยเดินทาง มารวมตัวเตรียมปิดถนน จำนวน กว่า 3,000คน และยังคงมีกลุ่มชาวนาเดินทางมาสมทบโดยตลอด

เบื้องต้นกลุ่มชาวนา มีการตั้งเต็นท์ พร้อมเปิดเวที โดยแกนนำใช้เครื่องขยายเสียงผลัดกันขึ้นพูดถึงความเดือดร้อนของชาวนาตัวแทน ชาวนาย้ำว่า ในการชุมนุมว่าพวกเขาต้องการให้ตัวแทนรัฐบาลมารับหนังสือ มารับรู้เรื่องราวความเดือดร้อนของพวกเขาจึงจะยุติการชุมนุม หากไม่มีผู้ใดมารับเรื่องก็จะชุมนุมยืดเยื้อต่อไป

ขณะที่ พลตำรวจตรีสืบน์ศักดิ์ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้สั่งการให้ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน1กองร้อย155นาย มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดการชุมนุม

รองเท้าผ้าใบ

นักวิชาการ'ฟันธง มีล็อบบี้ยีสต์เปิดทาง'วีรพัฒน์'พบสภาคองเกรส




นักวิชาการฟันธง มีล็อบบี้ยีสต์ที่วอชิงตัน เปิดทางให้ “วีรพัฒน์” พบสภาคองเกรส กดดันไทยให้มีการเลือกตั้ง ด้าน "สุรชาติ" เตือนการเชิญประเทศมหาอำนาจมายุ่งเกี่ยวการเมืองภายในเป็นเรื่องอันตราย เพราะไม่เข้าใจปัญหาภายในที่แท้จริง...
วันที่ 25 ม.ค. 57 รศ.พรชัย เทพปัญญา อดีตผู้อำนวยการสถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยกับ "ไทยรัฐ" ถึงกรณีที่ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อพูดคุยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถาณการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยแก่สมาชิก รัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือสภาคองเกรส ว่า การเดินทางไปให้ข้อมูลแก่สหรัฐฯ เพื่อให้กดดันให้ไทยมีการเลือกตั้งนั้น เชื่อว่านายวีรพัฒน์ไม่สามารถจะทำได้โดยตนเอง เพราะไม่มีใครเดินทางไปสภาคองเกรสได้ถ้าไม่มีล็อบบี้ีพาเข้าไป
"ส่วน ตัวเชื่อว่า เป็นฝีมือของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ติดต่อประสานงานให้ ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการใช้ต่างชาติเข้ามาเพื่อกดดันประเทศไทยให้มีการเลือกตั้ง โดยอ้างความเป็นประชาธิปไตย"
นอกจากนี้ ยังพยายามทำให้ต่างชาติเห็นว่า น้องสาวคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถูกรังแก การกระทำดังกล่าวนั้น เพื่อปกป้องรัฐบาลรักษาการให้กลับมาอยู่ในอำนาจ หรือแผนระยะกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้ต่างประเทศเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในไทย แผนระยะยาวเพื่อต้องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในสหรัฐฯ เชื่อว่าประเด็นนี้ ทหารไม่ได้ให้ความสำคัญมากกว่าการแก้ปัญหาการเมืองภายในด้วยคนในประเทศเอง เพราะเป็นเพียงการกดดันทางการเมืองไม่ใช่ด้านเศรษฐกิจที่จะมีผลกระทบต่อไทย โดยตรง เชื่อว่า สหรัฐอเมริกาจะยึดผลประโยชน์ต่อประเทศตัวเอง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล สหรัฐฯ ก็สนับสนุนทั้งนั้น
เช่นเดียวกับ รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข ผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านยุทธศาสตร์ การรบ และสงคราม อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยอมรับว่า ทหารอยู่ในสภาวะจะทำอะไรก็ค่อนข้างลำบาก เพราะถูกจับตามอง ทั้งที่ทหารไม่ต้องการที่จะเข้ามาอยู่ในสภาวะความขัดแย้ง หรือความไม่เป็นกลางทางการเมือง ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าวันที่ 2 ก.พ. 2557 จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่ รศ.ดร.สุรชาติ ระบุว่า "การเลือกตั้งวันที่ 2 นั้นสิ่งเฉพาะหน้าที่ต้องดู คือ การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นคำตอบ"
พร้อมกันนี้ รศ.ดร.สุรชาติ ยัง ระบุถึงกรณีที่รัฐมนตรีญี่ปุ่น วิจารณ์การเมืองไทย รวมถึงกรณีที่นายวีรพัฒน์ เดินทางไปสภาคองเกรงให้สหรัฐฯ กดดันให้ไทยมีการเลือกตั้ง ว่า มาถึงวันนี้คนไทยปฏิเสธไม่ได้ ว่า การเมืองไทยถูกผูกโยงไปสู่เรื่องผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ประเทศมหาอำนาจมีบทบาทกับการเมืองไทย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นในยุคสงครามคอมมิวนิสต์
วันนี้เรากำลังย้อน รอยกลับสู่อดีต ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้บริหารประเทศ หรือกลุ่มผู้ชุมนุมต้องเรียนรู้และตระหนักว่า การเมืองไทยไม่ใช่เรื่องภายในแต่เพียงอย่างเดียว แต่มันมีมิติของการเมืองภายนอกซ่อนอยู่ “บทบาทของมหาอำนาจภายนอก เขามีผลประโยชน์ที่ชัดเจนอยู่แล้วที่จะต่อสู้และแข่งขันเพื่อช่วงชิงภูมิภาค นี้ เชื่อว่า เฉพาะหน้าการเลือกตั้งยังเป็นเรื่องของการเมืองภายใน จนกว่าว่ารัฐบาลหรือ กกต. จัดการเองไม่่ได้ และตัดสินใจว่าเงื่อนไขภายในแบกรับการจัดการเลือกตั้งไม่ได้แล้ว และต้องการให้ปัจจัยภายนอกมาเป็นตัวสนับสนุนให้การเลือกตั้งเกิด ซึ่งเราอาจจะต้องเจอ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต. เสนอว่า การให้ UN เข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่การที่จะให้ประเทศมหาอำนาจเพียงประเทศเดียวเข้ามามีบทบาทในการจัดการ เลือกตั้งภายใน ถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะปกติการเมืองโดยการเลือกตั้งเป็นเรื่องภายใน ถ้าให้ภายนอกเข้ามา จะเข้ามาถึงแค่ไหน เพียงเข้ามาสังเกตการณ์ หรือเข้ามาจัดการเลือกตั้งเลย ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะการเมืองเป็นเรื่องภายในที่คนนอก

รองเท้าผ้าใบ

'สุเทพ'คึก! นำทัพกปปส.เดิน'ประตูน้ำ-เพลินจิต'ไล่'ยิ่งลักษณ์'




