วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

น้อยใจรักน้องมากกว่า! พี่สารภาพฆ่ายกครัว3ศพ



ลูกชายคนโตสารภาพสิ้น เป็นคนปลิดชีพ พ่อแม่และน้อง 3 ศพยกครัว อ้างถูกดุด่าเรื่องผลการเรียนตก วางแผนใช้ยานอนหลับ แต่ไม่เป็นผล ก่อนลงมือเหี้ยม ฆ่าเรียงคน 3 ศพ ลั่นเสียใจ "ผมขอโทษ"
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 มี.ค 57 ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมตัวนายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี หลังจากวางแผนฆ่าโหดใช้อาวุธปืนยิงพ่อแม่และน้องชายตัวเอง จนเสียชีวิต ที่บ้านใน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มี.ค 57

สอบสวนนายบี รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้มาทวงสัญญากับพอและแม่ เรื่องที่จะซื้อรถให้หากเข้ามหาวิทยาลัยได้ ซึ่งตนก็เข้าได้แล้วและเรียนมา 1 ปี แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้ จึงทำให้โดนดุด่าเรื่องผลการเรียนตก ไม่สนใจเรียน และเรื่องอื่นๆ รวมถึงเรื่องน้องที่รู้สึกว่าพ่อแม่รักน้องมากกว่าตน ซึ่งพ่อกับแม่จึงไม่ยอมซื้อให้ ทำให้คนรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก ตนจึงวางแผนจะวางยานอนหลับบิดาและมารดาก่อน โดยเป็นยานอนหลับชนิดละลายน้ำแต่ไม่เป็นผล จึงได้ไปซื้อยานอนหลับชนิดใหม่ เป็นชนิดน้ำ และคืนเกิดเหตุกะจะวางยานอนหลับอีกครั้งแต่ยากลับตกพื้นแตกเสียก่อน โดยตนก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะกินหมูกระทะเสร็จ แล้วแยกย้ายกันเข้านอนตามปกติ โดยตนเข้าไปนอนที่ห้องนอนชั้น 2 ส่วนพ่อแม่และน้อง เข้านอนที่ห้องนอนที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน จากนั้นตนได้ไปเจอกล่องเก็บปืนของพ่อที่วางอยู่ในห้องตน จึงได้หยิบปืนออกมา แล้วเดินไปที่ห้องพ่อ พบว่าห้องไม่ได้ล็อก จึงเปิดเข้าไปพบ ทั้ง 3 คนนอนอยู่ ทีแรกคิดจะยิงแม่เพียงคนเดียว แต่เกรงว่าพ่อ และน้องชายจะตื่นมาเจอ จึงได้ตัดสินใจยิงทั้ง 3 คน

"รู้สึกกังวลกับ สิ่งที่ทำ และเกรงกลัวความผิด จึงได้นำปืนมาวางไว้ข้างศพน้องชาย เพื่อกลบเกลื่อนความผิด แล้วก็ล็อกประตูห้องนอนแล้วออกมาทางประตูห้องน้ำ ก่อนที่จะลงมาด้านล่าง จนกระทั่งเวลา 07.00 น. ของวันต่อมา จึงได้ขับรถออกไปที่คอนโดฯ แล้วโทรศัพท์ไปหาป้าว่าติดต่อพ่อไม่ได้ แล้วก็พบเจอศพดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้ ผมรู้สึกเสียใจที่ทำไปอย่างนี้ และขอโทษพ่อแม่และน้อง และญาติพี่น้องทุกคน" นายบี กล่าว

รองเท้าผ้าใบ

'เฉลิม'เปรยเลิก'พรก.ฉุกเฉิน' อัด ส.ว.ยื่นศาลรธน.สอย'นายกฯ'


