วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พท.ขู่ปชป.ถูกโดดเดี่ยวชิ่งร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมือง


พท.เชียร์ “บรรหาร” เดินสายล็อบบี้ทุกฝ่ายร่วมเวทีปฏิรูป ยกโพลหนุนประชาชนเชียร์เดินหน้าสร้างปรองดอง เตือนประชาธิปัตย์ไม่ร่วมเวที ระวังถูกโดดเดี่ยวทางการเมือง...  นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมเดินสายเชิญชวนทุกฝ่ายร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองว่า เป็นสัญญาณที่ดี เพราะเวทีดังกล่าวประชาชนให้การตอบรับ เห็นได้จากโพลที่ประชาชนเห็นด้วยกับการยุติบทบาทของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์จะลาออกจาก ส.ส.มาเคลื่อนไหวข้างถนน  อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้เวทีปฏิรูปมาคุยปัญหาทุกเรื่อง ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมปล่อยวางทุกอย่างไว้ก่อน เชื่อว่า จะเป็นนิมิตหมายที่ดีทางการเมือง หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมก็จะถูกโดดเดี่ยวทางการเมือง ประชาชนจะตัดสินได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ใครเป็นคนขัดขวางไม่ให้เกิดความปรองดอง นอกจากนี้ พรรคมอบให้ ส.ส.ไปชี้แจงกับประชาชนเรื่องเวทีสภาปฏิรูปการเมืองว่า นายกรัฐมนตรีมีความจริงใจในการสร้างความปรองดองอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดความขัดแย้งให้หมดจากประเทศ.

ช็อก!โรคหัวใจคร่า 'ปกรณ์ บูรณุปกรณ์' อดีต ส.ส.เชียงใหม่


คนเชียงใหม่ช็อก ข่าว"ปกรณ์ บูรณุปกรณ์ " อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจที่ รพ.ศิริราช ญาติเตรียมนำศพกลับบ้าน บ่ายสามวันนี้...  เมื่อวันที่ 1 ก.ย.เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย.กระแสข่าวแพร่สะพัดทั่วเชียงใหม่ถึงกรณีการเสียชีวิต ของนายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ อายุ 55 ปีอดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และอดีต ส.ส.เชียงใหม่ ที่มีผลงานการพัฒนาเชียงใหม่จำนวนมาก แต่ยังไม่ยืนยันจากทางญาติตระกูลบูรณุปกรณ์ จนกระทั่งเวลา 05.00 น. มีการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งจนทราบว่านายปกรณ์เสียชีวิตแล้วจริงที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นที่สนใจของชาวเชียงใหม่เพราะนายปกรณ์ เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์พัฒนาบ้านเมืองตั้งแต่ยุคก่อน ที่เป็นทั้ง นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และ ส.ส.เชียงใหม่  สำหรับพิธีศพนั้น นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพี่ชาย นายปกรณ์ ได้เดินทางไปรับศพพร้อมจะรับออกจากกรุงเทพฯ มาถึงเชียงใหม่ในเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ก.ย.นี้  สำหรับประวัตินายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ นั้น เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ปัจจุบันสังกัดพรรคเพื่อไทย นายปกรณ์ เคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ได้รับแต่งตั้งเป็นเทศมนตรีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ถึงปี พ.ศ. 2540 และเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ 2 สมัย ในระหว่างปี พ.ศ. 2541 ถึงปี พ.ศ. 2543 เขามีผลงานที่สำคัญคือ การผลักดันถนนคนเดินบริเวณถนนราชดำเนินกลางเมือง เชียงใหม่ ซึ่งเป็นถนนคนเดินสายหลักของจังหวัดเชียงใหม่จนถึงปัจจุบัน จากนั้นได้สมัครเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคชาติพัฒนา แต่ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคไทยรักไทย และได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง  ปี พ.ศ. 2549 นายปกรณ์ เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2555 โดยสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2555 โดยมีกระแสข่าวจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ได้ล้มป่วยลงและเข้ารักษาตัวมาโดยตลอด โดยออกงานสังคมการเมืองเชียงใหม่เพียงครั้งคราวก่อนที่จะเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.นี้และเสียชีวิตในเช้ามืดวันที่ 1 ก.ย.นี้.