"สุเทพ" คึก! นำทัพ กปปส.ออกเดินประตูน้ำ-ราชปรารภ-เพลินจิต ระยะทางกว่า 5 กม. ไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว ขณะประชาชนให้ความสนใจ รอให้กำลังใจจำนวนมาก...
วันที่ 25 ม.ค. 57 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมแกนนำ กปปส. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายจุมพล จุลใส นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. และ น.ส.จิตภัสร์ กฤษดากร หรือ ตั๊น ได้เดินนำมวลชนจำนวนมาก ออกจากเวทีราชประสงค์ เดินรณรงค์ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ โดยใช้เส้นทางที่ราชประสงค์ ผ่านประตูน้ำมุ่งสู่ถนนราปรารภ เลี้ยวซ้านถนนศรีอยุธยา จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพญาไท ผ่านแยกเพชรบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนชิดลม และเลี้ยวขวาเข้าถนนเพลินจิต ก่อนกลับมาที่เวทีราชประสงค์ในช่วงเย็น รวมระยะทาง 5.2 กม.
ขณะที่รูป แบบขบวน เริ่มจากรถขยายเสียง ขบวนธงชาติ ตามด้วยการ์อาสารอบนอก การ์ดอาสาชั้นใน ที่นายสุเทพ และแกนนำ อยู่ภายในวงล้อม พร้อมกันนี้ ก่อนเคลื่อนขบวน นายสุเทพ ขึ้นเวทีทักทายมวลชน พร้อมประกาศว่าวันนี้ จะเดินบนถนนที่ พรก.ฉุกเฉิน ห้ามไว้ และจะเดินทุกเส้นทางที่ศรส.ประกาศไว้ทันทีที่เคลื่อนขบวนออกจากเวทีราช ประสงค์ ก็มีมวลชนมาปักหลักรอต้อนรับ ให้กำลังใจเป่านกหวีด พร้อมมอบเงินสนับสนุน อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ก่อนเคลื่อนขบวน นายชุมพลได้ประกาศบนเวทีเช่นกันว่า วันพรุ่งนี้ จะนำมวลชนไปเยี่ยม บ้านร.ต.อ เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ที่ย่านบางบอน และให้มวลชนเตรียมตัว ปฏิบัติภารกิจใหญ่ ในวันที่ 27 มค. ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขณะเดียวกัน ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า ทางกปปส.ประกาศจะนำมวลชนไปคัดค้านไม่ให้มีการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปฯ


ทั้ง นี้ ตลอดเส้นทางที่ชบวนเคลื่อนผ่าน นายสุเทพ ได้เดินทักทายกับพี่น้องประชาชนที่มารอรับ ตลอดบริเวณถนน 2 ข้างทางด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และยังคงเป้าหมายเดินขบวนและเคลื่อนไหวไปตามถนนและเส้นทาง ที่ทางศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศรส.) ได้ออกข้อกำหนดประกาศห้ามเอาไว้ก่อนหน้า โดยไม่สนใจข้อห้ามของทางรัฐบาล ทั้งนี้มีกลุ่มประชาชนได้นำธนบัตรมาต่อกันยาวประมาณ 50 เมตร และเตรียมจะบริจาคให้ขณะนายสุเทพ เคลื่อนขบวนผ่าน

นายพุทธิ พงษ์ หนึ่งในแกนนำ กปปส. กล่าวว่า วันนี้เราจะมีการจัดกิจกรรมอาหารอร่อย มีกิจกรรมศิลปะ มีเสื้อออกแบบ เฉพาะการชุมนุมเวทีราชประสงค์ ประชาชนที่มายังสามารถทำบัตรกบฏรักชาติได้อีกด้วย โดยพื้นที่จัดงานมีระยะทางประมาณ 400 เมตร เราเชิญร้านอาหารดีๆ ใน กทม.มาร่วม ดังนั้นขอเชิญประชาชนมาร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น.วันนี้


ทาง ด้าน นายเอกณัฏ กล่าวว่า อยากให้พี่น้องชาวไทยที่อยู่ทั่วโลก ได้ช่วยกันกระจายข่าวให้สื่อต่างประเทศได้เข้าใจถึงเป้าหมายการชุมนุมของเรา ในครั้งนี้ ที่ไม่ใช่การขัดขวางประชาธิปไตย แต่เราเพียงต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนมีการเลือกตั้ง เราไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง ซึ่งนายสุเทพได้มีการส่งหนังสือชี้แจงเหตุผลดังกล่าว ไปยัง นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา แล้ว

พร้อมกันนี้ นายเอกณัฏยังได้จัดรายการสดภาคภาษาอังกฤษ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนต่างประเทศ อีกด้วย.

รองเท้าผ้าใบ

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

'สมศักดิ์ โกศัยสุข'นำม็อบตัดน้ำ-ไฟ บ้านพัก มท.1 แล้ว




นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แนวร่วม กปปส. เผย กปปส.นำม็อบ สรส. ถึงบ้านพัก มท.1 ย่านลาดพร้าว เพื่อตัดน้ำ-ไฟ แล้ว คาดไปกรมสรรพากรต่อ บ่ายนี้

วันที่ 15 ม.ค. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แนวร่วม กปปส. ยืนยัน กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ได้นำพนักงาน สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สรส.เข้าไปทำการตัดน้ำ-ตัดไฟ ยังบ้านพัก ย่านลาดพร้าว เขตจตุจักร นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ขณะเข้าไปยังบ้านพักหลังดังกล่าวพบมีคนอยู่บ้านเพียงคนเดียว ซึ่งทางผู้ชุมนุมก็ได้ขอดำเนินการตัดไฟ-น้ำ และขอให้ผู้ที่ยังอยู่ในบ้านได้ไปอยู่ที่อื่น


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะนำกลุ่ม สรส.กลับไปที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อหารือในการที่จะไปดำเนินตัดน้ำตัดไฟ หน่วยงานที่ยังเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบทักษิณอีก 2-3 แห่งในวันนี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์จะไปหารือกับนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ที่ทำหน้าที่ดูแล เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีกำหนดการจะเดินทางไปที่กรรมสรรพากรช่วงเวลา 14.00 น. วันนี้ เพื่อไปเชิญชวนข้าราชการออกมาร่วมชุมนุมกับ กปปส.

รองเท้าผ้าใบ

แชร์กระจุย ฮากระจาย 'คลิปดารา' ปราศรัยชิดลม! (ชมคลิป)




ว่อนโซเชียลฯ แชร์คลิปดารา จัดปราศรัยสุดฮา ล้อเลียนรัฐบาล...
เล่น เอาฮือฮาบนโลกออนไลน์ ในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เกิดกระแสการแชร์คลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ยูทูบ ซึ่งคลิปวิดีโอตัวนี้มีชื่อว่า "เวทีดารา (กปปส.) หน้าเซ็นทรัลชิดลม" ความยาว 12.16 นาที อัปโหลดไว้เมื่อวันที่ 14 ม.ค. โดยสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า boynawi ซึ่งตอนนี้มีผู้เข้าไปชมเกือบ 7 หมื่นวิวแล้ว
โดยในคลิปมี กลุ่มดารา นักแสดง ได้จัดเวทีปราศรัยเวทีเล็กๆ ถือว่าเป็นเวทีย่อยๆ ของเหล่าดาราเลยก็ว่าได้ จัดขึ้นบริเวณหน้าเซ็นทรัลชิดลม มีดาราหลายท่าน ได้แก่ เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ, เกลือ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล
 (เกลือ เป็นต่อ), หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ, น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ โดยได้พูดถึงทัศนคติมุมมองทางการเมือง มีการล้อเลียนรัฐบาลและฝ่ายเสื้อแดง โดยเรียกเสียงฮาและสร้างความสนุกสนานให้กับมวลมหาประชาชนได้เป็นอย่างดี

รองเท้าผ้าใบ

ส่งทีมแพทย์ดูแลม็อบ ห่วง 2 จุดเสี่ยง 'ราชดำเนิน-ลาดพร้าว'





สธ.ส่งทีมแพทย์ดูแลผู้ชุมนุมใน 7 จุด ย้ำ 2 จุดเสี่ยงที่เวทีชุมนุมราชดำเนินและห้าแยกลาดพร้าว สั่งเฝ้าระวังต่อจังหวัดในอ่างทองและสมุทรสงคราม...