"เฉลิม" อัด ส.ว.ยื่นศาล รธน. สอย "นายกฯ" อ้างคืนตำแหน่งให้ "ถวิล" แล้ว ไร้ข้ออ้างล้มรัฐ เปรยอาจยุบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห่วง ป.ป.ช. ฟันจำนำข้าว ทำนายกฯ พ้นสภาพ...
วันที่ 11 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 นำรายชื่อ 27 ส.ว. ยื่นคำร้องเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องสิ้นสุดจากความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ จากการมีคำสั่งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า เป็นสิทธิที่ยื่นได้ แต่เชื่อว่าไม่มีผล เพราะสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ย้ายข้าราชการ หูดับตับไหม้ ไม่เห็นมีใครเอาเรื่อง เพราะคนถูกย้ายมีสปีริต เหมือนกับอเมริกาเปลี่ยนประธานาธิบดี ก็ต้องเปลี่ยนเอฟบีไอ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ย้าย นายสุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาธิการ สมช. และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เพราะเป็นพวกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งสองคนไม่โวยวาย ยอมรับกติกา เพราะ ผู้นำรัฐบาลไม่ใจวางใจ แต่พอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้ายนายถวิล พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นจะตาย จะบ้าจะคลั่ง มองเงาตัวเองบ้าง

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า อยากถาม 27 ส.ว.ไปยื่นทำไม ศาลปกครองสั่งให้คืนตำแหน่งนายถวิล รัฐบาลก็คืนให้ ไม่เห็นจะมีประเด็นตรงไหน ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้จักคำว่า ประชาธิปไตย ไม่เคยไปปราศรัย ไหว้ชาวบ้าน และเห็นว่า นายถวิลควรเอาเยี่ยงอย่างนายสุรพล และ พล.ท.ภราดร และการที่นายถวิลขึ้นเวที กปปส. ถือเป็นผู้ต้องหากบฏ ถ้าตนยังนั่งเป็น ผอ.ศรส. ยังนึกไม่ออกจะนั่งร่วมประชุมกับนายถวิลอย่างไร

เมื่อ ถามว่า หากนายถวิลกลับมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. จะกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะนายถวิลไม่ได้เก่งกาจอะไร และจะทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา นายถวิลจะเก่งอะไร ตัดข่าวจากมติชนมาวิเคราะห์ เหมือนปีศาจคาบไปป์ วิเคราะห์จนรัฐบาลเจ๊ง 

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อไปว่า ส่วน ศรส.จะยุบหรือไม่ ตนไม่มีปัญหา อยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะศาลมีคำสั่งห้าม 9 ข้อ และมีข่าวว่า นายกฯ จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สถานการณ์วันนี้ บ้านมืองยังไม่สงบ เนื่องจากมีเหตุระเบิดตลอด และเหตุระเบิดที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 10 มี.ค. น่าสงสัย ปกติเวลามีระเบิด กปปส.จะให้ทหารเข้า แต่ครั้งนี้ไม่ให้เข้า ตำรวจก็ไม่ให้เข้า มีคนแอบมากระซิบว่าทำระเบิดกันเอง ไม่มีใครยิง ไม่จบหรอก สงครามเพิ่งเริ่มต้น

ส่วนเหตุระเบิดเอ็ม 79 ที่บ้านนายสุเทพ ตนก็ได้ดูตามข่าว เขาจะไม่เอาเรื่องไม่ได้หรอก ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวน เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน จะแสดงความสปอร์ต ใครยิงบ้านไม่เอาเรื่องไม่ได้ ต้องว่า ตามกฎหมาย ยืนยันบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ยากจะอยู่กันอย่างไร เดี๋ยวก็ระเบิด หรือนั่งรถไปสองคัน ปิดบริษัทนั้นบริษัทนี้ ส่วนเรื่องปฏิรูป เอาหมอไปปฏิรูปเรื่องความยากจน เหมือนเอาไก่ไปว่ายน้ำ มันต้องเอาเป็ด