รองเท้าผ้าใบ

ฮือฮา! ต้นกล้วยออกปลี 3 หัว ชาวบ้านแห่ขอเลขเด็ด


ฮือฮา พบต้นกล้วยประหลาดออกปลี 3 หัวพร้อมกัน ถือเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ  ชาวบ้านทราบข่าวแห่ขอหวย รับวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล  เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ย. มีรายงานว่า ชาวบ้านพากันแตกตื่นแห่ขอโชคลาภรับวันหวยออก ภายหลังทราบข่าวว่า พบต้นกล้วยไข่ที่ปลูกไว้ภายในบ้านของ คุณยายไสย์ ติภู วัย 92 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 บ้านเหล่าพัฒนา หมู่ 4 ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม ออกปลีผิดธรรมชาติ มี 3 ปลีออกมาในเครือเดียวกัน โดยชาวบ้านเชื่อว่า เป็นต้นกล้วยแปลกให้โชค จึงพากันนำเครื่องเซ่นไหว้มาบูชา และขอโชคลาภ ตามความเชื่อ ยิ่งวันหวยออก ทำให้มีชาวบ้านแห่มาขอหวยกันคึกคัก บางคนถือโอกาสนำแป้งมาโรยเสี่ยงหาตัวเลขไปซื้อหวย      สอบถาม ยายไสย์ ติภู วัย 92 ปี เจ้าของต้นกล้วยแปลก เล่าว่า ต้นกล้วยแปลกต้นดังกล่าว เป็นพันธุ์กล้วยไข่โบราณ ปลูกมาได้อายุ ประมาณ 3 ปี จนมีการขยายหน่อออกต้น หลายต้น ซึ่งจะเป็นกล้วยที่ออกผลลูกใหญ่มาก แต่ปกติจะออกปลี ครั้งละ 1 หัว ตามธรรมชาติ ส่วนครั้งนี้กับพบว่ามีต้นหนึ่งที่สูงเกือบ 30 เมตร ผิดธรรมชาติ มีหัวปลี 3 ปลี ออกมาพร้อมกัน และยังนับกล้วยที่ออกผลแล้ว 9 หวี มีจำนวนรวม 50 ลูก ตามความเชื่อโบราณเชื่อว่าต้นกล้วยที่ออกปลีผิดธรรมชาติ ถือเป็นต้นกล้วยให้ชคลาภ จึงพากันนำเอาเครื่องบูชาเซ่นไหว้ มาบูชา ขอโชคลาภ ตามความเชื่อ พร้อมนำแป้งมาโรยทางเสี่ยงหาตัวเลข ไปซื้อหวย แล้วแต่ว่าใครจะมีโชคลาภ ซึ่งถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว และหมู่บ้าน.