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 57 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์ณรงค์ อธิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการ แพทย์และสาธารณสุขร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอ เพื่อติดตามสถานการณ์และวางแผนการดูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมทาง การเมือง

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า จากการประเมินผลการทำงานของหน่วยแพทย์ทั้งหมด เป็นที่น่าพอใจและปฏิบัติงานได้เรียบร้อยตามแผนที่ได้วางได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมสิ่งที่ได้สนับสนุนตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งเวชภัณฑ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การเภสัชกรรมและวัสดุอุปกรณ์จากกรม ต่างๆ สำหรับสถานการณ์โดยสรุปเมื่อวานนี้ (14 ม.ค. 2557) จนถึง 10.00 น. วันนี้ มีเหตุปะทะทั้งหมด 2 แห่ง ได้แก่ที่สะพานหัวช้าง มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และที่สวนลุมพินี มีตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย ในจำนวนนี้รับตัวรักษาในโรงพยาบาล 1 นาย รวมมีผู้บาดเจ็บสะสมตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2556-15 มกราคม 2557 จำนวน 194 ราย ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 13 ราย เสียชีวิต 3 รายเท่าเดิม ส่วนในต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวังมี 2 จังหวัด คือ อ่างทอง และสมุทรสงคราม ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ได้ให้ทีมแพทย์เตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ ณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมการในวันนี้ ได้แบ่งการทำงานเป็น 2 พื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 6 จุด ที่อยู่ในความดูแลตั้งแต่ 5 แยกลาดพร้าวจนถึงอนุสาวรีชัยสมรภูมิ และถนนสีลมได้เตรียมหน่วยปฐมพยาบาลพื้นฐานจากโรงพยาบาลกระบุรี โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสงฆ์ สถาบันประสาทวิทยา ดูแลร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูและสภากาชาดไทย ให้การดูแลรักษาทั่วไปแก่ผู้ชุมนุม และเตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉินชั้นสูง 6 ทีมเพื่อดูแลและส่งผู้บาดเจ็บจากพื้นที่ชุมนุมไปโรงพยาบาลต่างๆ ตามแผน คือ โรงพยาบาลกาญจนบุรี โรงพยาบาลสิงห์บุรี โรงพยาบาลลพบุรี โรงพยาบาลเพชรบุรี โรงพยาบาลนครนายก และโรงพยาบาลสุรินทร์  

ส่วนพื้นที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ได้จัดทีมแพทย์ฉุกเฉินชั้นสูง 3 ทีม จากโรงพยาบาลบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลปทุมธานี และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี ทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยกำชับให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยง 2 จุด คือที่ ถนนราชดำเนิน และ ที่ 5 แยกลาดพร้าว นายแพทย์ณรงค์ กล่าว

รองเท้าผ้าใบ

วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

จีนพบผู้ป่วยหวัดนก 'H7N9' อีก 6 ราย 'เซี่ยงไฮ้' แบนตลาดสัตว์ปีก




จีนพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธ์ุ เอช7เอ็น9 อีก 6 รายใน 4 มณฑล โดยหนึ่งในนี้เสียชีวิตแล้ว ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้สั่งแบนตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ...


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งประเทศจีนกำลังใช้มาตรการต่างๆ เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดนก หลังจากเมื่อวันศุกร์มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธ์ุ เอช7เอ็น9 (H7N9) 6 รายใน 4 มณฑล โดยหนึ่งในนั้นเป็นชายวัย 38 ปี และเสียชีวิตแล้ว

จากการเปิดเผยของคณะกรรมวางแผนครอบครัวและสุขภาพ แห่งชาติ (เอ็นเอชเอฟพีซี) ผู้ป่วยทั้ง 6 ราย รายหนึ่งอยู่ในมณฑลเจียงซู อยู่ที่มณฑลเจ้อเจียงและกวางตุ้งอีกที่ละ 2 ราย และรายสุดท้ายซึ่งได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว อยู่ในมณฑลฝูเจี้ยน

ตลอด เดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเอช7เอ็น9ในจีนแล้ว 14 ราย และอีก 1 รายในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง  ทำให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขพยายามออกมาตรการต่างๆเพื่อยับยั้งการแพร่กระจาย ของเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ในนครเซี่ยงไฮ้ ตัดสินใจสั่งห้ามการซื้อขายในตลาดค้าสัตว์ปีกเป็นๆ ซึ่งเชื้อว่าเป็นต้นตอการแพร่ไวรัชชนิดนี้.

รองเท้าผ้าใบ

ปมปลดพระเทพเวที ผ่านมา 3 ปี เหลือไว้เพียงรอยแผลเป็นศาสนา




คำสั่งปลดพระผู้ใหญ่วัดดัง แบบฟ้าผ่าเปรี้ยง เนื่องจากปมประเด็นเรื่องผลประโยชน์ และ ฉาวโฉ่ถึงขั้นลือกันว่าพัวพันสีกานอกเหนือจากสมีคำ คงเป็นพระองค์ไหนไม่ได้ นอกจาก พระเทพเวที อดีตเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม เงียบหายไป ไทยรัฐออนไลน์จะพาย้อนไปถึงปมการสั่งปลดพระเทพเวทีเนื่องจากครบ 3 ปี กับคำสั่งปลดดังกล่า
ข่าวคาวของสมีคำ เพิ่งจะเงียบหายไปแวดวงพระสงฆ์บอบช้ำอย่างหนักที่ถูกบุคคลที่เป็นมารศาสนามา เกาะกินหาผลประโยชน์โดยใช้พระพุทธศาสนามาบังหน้า ซึ่งข่าวคราวพระสงฆ์เข้าไปพัวพันสีกา และแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนก็มีมาให้เห็นอยู่เนืองๆ อย่างกรณีพระเทพเวที (ยิ้ม ภัททธัมโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม หรือที่รู้จักกันว่า วัดสมเด็จย่า ผ่านมาแล้ว 3 ปี บางคนอาจจะลืมกับข่าวสะท้านวงการผ้าเหลืองนี้ไป ซึ่ง ไทยรัฐออนไลน์จะมาย้อนเหตุการณ์ร่ายเรียงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นมาอย่างไร ซึ่ง ต้นสายปลายเหตุนั้นก็เริ่มมาจากมีผู้เช่าที่วัดในย่านตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ ร้องเรียน พระเทพเวที ต่อพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม และเจ้าคณะภาค 1 และ ร้องไปยังสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามและเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการขึ้นค่าเช่าอาคารของวัดที่ไม่เป็นธรรม