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า การที่ตนไปยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาคำสั่งศาลแพ่ง รวมถึงยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความการชุมนุม กปปส. ไปเป็นโดยสงบหรือไม่ เพื่อเอาไว้เป็นกรณีศึกษา เผื่อวันหน้ารัฐบาลออกพระราชกำหนดอีก จะได้นำมาใช้ได้ และสิ่งที่ ศรส.ห่วงหลังจากนี้คือ ความไม่สงบ อีกฝ่ายยืนในระบอบประชาธิปไตย แต่อีกฝ่ายแฝงเผด็จการ

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณเห็นว่า นายกรัฐมนตรีควรใช้มาตรการเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในเวลานี้นั้น ในฐานะเป็น รมว.แรงงาน คงไม่กล้าแสดงความเห็น เมื่อถามว่าประเด็นที่คิดว่า จะส่งผลเร็วที่สุดต่อรัฐบาลจากศาลรัฐธรรมนูญ คือ เรื่องอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ศาลรัฐธรรมนูญไม่น่ากลัว และประเด็นการแก้ไขที่มา ส.ว. ก็ไม่น่ากลัว จะเป็นไปถอดถอนใคร เพราะขณะผู้จะถูกถอดถอนไม่มีตำแหน่ง มองว่าไม่มีปัญหา ที่น่ากลัว คือ ป.ป.ช. ตนดูการเมืองไม่ผิด โดยเฉพาะเรื่องข้าว เดิมทีไม่มีชื่อนายกฯ ที่จะตกเป็นผู้ต้องหา ตนตามมาตลอดเรื่องนี้ แต่จู่ๆ บอกต้องเอานายกฯ ให้ได้ โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งนายกฯ พร้อมชี้แจง เรื่องนี้น่ากลัว เมืองไทยการเมืองอยู่ยาก ต้องทันเกม และไม่กล้าประเมินว่า ป.ป.ช.จะใช้เวลาเท่าไร แต่คิดว่า จะเหนือการคาดการณ์ เรื่องนี้ ป.ป.ช.ต้องให้ความเป็นธรรม ถ้าตัดสินขัดสายตาคนดู ปัญหาก็จะเกิด

เมื่อ ถามว่า ห่วงการเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะเป็นโมฆะหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี พวกคิดเพ้อเจ้อ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ห่วงและเชื่อว่า มีแนวโน้มโมฆะ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พ.ต.ทักษิณ มีสิทธิ์ห่วง เพราะอยู่ไกลเหตุการณ์ และตนไม่อยากพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ได้ยืนอยู่ในระบอบประชาธิปไตย นักการเมืองอื่นอาจจะกลัวพรรคประชาธิปัตย์ หรือกลัวนายสุเทพลากไส้ แต่คนชื่อ เฉลิม อยู่บำรุง ปลอดภัย และการที่นายสุเทพเริ่มวางกรอบการปฏิรูปประเทศนั้น มีคนเขียนให้เสร็จแล้ว แสดงให้เห็นว่า ที่มาชุมนุมเพื่อต้องการปฏิรูปประเทศ แต่จริงๆ มีเป้าหมายหลัก คือ การล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ด้วยวิธีการใดก็ได้

เมื่อ ถามว่า นายสมชัย ศรีสุทธยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ระบุว่าจะมีรัฐบาลได้เดือนมิถุนายน จะเป็นไปได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ภาวนา แต่ต้องได้รัฐบาลประชาธิปไตย ดีที่สุด เลือกให้จบ จัดตั้งรัฐบาล มีนายกฯ ใหม่ และปฏิรูปการเมืองเสร็จ แล้วยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ดีที่สุด บ้านเมืองไปได้

รองเท้าผ้าใบ

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

'มาเลเซียแอร์ฯ' เผยเช็กสภาพ 'โบอิ้ง777' ก่อนหาย 10 วัน


'มาเลเซีย แอร์ไลน์ส' มีแถลงการณ์ถึงความคืบหน้าล่าสุดของการค้นหาเครื่องบิน โบอิ้ง 777 ที่หายสาบสูญไป ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบเครื่องบิน และได้ขยายกรอบค้นหาในพื้นที่ช่องแคบมะละกา และการค้นหาบนบกด้วย...