สระแก้ว ชาวบ้านแห่ขอเลขเด็ด พอเห็ดประหลาดที่วัดรีนิมิตร


"สระแก้ว" ชาวบ้านแห่ขอหวย เห็ดประหลาด สีขาวนวล ลักษณะคล้าย "ดอกบัว-และรูปคนหงายมือ" ขึ้นอยู่กลางจอมปลวก ใน "วัดรีนิมิตร" สถานที่กำลังจะสร้างรูปเหมือน "สมเด็จโต" ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ชาวบ้านทราบข่าว ต่างแห่ขอเลขเด็ด  วันที่ 31 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมาก จากตำบลบ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว แห่ไปชมเห็ดประหลาดออกดอกเป็นรูปดอกบัว 7 ดอกครั้งแรก ที่คนพบเห็นอย่างมหัศจรรย์ กลางลานสถานที่สร้างรูปเหมือน สมเด็จโต พรหมรังสี ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ต่อมา พบขึ้นมาอีก 3 ดอก ไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังนำดอกไม้ธูปเทียนกราบไหว้ จอมปลวกขนาดใหญ่ ประมาณ 2 คนโอบ เกิดขึ้นอยู่กลางต้นไม้ประดู่ทอง ภายในวัดรีนิมิตร ต.บ้านแก้ง มีดอกเห็ดสีขาวนวล ลักษณะคล้ายดอกบัวสีขาวขนาดประมาณ 1-2 นิ้ว สัมผัสดูมีความแข็งคล้ายหิน ขึ้นอยู่กลางจอมปลวกจำนวน 7-3 ดอก มีความสวยงาม เช่นเดียวกับ ดอกบัวที่รองรับพระบาทของพระพุทธเจ้าครั้งประสูติ ใกล้ๆ กันพบเห็ดประหลาดออกมาเป็นรูปมือคน ลักษณะหงายมือเกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง    นายวีระชัย ทาชมพู อายุ 42 ปี ลูกศิษย์พระครูนิมิตอินทโชติ เจ้าอาวาสวัดรีนิมิตร และเจ้าคณะตำบลบ้านแก้ง กล่าวว่า เมื่อตอนเช้าท่านพระครู ได้เดินออกจากกุฏิไปนั่งบริกรรมสมาธิตามปกติ บริเวณ สถานที่ก่อสร้างพระรูปเหมือนสมเด็จโต ตามปกติกิจวัตรประจำวัน ได้พบเห็นมีเห็ดสีขาว ออกจากกลางจอมปลวกมีความสวยงามคล้ายดอกบัว 7 ดอก และอีกต่อ 3 ดอก พบเป็นรูปมือคนหงายมือ จึงเรียกชาวบ้านผู้สูงอายุมาดูว่า เป็นเห็ดชนิดใดปรากฏว่า ไม่เคยมีใครรู้จัก จึงได้ให้ลูกศิษย์นำลวดมาล้อมบริเวณรอบๆไว้เพื่อให้เกิดความเสียหายและไว้ให้ชาวบ้านมาชมความแปลกประหลาด    ด้านนายสว่าง เนียมโงน อายุ 80 ปี ชาวบ้านผู้อาวุโสของหมู่บ้าน กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเห็นเห็ดลักษณะเช่นนี้ จึงคิดว่า เป็นปรากฏการณ์ ที่ทางวัดกำลังก่อสร้างพระรูปเหมือน สมเด็จโต พรหมรังสี ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้โชคลาภ จึงได้แห่กันมาชมพร้อมบนบานหาเลขเด็ด โดยบางคนได้นำแป้ง พวงมาลัย ขัน 5 มากราบไหว้ขอพรและขาดไม่ได้ คือ ขอเลขเด็ด ซึ่งมากันหลายคนต่างได้เลขไปเสี่ยง โชคกันต่างๆ นานา ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเลข 73-03  ตอนนี้ ท่านเจ้าอาวาส ได้ให้เก็บและสังเกตการณ์ว่า เห็ดจะออกดอกเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าใด พร้อมกั้นไว้เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเอาแป้งไปขัดถูจนเสียหายได้  สำหรับเห็ดที่เกิดขึ้นเหมือนดอกบัวนั้น ในขณะนี้ได้เฉาตายหมดแล้ว มีเพียงร่องรอยให้เห็นเท่านั้น อีกส่วนหนึ่งที่ทางวัดได้ถ่ายรูปไว้ให้ชาวบ้านดู และมาขอหวยก็มีผู้โชคดีถูกหวย

รองเท้าผ้าใบ

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โจรใต้ยิงฐานทหาร วางระเบิดซ้ำ


โจรใต้กราดยิงฐานทหารในรือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้บังเกอร์ได้รับความเสียหาย จากนั้นยังกดระเบิดหวังทำร้ายชุดนำกำลังเข้าช่วย แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับอันตราย...  เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 31 ส.ค. มีรายงานว่า พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ รักษาการ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นราธิวาส นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหาร ฉก.นราธิวาส 30 บริเวณสามแยกบ้านเปาะลามะ หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา  ที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดใกล้โคนเสาไฟฟ้าริมถนน ลึก 60 เซนติเมตร กว้าง 80 เซนติเมตร และเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และบริเวณพงหญ้าริมถนน  จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มฐานปฏิบัติการร้อย ร.15124 ฉก.นราธิวาส 30 จำนวน 16 นัด ทำให้บังเกอร์หน้าฐานได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 30 ได้นำกำลังจำนวน 15 นาย นั่งรถยนต์หุ้มเกราะเข้าสนับสนุน ถึงที่เกิดเหตุห่างจากฐานประมาณ 50 เมตร คนร้ายได้จุดชนวนระเบิด แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย.