เจ้าคณะภาค 1 จึงทำการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และคณะกรรมการพบว่าพระเทพเวทีมีความผิดตามที่ถูกกล่าวอ้างจริง โดย ให้บุคคลที่ไม่ใช่ไวยาวัจกร เข้ามามีอำนาจหน้าที่ดูแลเรื่องจัดการผลประโยชน์ของวัด โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวประกอบด้วย นายนินนาไท นิลเอสงฆ์ ที่เป็นบุคคลที่ถูกศาลฟ้องล้มละลาย นางอัญชนา กิล หรือ นางแขก ที่เป็นแขกซิกข์โอนสัญชาติ และถูกพระลูกวัดอ้างว่าเป็นสีกาคนสนิทที่อาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับพระเทพเวที และยังมอบอำนาจให้บริษัทคนใกล้ชิดดูแลเรื่องสัญญาเช่าอาคารที่ตลาดน้อยถึง 25 ปี คือบริษัท บี แอนด์ บี คอนซัลท์ตัลที่ปัจจุบันปิดตัวลง คณะกรรมการตรวจสอบจึงได้สรุปชี้มูลความผิดส่งให้เจ้าคณะภาค 1 เพื่อเสนอต่อมหาเถรสมาคม

เจ้าคณะภาค 1 ได้ ทำการเรียกพระเทพเวทีมาให้ปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับการจัดประโยชน์อาคารบนที่ ธรณีสงฆ์ของวัดแต่พระเทพเวทีกลับไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าคณะภาค 1 และ ทำการตรวจสอบที่ดินของวัดอนงคาราม ย่านลาดกระบัง หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีการขุดดินเพื่อประโยชน์ตนในที่ธรณีสงฆ์ของวัดอนงคา ราม พบว่ามีการนำที่ดินที่ขุดได้ จากพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน ไปขายจริง


จนวันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2554 ในที่ประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 1 / 2554 ได้มีการเสนอวาระจร ต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ให้ปลดพระเทพเวที (ยิ้ม ภทฺรธมฺโม ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดอนงคาราม แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม เนื่องจากมีความผิดคือ 1. แต่งตั้งหรือใช้บุคคลให้ทำหน้าที่เช่นเดียวกับไวยาวัจกร 2. ให้การอันเป็นเท็จ และ 3. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ศาสนสมบัติวัดและขัดคำสั่งเจ้าคณะภาค 1 แต่มีเหตุควรปรานี เพราะเคยรับสนองงานการคณะสงฆ์ ในตำแหน่งเจ้าคณะเขตคลองสาน และรองเจ้าคณะภาค 1 อีกทั้งเป็นผู้ที่มีอายุกาลพรรษามาก จึงเสนอว่าพระเทพเวที เจ้า อาวาสวัดอนงคาราม หย่อนความสามารถ จึงเสนอให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม ฐานหย่อนความสามารถ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เสนอ และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2554 เป็นต้นมา และ ยังมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของวัดอนงคารมไว้ตรวจสอบโดยห้ามมิให้ผู้ใด โยกย้ายทรัพย์สินเป็นเด็ดขาด ประชาชนที่อยู่ในย่านใกล้เคียงวัดรวมตัวกันขับไล่หน้ากุฏิ รวมถึงพระลูกวัดที่ไม่พอใจพฤติกรรมของพระเทพเวที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม ต้องมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย สถานการณ์ในขณะนั้นวัดสมเด็จย่าบรรยากาศก็อึมครึม จากที่ผู้คนไม่ค่อยเข้ามา เหตุการณ์นี้เหมือนเป็นระเบิดเวลาที่ระเบิดขึ้นมาแล้วรอสงบ
วันที่ 18 ม.ค. พระราชปัญญารังษี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ในฐานะเจ้าคณะเขตคลองสาน เดินทางมาที่กุฏิพระเทพเวที พร้อมพระบัญชาสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้น ที่ให้พระเทพเวทีพ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส นำมาให้พระเทพเวทีลงลายมือรับทราบพระบัญชา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที พร้อมแจ้งพระภิกษุสามเณรในวัดว่าให้มาพร้อมเพรียงกันที่พระอุโบสถ เวลา 18.00 น.เย็นวันเดียวกัน เพื่อร่วมพิธีมอบพระบัญชาแต่งตั้งผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดอนงคารามให้กับพระราชปัญญามุนี (ขิม อิสฺสรธมฺโม ป.ธ.5) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอนงคาราม และ ผอ.ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ หลัง จากนั้นพระเทพเวทีก็ได้เก็บตัวเงียบภายในกุฏิ เจ้าตัวก็ยืนยันจะอุทธรณ์โดยได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าคำสั่งดัง กล่าวเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม ส่วนคนสนิท อย่างสีกา นางแขก ก็ปิดบ้านเงียบไร้ร่องรอย รวมถึงบริษัทที่รับดูทรัพย์สินของทางวัดที่เรียกเก็บค่าเช่าอาคารพาณิชย์จนคนเช่าโวยรวมตัวกันขับไล่ปิดบริษัทหนีความผิดไป
หลังจากทุกอย่างกระจ่างชัดแจ้งแล้ว พระเทพเวทีก็ยังไม่วายจบยืนยันว่าการกระทำของตนเองเป็นไปโดยความบริสุทธิ์ใจ และทำการยื่นอุทธรณ์คำสั่งถึงคณะกรรมการที่ตรวจสอบ แต่ก็เหมือนหลักฐานพยาน และพฤติกรรมเป็นที่ปรากฏแจ้งชัดเจนแล้วอุทธรณ์ดังกล่าวจึงไม่ได้ถูกรับการ พิจารณา วันเวลาผ่านไปจนวันนี้พระเทพเวทียังคงจำพรรษาอยู่ที่วัดอนงคารามเหมือนเดิม และมีลูกศิษย์ที่ยังเคารพอยู่เข้าแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนดูแลแม้ว่าเนื่องจาก ชราภาพมากและมีโรคประจำตัว
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา กล่าวยืนยันว่า ในขณะนั้นอุทธรณ์ของพระเทพเวทีทางเถรสมาคมไม่ได้เอามาพิจารณาเพราะถือว่าคำ สั่งถึงที่สุดแล้ว และพอมีคำสั่งปลดออกจากเจ้าอาวาส พระเทพเวทีก็ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่นอยู่พักใหญ่ ก่อนจะขอย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัดอนงคารามเหมือนเดิม ทั้งนี้วัดอนงคารามก็กลับมามีพุทธศาสนิกชนเข้ามาแวะเวียนทำบุญกันมากขึ้นพระ ลูกวัดสมัครสมานสามัคคีภายใต้การดูแลของพระปัญญามุนีเจ้าอาวาสคนปัจจุบัน ส่วนพระเทพเวทีกลับมาจำพรรษาที่วัดอนงคารามนั้นก็เป็นไปตามที่ท่านเคยประกาศ ผ่านสื่อไว้เมื่อ 3 ปี
ว่า  “จะขอตายที่วัดนี้”