แถลง การณ์บนเว็บไซต์ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ซึ่งโพสต์เมื่อเวลา 11:15 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ระบุว่า พวกเขายังไม่พบเครื่องบินที่หายไปแม้ย่างเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว ทีมค้นหาและกู้ภัยได้ขยายกรอบการค้นหานอกเหนือไปจากเส้นทางการบินของเที่ยว บินนี้ โดยมุ่งไปที่บริเวณช่องแคบมะละกา ทางตะวันตกของมาเลเซีย เจ้าหน้าที่กำลังมองหาความเป็นไปได้ที่เที่ยวบิน MH370 จะพยายามเดินทางกลับมาที่เมืองซูบัง เรายังพิจารณาทุกแง่มุม และไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ ออกไป

ตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่เที่ยวบิน MH370 จะหายไปจากจอเรดาร์อยู่ที่พิกัด 6.5515 องศาเหนือ (ลองจิจูด) และ 103.3443 องศาตะวันออก (ละติจูด) ภารกิจค้นหาได้รับความช่วยเหลือจากหลายประเทศ คือ ออสเตรเลีย, จีน, ไทย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกา มีเครื่องบินทั้งหมด 9 ลำ และเรืออีก 24 ลำเข้าร่วมในภารกิจครั้งนี้

นอก จากการค้นหาในทะเลแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการค้นหาบนบกในบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน ก่อนหน้านี้ ทีมค้นหาและกู้ภัยได้วิเคราะห์เศษชิ้นส่วนและคราบน้ำมันที่พบในทะเลแล้ว พวกเขายืนยันว่าไม่ใช่ชิ้นส่วนและน้ำมันของเที่ยวบิน MH370

แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า เครื่องบินโบอิ้ง B777-200 ที่ปฏิบัติการเที่ยวบิน MH370 เคยเข้ารับการตรวจสภาพ 10 วัน เริ่มบินอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. 2014 และกำหนดการตรวจสภาพครั้งต่อไป วันที่ 19 มิ.ย. 2014 การตรวจสอบสภาพเครื่องบินเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติ กัวลาลัมเปอร์ และไม่พบความผิดปกติใดๆ

โบอิ้ง B777-200 ลำนี้ถูกส่งมอบให้แก่มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ในปี 2002 และตั้งแต่นั้นมันผ่านการบินมาแล้ว 53,465.21 ชั่วโมง ทั้งหมด 7,525 เที่ยวบิน เครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์สทุกลำติดตั้งระบบติดตามข้อมูลที่เรียกว่าระบบ 'Aircraft Communications Addressing and Reporting System' (ACARS) ซึ่งจะส่งข้อมูลสื่อสารมายังศูนย์การบินภาคพื้นโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีการส่งข้อมูลมาแต่อย่างใด

รองเท้าผ้าใบ

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

เชิญอัฐิ 'สมเด็จเกี่ยว' กลับวัดสระเกศฯ


ศิษยานุศิษย์ร่วมขบวนเชิญอัฐิสมเด็จเกี่ยวกลับวัดสระเกศฯ หลังจากมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวง หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส...
เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 10 มี.ค. มีรายงานว่า มีพิธีเก็บและเชิญอัฐิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) หรือสมเด็จเกี่ยว อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กลับไปยังวัดสระเกศฯ หลังจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ แทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวง หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
ทั้งนี้ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 3 รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล และรับพระราชทานภัตตาหารสามหาบในการเก็บอัฐิ จากนั้นเวลา 08.00 น. เชิญอัฐิสมเด็จพระพุฒาจารย์กลับยังวัดสระเกศฯ โดยขบวนใช้เส้นทางถนนหลวง ผ่านห้าแยกพลับพลาไชย แยกโรงพยาบาลกลาง เลี้ยวขวาสี่แยกวรจักร เคลื่อนขบวนไปตามถนนวรจักร ผ่านสี่แยกแม้นศรีก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าสู่วัดสระเกศฯ โดยมีศิษยานุศิษย์ร่วมขบวน

รองเท้าผ้าใบ

รถสปอร์ตตกคูน้ำ 'ลัมโบกินี'สีขาว ราคากว่า 20 ล้าน



เกิดเหตุซุปเปอร์คาร์หรูยี่ห้อลัมโบกินีสีขาว ราคาคันละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ตกคูน้ำริม ถ.ศรีนครินทร์ เขตเมืองสมุทรปราการ เคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว...
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. มีรายงานว่า ช่วงเช้าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งสปอร์ตลัมโบกินีสีขาว เสียหลักตกลงไปในคูน้ำ ความลึกประมาณครึ่งเมตร ริม ถ.ศรีนครินทร์ เขต อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ช่วงร้านชื่อชะบาหมูกระทะ ทำให้ด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย จากนั้นมีการถอดป้ายทะเบียนรถออก และนำวัสดุบางอย่างมาปิดโลโก้ของรถ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 08.15 น. มีการนำรถยกมาเคลื่อนย้ายรถเก๋งสปอร์ตคันดังกล่าวออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว ส่วนสาเหตุนั้น ยังไม่ได้รับการเปิดเผยจากผู้ขับขี่แต่อย่างใด

รองเท้าผ้าใบ

Pray for MH370



มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า การบินในภูมิภาคเอเชียถูกจัดให้เป็นภูมิภาคการบินที่ปลอดภัยมากที่สุดแห่ง หนึ่งของโลก เวลาผ่านพ้นไปกว่า 48 ชั่วโมงกับเหตุการณ์เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ทำให้มีการพูดถึงมาตรฐานความปลอดภัยของการบินในภูมิภาคเอเชียกันอีกครั้ง

ผม มองย้อนกลับไปโดยเฉพาะโศกนาฎกรรมใหญ่ๆที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินตก เชื่อมั้ยครับว่า แทบไม่มีใครลืมเดือนกันยายน ปี 2540 ได้ เพราะได้เกิดโศกนาฏกรรมกับเครื่องบินแอร์บัส A300 ของสายการบินการูด้า อินโดนีเซียตก มีผู้โดยสารเสียชีวิต 234 คน ถัดมาในเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกัน เครื่องบินโบอิ้ง 737-300 ที่ใช้งานเพียง 10 เดือนของสายการบิน ซิลค์แอร์ ประเทศสิงคโปร์ มีอันต้องเกิดอุบัติเหตุตกใกล้กับเมืองปาเลมบัง ในประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 104 คน และในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านไป เครื่องบินเล็กขนาด 2 ใบพัดที่เรียกว่าเครื่อง ATR ของสายการบินลาว ได้เกิดอุบัติเหตุตกกลางแม่น้ำโขงก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางที่เมืองปากเซ มีผู้โดยสารเสียชีวิต 49 คน รวมคนไทยจำนวนหนึ่ง

ผมลองหันมาดูด้าน มาตรฐานความปลอดภัยของสายการบินสัญชาติเอเชีย ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นพูดคุยขึ้นมาอีกครั้ง นับเป็นอันที่รู้กันดีว่า สายการบินอินเดีย และประเทศที่ใกล้เคียงกัน เช่น เนปาล ได้ถูกลดอันดับความปลอดภัยของสายการบินโดยหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ US FAA ไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ที่เพิ่งผ่านไป นอกจากนี้ สายการบินสัญชาติอินโดนีเซียหลายแห่ง ยังคงอยู่ในรายชื่อเฝ้าจับตาด้านความปลอดภัยของกลุ่มสหภาพยุโรปจนถึงทุก วันนี้ หากดูจากสถิติโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญ หรือครั้งใหญ่ๆของสายการบินในช่วงมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จะพบชัดเจนว่า สายการบินสัญชาติเอเชียติด 3 อันดับในทั้งหมด 12 อันดับ เริ่มจาก สายการบินสัญชาติอินเดีย ติดดันดับ 7 ตามมาด้วยสายการบินสัญชาติปากีสถาน อยู่อันดับ 10 และสายการบินสัญชาติอินโดนีเซียติดอันดับ 12 