รองเท้าผ้าใบ

มทภ.4 ยันทหารพร้อมยืนข้าง ปชช.และใช้แนวทางสันติ




แม่ทัพภาคที่ 4 ยัน ทหารพร้อมยืนเคียงข้างประชาชน พร้อมเรียกร้องให้คนในชาติ เร่งสร้างความสามัคคี ไม่แบ่งแยก และใช้แนวทางสันติ มั่นใจ ผบ.ทบ. จะนำทหารเป็นที่พึ่งของ ปชช...
เมื่อ 10.30 น. วันที่ 12 ม.ค. ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แถลงผลการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รอบ 3 เดือน ห้วง ต.ค. – ธ.ค. 2556 ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องในการแก้ปัญหา โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติตามแนวทางการเมืองนำการทหาร การบูรณาการแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วนภายใต้แผนปฏิบัติการต่อสู้เพื่อแก้ไข ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งงานด้านความมั่นคง และงานด้านการพัฒนา ส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่มีพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาตามลำดับ สรุปสถานการณ์ในห้วงตุลาคม ถึงธันวาคม 2557 มีการก่อเหตุรวม 192 เหตุการณ์ เป็นเหตุจากความมั่นคง 79 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 120 ราย และบาดเจ็บ 253 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดียวกันปี 2555 จะเห็นว่า จำนวนเหตุการณ์ และการเสียชีวิตลดลง และเมื่อเปรียบเทียบกับห้วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่า การก่อเหตุและการเสียชีวิตลดลง ตั้งแต่ปี 2547 พบว่าสถิติการก่อเหตุ และการสูญเสียลดลงตามลำดับ
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ และนโยบายกองทัพบก ในห้วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองว่า ทหารในส่วนกองทัพภาคที่ 4 ทุกนาย ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และพร้อมที่จะดำเนินงานทั้งปวงตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ขอยืนยันว่า กองทัพบกยังเป็นกองทัพของชาติ ของประชาชนทุกพวกทุกฝ่าย พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในทุกโอกาส ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจด้วยความอดทน และเสียสละตามหน้าที่ และความรับผิดชอบ ภายใต้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่กำหนดไว้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้นโยบายกองทัพบก คือพยายามทุกวิถีทาง ที่จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วนด้วยแนวทางสันติวิธี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องระมัดระวังการกำหนดบทบาทหรือแสดงออกในเรื่องทางการ เมือง โดยต้องไม่เกินขอบเขตความเหมาะสม และอยู่ภายใต้ความสมดุลที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน
"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผบ.ทบ.มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชนมากที่สุด และยังได้เรียกร้องอยู่เสมอ ให้คนในชาติได้เร่งสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น ไม่แบ่งแยก หรือสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม อีกทั้งยังขอให้ทุกฝ่ายได้คำนึงถึงกรอบกฎหมาย และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนมีความลำบากใจทุกครั้งที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ สถานการณ์ความขัดแย้งของประชาชน เพราะไม่ต้องการให้เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์นำไปสู่ความรุนแรง ขณะนี้กำลังพลทุกนายเข้าใจดีถึงความพยายามของ ผบ.ทบ.ที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้อย่างดีที่สุดท่ามกลางความ ขัดแย้ง ภายใต้ความเห็นที่หลากหลายของทุกฝ่าย และขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่า ทหารทุกคนสามารถเป็นที่พึ่งอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนได้อยู่เสมอ" พล.ท.สกล กล่าว

รองเท้าผ้าใบ

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

หุ้นร่วง 2.81 จุด นักลงทุนขาย ลดความเสี่ยง




หุ้นปิดตลาดลบ 2.81 จุด ปิดที่ 1,255.45 จุด การเมืองในประเทศเข้มข้นทุกขณะ หลังใกล้เข้าสู่ชัตดาวน์กรุงเทพฯ กดดันหุ้นไทย นักลงทุนขายลดความเสี่ยง...

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการ ซื้อขายวันนี้ (10 ม.ค. 57) ปรับลดลง 2.81 จุด ปิดที่ 1,255.45 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,190.69 ล้านบาท ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANCE), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต เปิดเผยว่า ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้  ดัชนีฯ แกว่งตัวในแดนลบ จากแรงกดดันการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เนื่องจากใกล้เข้าสู่การนัดหมายของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เพื่อทำการปิดกรุงเทพฯ มากขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ตัดสินใจขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงก่อนถึงวันหยุดสุด สัปดาห์
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในแดนลบ ซึ่งคาดว่ามาจากแรงขายก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ปิดกรุงเทพฯ ของกลุ่ม กปปส. ในวันจันทร์หน้า ซึ่งมองว่าการเมืองช่วงนี้เป็นปัจจัยที่คาดเดายาก
สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่าย ยังคงแกว่งตัวในแดนลบ เนื่องจากปัจจัยเดียวกับข้างต้น ซึ่งปัจจัยการเมืองถือเป็นประเด็นหลักที่ควรต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ   ตัวเลขจีดีพีเบื้องต้นช่วงไตรมาส 3/2556 ของอียู  เป็นต้น ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐฯ.

รองเท้าผ้าใบ

ปั่นเกมการเมือง 'เบิร์ด' เป็นเหยื่ออีกราย




การเมืองต้องจับตาดูให้ดีๆ อันไหนจริงหรือเท็จ หลงเชื่อง่ายๆ ก็อาจจะเป็นเหยื่อของพวกหวังผลประโยชน์ได้ เกมการเมืองยังมีทีท่าจะร้อนแรง ต่างฝ่ายต่างหาแนวร่วมเพื่อดึงมวลชนมาอยู่ข้างตัวเอง ล่าสุดนักร้องซุปตาร์ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ โดยพิษตัดต่อภาพ คาดว่าจะหวังผลเพื่อให้สนับสนุนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยทางต้นสังกัดแกรมมี่ ได้รีบเช็กข้อมูล แล้วยืนยันเลยว่าเป็นภาพเก่านานแล้ว ที่เบิร์ดชวนให้ออกมารณรงค์การเลือกตั้ง.

รองเท้าผ้าใบ

เฝ้า24ชั่วโมง! รอลุ้น'หลินฮุ่ย'ใกล้คลอดเต็มแก่




แพนด้าหลินฮุ่ย ส่งสัญญาณใกล้คลอด ระดับฮอร์โมนลดลงตามลำดับ ทีมสัตวแพทย์ร่วมลุ้น 24 ชั่่วโมง รับโอกาสเกิดแพนด้าน้อยมีตลอดเวลา ...

เมื่อ เวลา 01.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพนหลินฮุ่ยซึ่งอุ้มท้องได้ 103 วันได้ลุกขึ้นมาเดินกระวนกระวายไปมาในบริเวณคอกกัก และได้พยายามคาบกิ่งไผ่ ใบไผ่ รวมทั้งไม้ผุๆ มาทำรัง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำไว้ทั้งในคอกกักจำนวน 2 รัง และส่วนจัดแสดงด้านนอก 1 รัง แต่รังที่ 4 ทำบริเวณที่นอนประจำของหลินฮุ่ย ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับทีมพี่เลี้ยงที่เฝ้ารอดูตลอด 24 ชั่วโมง โดยต่างลุ้นกันว่าหลินฮุ่ยจะคลอดเวลาใด แต่เมื่อทำรังเสร็จ หลินฮุ่ยกลับนอนยาว ตื่นเช้ามา ก็ลุกมาเดินสำรวจรังที่สร้างไว้ ซึ่งทางทีมพี่เลี้ยงได้ทำการเก็บน้ำ ปัสสาวะของหลินฮุ่ยนำมาตรวจ พบว่าฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดลงเหลือ 171 นาโนกรัม หากลดลงมากกว่านี้ก็แสดงว่าใกล้คลอดเต็มทีแล้ว


ต่อ มาเมื่อเวลา 14.30 น. ที่สโมสรแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานผสมพันธุ์แพนด้า แถลงข่าวความคืบหน้าของแพนด้าหลินฮุ่ยว่า ในวันนี้หลินฮุ่ยทำรังที่ 4 ของตัวเองโดยทางทีมงานได้นำไม้ และกล่องกระดาษที่ดูแล้วไม่เป็นอันตรายไปวางไว้ให้หลินฮุ่ยนำไปทำรัง และทางตนได้สั่งให้เข้าทำความสะอาดที่อยู่หลินฮุ่ย ให้สะอาดตลอด และในช่วงที่หลินฮุ่ยทำรัง ก็จะทดลองนำกาบต้นหมากและใยมะพร้าวไปวางไว้ให้ เพื่อให้นำไปทำรัง

นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติกรรมทั่วไปในตอนเช้าวันนี้หลินฮุ่ยก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนใน ส่วนจัดการแสดง โดยจะหลับๆ ตื่นๆ เป็นอาการของหมีท้องปกติไม่ให้ทางเราได้กังวล แต่ก็ยังไม่มีพฤติกรรมหวือหวาให้เห็น เช่น การเลียและการเบ่ง สำหรับผลการฮอร์โมนฯ เก็บปัสสาวะได้ 2 ครั้ง ในช่วงตี 5 และ 9 โมงเช้า ค่าเฉลี่ยของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเหลืออยู่ที่ 171 นาโนกรัม ในด้านของทีมสัตวแพทย์ยังถือว่าสูงอยู่ ตัวอ่อนก็พัฒนาเรื่อยๆ ในครรภ์ ยังไม่มีทีท่าส่งสัญญาณสิ้นสุดของการตั้งท้อง ก็คงต้องเฝ้าดู ตนก็ดีใจที่เห็นทีมพี่เลี้ยงสามารถทำงานกับหลินฮุ่ยได้ และสามารถเข้าเก็บตัวอย่างปัสสาวะได้ทุกๆ วัน ในด้านการทำอัลตร้าซาวด์ ก็รอเครื่องที่มีคุณภาพสูงที่กำลังเดินทางมาถึงในวันที่ 13 ม.ค.นี้ หากนำมาใช้ก็จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนตามเป้าหมาย เมื่อแน่ชัดแล้วจะไม่มีการทำอัลตร้าซาวด์อีก


"สำหรับ ความหวัง ที่จะได้แพนด้า ยังคงมีความหวังสูงถึงแม้ที่ผ่านมาจะสะดุดบ้างแต่ก็สามารถผ่านจุดนั้นมาแล้ว และไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอกว่าการตั้งครรภ์ในครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะนี้ก็ใกล้เข้ามาทุกทีเหมือนช่วงที่ตอนเกิดหลินปิง แล้วรอเพียงแต่ฮอร์โมนฯ นับจากวันนี้เป็นต้นไปโอกาสที่จะเกิดเป็นไปได้ทุกเวลาแต่จะคลอดที่รังไหนรัง หนึ่งใน 4 รังนี้" หัวหน้าคณะทำงานผสมพันธุ์แพนด้า กล่าว.

รองเท้าผ้าใบ

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ปปช.แจ้งข้อกล่าวหา 308 ส.ส.,ส.ว.ปมที่มาส.ว.แต่'ยิ่งลักษณ์'รอด!




ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา 308 ส.ส.สว. รอด 73 คนนายกฯรวมด้วย เมิน พท.เอาผิดม.157
วัน ที่ 7 ม.ค. เมื่อเวลา 16.40 น. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยนายวิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกปปช. และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย รองโฆษกปปช. ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้า การไต่สวนคดี การถอดถอนสมาชิกรัฐสภา จำนวน 381 คน ที่ลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.โดยมิชอบ
โดย นายวิชา กล่าวว่า ที่ป.ป.ช.ประชุมพิจารณาในวันนี้ ช้ากว่าเวลาที่นัดแถลงข่าวนานนั้น เพราะเมื่อวานมีผู้ร้องต่อ ป.ป.ช. หลายประเด็น ซึ่งทำให้ ป.ป.ช.นำประเด็นเหล่านั้น มาพิจารณาก่อน ซึ่งมีผล ดังนี้ 1.มีผู้ร้องว่าตนและนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ไม่ควรที่จะร่วมเป็นกรรมการในการรับผิดชอบสำนวนคดีนี้ เพราะเกรง ว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งป.ป.ช.ได้พิจารณาตามมาตรา 46 ของกฎหมายป.ป.ช.ว่า เข้าเหตุ หรือไม่ ที่สุดแล้วที่ประชุม ป.ป.ช.ยกเว้นตน และนายภักดี มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นตรงกันว่า ไม่เข้าเหตุ ตามมาตราดังกล่าว  2.คำร้องที่ว่า สมาชิกรัฐสภาไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม ป.วิอาญา นั้น ป.ป.ช.ได้พิจารณาตามมาตรา 123/1 ซึ่งสมาชิกรัฐสภา มีฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนที่บอกว่า การทำหน้าที่ของป.ป.ช. เร่งรีบในการไต่สวนนั้น เป็นเพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ที่ระบุว่า การไต่สวนต้องทำให้รวดเร็ว
“การพิจารณาการร้องถอดถอนเฉพาะหน้าที่ของ ป.ป.ช. คือ การไต่สวนตามคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งมา ว่า มีการกล่าวหาบุคคลว่า มีใครได้บ้าง ป.ป.ช.ไม่สามารถที่จะไปไต่สวนเพิ่มเติม จากที่วุฒิสภา ส่งมาได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญได้กำหนดเอาไว้ชัดเจน” นายวิชากล่าว
ด้าน นายประสาท กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่ได้จากศาลรัฐธรรมนูญ และพยานหลักฐานจากสำนักงานเลขาธิการสภา และพยานหลักฐานอื่นๆ ป.ป.ช.ที่มีองค์คณะจำนวน 9 คน ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงมีมติแจ้งข้อกล่าวหาแบ่งตามกลุ่มดังนี้
กลุ่ม แรกเห็นว่า กลุ่มแรก ส.ส.และส.ว. ที่ร่วมกันเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เข้าร่วมประชุมพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบทั้ง 3 วาระ จำนวน 293 คน อยู่ในข่าย ที่จะแจ้งข้อกล่าวหา
กลุ่มที่ 2 ส.ส.และส.ว. ที่ร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ร่วมลงมติในวาระที่ 1 2 หรือ 3 หรือ 3 วาระ แต่ไม่ได้ร่วมอยู่ในกระบวนการทั้งหมด ซึ่งก็คือไม่ได้ร่วมเสนอญัตติ จำนวน 15 คน อยู่ในข่ายแจ้งข้อกล่าวหา เช่นกัน ดังนั้น ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหา รวมจำนวน 308 คน ส่วน ส.ส.และส.ว. อีกจำนวน 73 คนนั้น ไม่อยู่ในข่ายที่จะแจ้งข้อกล่าวหา เพราะใช้เอกสิทธิ์ตามมาตรา 130 ที่ส.ส.และส.ว.สามารถใช้ดุลพินิจดำเนินการได้
“แต่เหตุที่ดำเนินการ 308 ท่าน เพราะมีส่วนในการรับรู้ เรื่องการเสนอ ร่างรธน.ในเบื้องต้น และมาพิจารณาในวาระที่ 1-2-3 หรือ 3 วาระ ซึ่งถือว่า พฤติกรรมมีมูลเพียงพอ ที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ไม่สามารถ อ้าง มาตรา 130 มาหักล้างได้”
นายวิชา กล่าวว่า ส.ส.และ ส.ว.ที่ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ ส.ส.และส.ว.จำนวน 65 คนที่ลงมติเฉพาะวาระที่ 3 เท่านั้น ไม่ได้ร่วมเสนอร่าง ไม่ได้ลงวาระที่ 1 และ 2 ซึ่งปปช.มีมติ 7 ต่อ 2 ว่า กลุ่มนี้ไม่ปรากฏพฤติกรรมการกระทำความผิดชัดเจนเพียงพอ ประกอบกับเอกสิทธิ์ รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 130 จึงถือว่า คำร้องไม่มีมูลและตกไป ซึ่งในส่วนนี้ มีนายกรัฐมนตรี ด้วย ขณะที่อีกจำนวน 8 คน ที่ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ว่า ส.ส.และส.ว.ไม่ได้ร่วมเสนอร่างนี้เลย และไม่ได้ลงมติในวาระที่ 3 ด้วย ซึ่งถือว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง
นายวิชา กล่าวว่า การพิจารณาของป.ป.ช.มีพื้นฐานมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็น การปลอมเอกสารตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ชี้ขาดไว้ ซึ่งผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา จำนวน 308 คนจะต้องมาแก้ข้อกล่าวหา ต่อปปช.ต่อไป เบื้องต้น ในวันที่ 15-17 มกราคมนี้ ป.ป.ช.จะตั้งโต๊ะ เพื่อให้ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มารับฟังข้อกล่าวหา ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะดำนินการเอาผิดตามมาตรา 157 กับกรรมการ ป.ป.ช.นั้น สุดแล้วแต่ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป

รองเท้าผ้าใบ

ปชป. เปิดพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย




"พรรค ปชป." เปิดพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย มุ่งเน้นขจัดคอร์รัปชัน ลดอำนาจนักการเมือง ลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมผลักดันมาตรการให้สามารถบังคับใช้ได้ทันทีในอนาคต...

วัน ที่ 7 ม.ค. 57 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ประธานสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย ร่วมกันแถลงเปิดพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย "ขจัดคอร์รัปชัน มุ่งมั่นปฏิรูป" ที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร


นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เสนอพิมพ์เขียวการปฏิรูปประเทศที่ครอบคลุมทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม แบ่งเป็น 7 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการขจัดและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ด้านการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ปฏิรูปด้านระบบราชการและการกระจายอำนาจ ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านการศึกษา และปฏิรูปสื่อมวลชน ซึ่งจากนี้ไปพรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมประเด็น วิเคราะห์ และหามาตรการการแก้ไขปัญหา และเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในทุกๆ ด้าน


นาย อภิสิทธิ์ ยังระบุว่า สำหรับปัญหาการคอร์รัปชัน ถือเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูป จึงจำเป็นต้องปฏิรูปก่อน เพราะปัญหาคอร์รัปชันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสการแข่งขันใน ทุกๆ ด้าน ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมูลค่าการสูญเสียจากคอร์รัปชันมากถึง 3 แสนล้านบาท ที่สำคัญปัญหาการคอร์รัปชันที่เกิดขึ้น กำลังทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสในการแข่งขัน การรับการลงทุนในอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า ที่ผ่านมาต่างชาติได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือด้านการต่อต้านคอร์รัปชันมาโดย ลำดับ จากที่เคยเป็นประเทศที่น่าลงทุนอันดับที่ 2 ของอาเซียน ตอนนี้ตกมาอยู่ลำดับที่ 4


สำหรับ ในปัจจุบัน การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย ส่วนใหญ่มาจากการทุจริตเชิงนโยบาย การปล้นทรัพยากร การฮั้วประมูล การซื้อความได้เปรียบ ซื้อความสะดวก ซื้อผิดเป็นถูก ฉะนั้นมาตรการที่จะขจัดปัญหาการคอร์รัปชันได้ มี 4 ด้าน คือ ป้องกัน โปร่งใส ปลูกจิตสำนึก และปราบปราม ด้านการปราบปรามนั้น ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่มีหมดอายุความ เพิ่มอำนาจ ป.ป.ช. ในการสืบสวน เพิ่มบทบาท สตง. และผู้ตรวจการแผ่นดิน และต้องมีการตรวจสอบภาษีย้อนหลังของนักการเมือง ผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานรัฐ


ด้านการป้องกันนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกฎหมาย พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของข้าราชการ พศ. ... มีกฎหมายการจัดซื้อ จัดจ้าง เพื่อควบคุมการตั้งราคากลาง และให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ไม่ต้องมีการจ่ายใต้โต๊ะ และต้องลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจให้กับประชาชน/ห้ามเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมดำรงตำแหน่ง เป็นกรรมการในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และต้องจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงของการคอร์รัปชันของนโยบายและโครงการ ขนาดใหญ่


ส่วน มาตรการด้านความโปร่งใสนั้น จะต้องจัดให้มีข้อตกลงคุณธรรมในการจัดซื้อ จัดจ้าง ในทุกขั้นตอนต้องมีผู้ตรวจสอบอิสระ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสให้มากขึ้น เพิ่มมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลของรัฐวิสาหกิจให้เทียบเท่ากับบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์/ต้องแก้กฎหมายข้อมูล ข่าวสารของข้าราชการให้สามารถตรวจสอบข้อมูลข้าราชการได้ง่ายขึ้น สุดท้ายต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สิน และผลประโยชน์ทางธุรกิจของผู้บริหารระดับสูง


สุด ท้าย มาตรการด้านการปลูกฝังนั้น การปฏิรูปจะต้องขยายผลหลักสูตร โตไปไม่โกง สนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งหน่วยงานเฝ้าระวัง ด้านคอร์รัปชัน รวมถึงจะต้องจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการต่อต้านการคอร์รัปชันด้วย ทั้งหมดนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับเข้าไปบริหารประเทศ หรือกลับเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง จะเร่งผลักดันในเรื่องดังกล่าว เพราะสามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้ทันที ส่วนการปฏิรูปอีก 6 ด้านที่เหลือ พรรคประชาธิปัตย์จะแถลงในโอกาสต่อไป


ทั้ง นี้ ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์กล่าวเปิดงาน ได้เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อชายวัยกลางคนได้ลุกขึ้นเป่านกหวีด พร้อมชูป้าย RESPECT MY VOTE  และตะโกนไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูปของพรรค พร้อมถามว่า คุณยังกล้าปฏิรูปหรือ? ประชาชนไม่เอาคุณแล้ว คุณข่มขู่คุกคามคนอื่นได้ แต่คนอื่นทำไรคุณไม่ได้ จนฝ่ายรักษาความปลอดภัยต้องเชิญตัวออกไป.
 

ส่อวุ่น! 87ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ ขาดคุณสมบัติ




"ภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง" เผย 87 ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จาก 25 พรรคการเมืองขาดคุณสมบัติ แนะยื่นศาลฎีกาให้ตรวจสอบและวินิจฉัยภายใน 7 วัน
วันที่ 7 ม.ค. 57 นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พบว่ามีผู้สมัครจำนวน 87 รายจาก 25 พรรคการเมืองขาดคุณสมบัติ แบ่งเป็นขาดคุณสมบัติจากการไม่ใช้สิทธิเลือกตั้ง 60 ราย เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ครบ 30 วัน 25 ราย อยู่ระหว่างการเพิกถอนสิทธิ์ 1 ราย และอายุไม่ครบ 25 ปีบริบูรณ์ 1 ราย
โดย ในจำนวนนี้มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจำนวน 4 คน คือนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายจรัล ดิษฐาอภิชัย พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นแสน และนายถาวร ตรีรัตณรงค์ พรรคภูมิใจไทย 7 คน เช่น นายศุภชัย ใจสมุทร พรรคชาติพัฒนา 2 คน พรรคชาติไทยพัฒนาจำนวน 4 คน
โดย กกต.แนะนำให้ผู้ขาดคุณสมบัติทั้งหมดใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาของ ส.ว.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้ตรวจสอบและวินิจฉัยภายใน 7 วัน ส่วนการดำเนินคดีกับผู้สมัครและผู้เกี่ยวข้องจะมีการพิจารณาในข้อกฎหมาย และฐานความผิดหลังมีข้อยุติในชั้นการพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว

ทั้งนี้ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมตรี มีมติกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการจำนำข้าวเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 181 ระบุชัดให้ ครม.ต้องแจ้งต่อ กกต.เพื่อพิจารณา เพราะเข้าข่ายโครงการ ที่มีผลผูกพันกับรัฐบาลชุดต่อไป และต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.ก่อน แต่ขณะนี้ ยังไม่มีการทำเรื่องแจ้งมายัง กกต. นอกจากนี้ หากมีการใช้งบกลางในการดำเนินการใดๆ ก็ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.เช่นกัน

ส่วน กรณีที่ กปปส.ประกาศตั้งเวทีการชุมนุม ที่ถนนแจ้งวัฒนะ ห้ามข้าราชการในศูนย์ราชการทำงานนั้น ทาง กกต.ได้เตรียมแผนและสถานที่ทำงานรองรับแล้ว โดยจะเปิดเผย ข้อมูลวันศุกร์ที่จะถึงนี้ โดยยืนยันว่า กกต.มีความพร้อมในการทำหน้าที่ และมั่นใจว่า การเลือกตั้งในไทยจะไม่เหมือนบังกลาเทศ
ซึ่ง กกต. มีมติให้ใช้รูปแบบการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ภายใต้สโลแกน รู้หน้าที่ รักษาสิทธิ โดยสุจริตและเที่ยงธรรม เน้นการสื่อสารทางการเมือง 4 ด้าน คือ ความเป็นกลาง ความเป็นมืออาชีพ ยึดกฎหมายในการปฏิบัติงานและไร้ความรุนแรง พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐปลดป้าย งดสื่อโฆษณาทุกรูปแบบซึ่งปรากฏรูปภาพนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ออกทั้งหมด ป้องกันการร้องเรียนเรื่องทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

รองเท้าผ้าใบ

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

พม.มอบของขวัญวันเด็กให้เหยื่อไฟใต้ 3 จังหวัด




พม. จับมือ ศอ.บต. จัดโครงการ "จักรยานปั่นรัก พม. มอบของขวัญวันเด็ก ให้น้องจังหวัดชายแดนใต้" มอบจักรยานแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ และเด็กผู้ด้อยโอกาส ในจังหวัดปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส จำนวน 500 คัน...
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 56 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดโครงการ "จักรยานปั่นรัก พม. มอบของขวัญวันเด็ก ให้น้องจังหวัดชายแดนใต้" โดยมี นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดปัตตานี

นายวิเชียร กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นหน่วยงานที่ต้องทำงานทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ ซึ่งจากรายงานข้อมูล มีจำนวนเด็กกำพร้ามากกว่า 10,000 คน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลเด็กและเยาวชน ต้องการให้เด็กทุกคนมีความสุข ทั้งที่อยู่ที่บ้าน ที่โรงเรียน และที่อื่นๆ เพราะเด็กเป็นอนาคต และเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติที่ต้องได้รับการดูแล ช่วยเหลือ และเอาใจใส่จากครอบครัว ชุมชน หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และ ศอ.บต. จึงได้จัดทำโครงการ "จักรยานปั่นรัก พม. มอบของขวัญวันเด็ก ให้น้องจังหวัดชายแดนใต้" โดยนำรถจักรยานมามอบให้กับเด็กๆ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา จังหวัดละ 500 คัน รวมทั้งสิ้น 2,000 คัน ซึ่งของขวัญชิ้นพิเศษนี้ จะเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสปีใหม่ และสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติ ที่จะมาถึงในวันเสาร์ที่ 11 มกราคมนี้

นายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า เด็กๆ บางคนต้องเดินเท้าไปโรงเรียน และบ้านอยู่ห่างไกลจากโรงเรียน ซึ่งเด็กบางคนไม่เคยมีโอกาสร่วมกิจกรรมในวันเด็ก กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้จัดกิจกรรมที่เหมาะสมให้แก่เด็ก เพื่อให้เด็กได้รับความสนุกสนาน และได้มีโอกาสเจอเพื่อนต่างโรงเรียน และสำหรับการจัดโครงการฯ ที่จังหวัดปัตตานีในครั้งนี้ มีการมอบรถจักรยานแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ และเด็กผู้ด้อยโอกาส ในจังหวัดปัตตานี จำนวน 500 คัน จังหวัดยะลา และนราธิวาส อีกจังหวัดละ 500 คัน เพื่อให้เด็กๆ ดังกล่าว นำไปใช้เป็นยานพาหนะไปโรงเรียน และใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับเด็ก อาทิ กิจกรรมคาราวานเด็ก การเล่นเกม การมอบของขวัญ ฯลฯ อีกด้วย.

รองเท้าผ้าใบ

ทบ.ย้ำ! เคลื่อนรถถังแค่งานวันเด็ก




"กองทัพบก" แจ้ง 9 ม.ค. เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์เข้ากรุงเทพฯ จัดงานวันเด็กแห่งชาติ วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ...

เมื่อ วันที่ 6 ม.ค. 57 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในวันที่ 9 ม.ค. 57 กองทัพบกจะทำการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์จำนวนมาก จากหน่วยทหารที่มีที่ตั้งใน จ.ราชบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.ลพบุรี และในบางเขตของ กทม. เพื่อเตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557
ทั้งนี้ จะมีการเคลื่อนย้ายไปจัดแสดงใน 2 พื้นที่ของกองทัพบก ได้แก่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เขตสนามเป้า กทม. และกองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. โดยจะเคลื่อนย้ายในเวลา 11.00-12.00 น. และการเคลื่อนย้ายเฮลิคอปเตอร์ จาก จ.ลพบุรี มายังกองพลทหารม้า รักษาพระองค์ ในเวลา 19.00-22.00 น.
นอกจากนี้ ยีงมีการเคลื่อนย้ายยานเกราะล้อยาง รถถัง ปืนใหญ่ รถลาดตระเวน (ฮัมวี่) รถกู้ภัย รถสายพานอเนกประสงค์ รถเกราะล้อยาง REVA จากหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ราชบุรี จ.ลพบุรี จ.ปราจีนบุรี และเขตดุสิต, เขตพญาไท, เขตหลักสี่ กทม. ไปยังสถานที่จัดงานวันเด็กทั้งสองแห่ง โดยเส้นทางการเคลื่อนย้ายผ่านถนนต่างๆ ได้แก่ ถ.เพชรเกษม, ถ.ปิ่นเกล้านครชัยศรี, ถ.วิภาวดีรังสิต, ถ.ทหาร, ถ.พหลโยธิน, ถ.ประดิพัทธ์, ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกจะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์กลับที่ตั้งหน่วยทหารเดิม หลังจากจบกิจกรรมวันเด็กแล้ว ในวันที่ 11 ม.ค. 57 ในเวลาตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป และจะเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม จึงแจ้งมายังประชาชนให้รับทราบ และอย่าหลงเชื่อข่าวลือที่เกิดขึ้น.

รองเท้าผ้าใบ