จริง อยู่ว่า สายการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ย่อมต้องมีเครื่องบินที่มีคุณภาพด้านความปลอดภัยสูงด้วย จากเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ขาดการติดต่อกระทันหันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านไป อาจมองได้ว่า เป็นสถิติเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 200 ล้านเที่ยวบิน โดย บริษัท โบอิ้ง อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งผู้ผลิตเครื่องบินชั้นนำจากสหรัฐ ย้ำอย่างมั่นใจว่า มาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องบินได้รับการปรับปรุงอย่างรวดเร็วมาก ดูได้จากสถิติดังกล่าวในช่วงยุคทศวรรษปี 1950 และ ปี 1960 มักจะเกิดโศกนาฏกรรมทางเครื่องบินถึงแก่ชีวิตมีจำนวน 1 ครั้งในทุกๆ 2 แสนเที่ยวบิน พูดให้เข้าใจง่ายๆ โอกาสเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตมีสูงมากในอดีต

ผมลองมองไป อีก 20 ปีข้างหน้า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งเชื่อมระหว่างเอเชียไปถึงทวีปอเมริกา กำลังจะกลายเป็นภูมิภาคการบินครึ่งหนึ่งของการขยายตัวปริมาณการจราจรทาง อากาศทั่วโลก นั่นหมายความว่า เอเชียแปซิฟิกมีความต้องการซื้อเครื่องบินใหม่มากถึง 12,820 ลำ ทำให้ต้องใช้เงินกว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 62,700 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามครับ ไม่ว่าความต้องการใช้เครื่องบินจะเติบโตสูงมากมายแค่ไหน? เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวสูงอีกเท่าไหร่? หัวใจของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชีย และอื่นๆทั่วโลก ล้วนอยู่ที่การลงจอดที่ปลอดภัยของทั้งผู้โดยสาร และลูกเรือทุกคนในลำเดียวกันเท่านั้นเองครับ


รองเท้าผ้าใบ

วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2557

'มาเลเซียแอร์ฯ'แถลงล่าสุด ยังไม่พบโบอิ้ง777ที่หายไป



แถลงการณ์ฉบับล่าสุดในเช้าวันนี้ของสายการบิน ''มาเลเซีย แอร์ไลน์ส'' ระบุยังไม่พบเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่หายไป ท่ามกลางรายงานข่าวว่า พบคราบน้ำมันในทะเลใกล้กับอ่าวไทย...
สายการบิน ''มาเลเซีย แอร์ไลน์ส'' มีแถลงการณ์ฉบับล่าสุดผ่านเว็บไซต์ของสายการบินในวันนี้ เมื่อเวลา 9:30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ระบุว่า "ผ่านมาแล้วกว่า 24 ชั่วโมง หลังจากขาดการติดต่อกับเที่ยวบิน ''MH370'' ทีมค้นหาและกู้ภัยก็ยังไม่สามารถระบุที่อยู่ของเครื่องบินที่หายไปได้ ทางสายการบินกำลังพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงความช่วยเหลือในด้านการเงินโดยทันที
"ทางสายการบินได้ส่งทีม ผู้ดูแล 94 นาย ซึ่งผ่านการฝึกมาอย่างดี รวมถึงสมาชิกของมูลนิธิ 'ฉือจี้' ไป กรุงปักกิ่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านจิตใจแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบแล้ว และทางสายการบินจะส่งเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอีกกลุ่มไปยังกรุงปักกิ่งในวันนี้
"เมื่อ คืนที่ผ่านมา ทีมผู้จัดการระดับอาวุโสของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง เพื่อให้ข่าวแก่ผู้สื่อข่าว รวมถึงพบครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับครอบครัวที่อยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขณะเดียวกัน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เตรียมจะจัดตั้งศูนย์ควบคุมขึ้นมาที่เมืองโกตาบารู ในมาเลเซีย หรือที่นครโฮจิมินห์ ในเวียดนามทันทีที่พบเครื่องบินที่หายไป และทางสายการบินจะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็น
"สายการบินยังคงทำงานร่วม กับเจ้าหน้าที่ทางการอย่างต่อเนื่องในด้านการให้การสนับสนุน และด้วยเกรงว่าสถานการณ์จะออกมาในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการจัดการฟื้นฟูภัยพิบัติ จากเมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา จะเข้ามาช่วยเหลือ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ในช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้"
ในแถลงการณ์ฉบับก่อนหน้านี้ของ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เมื่อเวลาประมาณ 2:00 น. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ระบุว่า ทีมกู้ภัยและค้นหาจากประเทศมาเลเซีย, สิงคโปร์ และเวียดนาม ประสบความล้มเหลวในการหาหลักฐานหรือซากเครื่องบินใดๆ โดยภารกิจค้นหาทางทะเลจะดำเนินไปตลอดคืน ส่วนภารกิจค้นหาทางอากาศจะเริ่มต้นอีกครั้งในช่วงกลางวัน

อนึ่ง เที่ยวบิน MH370 ซึ่งปฏิบัติการโดยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ER พร้อมผู้โดยสาร 227 คน และลูกเรืออีก 12 คน ขาดการติดต่อในเวลา 2:40 น. วันเสาร์ หลังเดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเวลา 0:41 น.วันเดียวกัน เครื่องบินลำนี้หายไปจากจอเรดาร์ที่ 6.5515 องศาเหนือ และ 103.3443 องศาตะวันออก
ผู้โดยสารทั้งหมด 227 คนที่อยู่บนเครื่อง เป็นชาวจีน 154 คน รวมทารก 1 คน, ชาวมาเลเซีย 38 คน, ชาวอินเดีย 5 คน, ชาวอินโดนีเซีย 7 คน, ชาวออสเตรเลีย 6 คน, ชาวฝรั่งเศส 4 คน ชาวอเมริกัน 3 คนรวมทารก 1 คน, ชาวนิวซีแลนด์ ยูเครน กับแคนาดาชาติละ 2 คน, ชาวรัสเซีย อิตาลี เนเธอร์แลนด์กับออสเตรีย ชาติละ 1 คน
อีกด้านหนึ่ง สื่อหลายสำนักรายงานว่า เครื่องบินกู้ภัยของเวียดนามพบเห็นคราบน้ำมันขนาดใหญ่ 2 รอยในทะเลระหว่างมาเลเซียและเวียดนามใกล้อ่าวไทย ซึ่งแต่ละรอยมีความยาวกว่า 15 กิโลเมตร รวมถึงเห็นกลุ่มควันจากนอกชายฝั่งของเวียดนามด้วย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งเวียดนามกล่าวว่า ได้ส่งเรือไปตรวจสอบแล้ว เพื่อหาว่าหลักฐานทั้งสองอย่างนี้เชื่อมโยงกับเครื่องบินที่หายไปหรือไม่
อย่าง ไรก็ตาม นายดาโต๊ะ อาซาฮารุดิน อับดุลเราะห์มาน ผู้อำนวยการทั่วไปของกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย บอกต่อผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เมื่อ ช่วงที่ผ่านมาว่า เขาไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เวียดนาม ว่ามีการพบคราบน้ำมันยาวนับสิบ กม. ในทะเลระหว่างมาเลเซียและเวียดนามเลย
ทั้ง นี้ สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 777 ขาดการติดต่อและหายไปอย่างไร้ร่องรอยยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากไม่มีทั้งรายงานสภาพอากาศเลวร้ายในวันเกิดเหตุ และไม่มีการแจ้งว่าเกิดปัญหาขัดข้องกับตัวเครื่องแต่อย่างใด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติอย่างมาก ที่ขาดการติดต่อกับเครื่องบินลำหนึ่งอย่างกะทันหัน

รองเท้าผ้าใบ