รองเท้าผ้าใบ

'สมชาย' เปิดบ้านวันเกิด 66 ปี ยกยอ 'นายกปู' วีรสตรี


"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" เปิดบ้านรับคำอวยพรวันเกิด 66 ปี นักการเมือง ข้าราชการ ตบเท้าอวยพรพรึ่บ ขณะที่เจ้าตัวยาหอม นายกฯ วีรสตรี เก่ง มีประสบการณ์สูง ประชาชนพึ่งได้...  เมื่อวันที่ 31 ส.ค. มีรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักเบเวอรี่ฮิลล์ ย่านแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ให้นักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน เข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี โดยผู้ที่เดินทางมาอวยพร เช่น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.  ขณะที่เมื่อเวลา 9.30 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้นำแจกันดอกไม้มาอวยพรนายสมชาย ซึ่งนายสมชายได้ขอบคุณและระบุว่าถือเป็นเกียรติสูงสุด ไม่คิดว่านายบรรหารจะมาให้กำลังใจ พร้อมปวารณาตัวรับใช้นายบรรหาร โดยสามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา  นายสมชาย กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าและสมาชิกพรรคเพื่อไทย เร็วๆ นี้จะเข้าไปเป็นลูกพรรคด้วยอีกคน ถือเป็นความอบอุ่น และเป็นความหวังของประชาชน ต้องช่วยกันพัฒนาความเจริญก้าวหน้า ขอให้ทุกคนร่วมมือช่วยกันทำงานในพรรคและรัฐบาล พร้อมนำพาพรรคเป็นที่พึ่งประชาชนต่อไป  ทั้งนี้ จากการติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรี ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะทุ่มเท ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีที่ถูกวิจารณ์นั้น ส่วนตัวมองว่านายกรัฐมนตรีไปทำประโยชน์ให้บ้านเมือง กระชับความสัมพันธ์ เปิดตลาดค้าขาย ซึ่งการทำงานอาจไม่ถูกใจทุกคน แต่เชื่อส่วนใหญ่พอใจ ขณะที่นายกรัฐมนตรีให้ความมีน้ำใจเป็นของขวัญวันเกิด ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พูดคุยกันบ่อยครั้ง ซึ่งเคารพและศรัทธาในตัวท่าน  นายสมชาย กล่าวอีกว่า อยากให้ประเทศสมานฉันท์ บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ และในความรู้สึกของตน นายกรัฐมนตรีเป็นวิีรสตรีคนหนึ่ง ซึ่งตนไม่ได้ให้คำแนะนำ เพราะไม่มีอะไรแนะนำ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเก่งกว่าตน และมั่นใจศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์สูง จึงฝากความหวังได้   ส่วนกรณีการชุมนุมของม็อบสวนยางนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา หากชุมนุมตามกฎหมาย เคารพกติกาบ้านเมือง แต่ไม่เห็นด้วยที่ม็อบสวนยางปิดถนน เพราะทำให้เกิดความวุ่นวายและละเมิดสิทธิประชาชน ทำคนเดือดร้อน และใครที่ยุยงประชาชนก็ต้องทบทวน เพราะควรสร้างสรรค์ ขอให้ทุกคนช่วยกัน ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าแกนนำเป็นคนนครศรีธรรมราชจริงหรือไม่ เพราะคนนครศรีธรรมราชก็ไม่พอใจกับการชุมนุมดังกล่าว  นายสมชาย กล่าวต่อว่า การเดินหน้าเวทีปฏิรูปการเมือง ส่วนใหญ่เห็นด้วย ซึ่งต้องคิดเพื่อส่วนรวม เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า โดยรัฐบาลต้องร่วมทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และยังหวังว่าคนไม่เห็นด้วย จะกลับมาสนับสนุน หากเห็นความจริงใจของรัฐบาล ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ให้ไปขับเคลื่อนในสภาฯ ถ้ามติส่วนใหญ่เป็นอย่างไร ก็ต้องยอมรับ.


รองเท้าผ้าใบ

'สุเทพ'โต้'ประชา'บิดข้อเท็จจริง ไม่เห็นด้วยชาวสวนยางชุมนุม


"สุเทพ เทือกสุบรรณ" นำทีม ส.ส.ปชป.แถลงโต้ "ประชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง กรณีที่ระบุว่าตนไม่เห็นด้วยชาวสวนยางชุมนุม ด้าน "สาทิตย์-ประเสริฐ" อัดซ้ำ สมอ้าง เพื่อหวังผลประโยชน์การเมือง...  วันที่ 30 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง และนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแถลงตอบโต้กรณี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบรัฐบาล บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยอ้างว่า มีการหารือ และเห็นร่วมกันว่าไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของผู้ชุมนุมสวนยางภาคใต้  โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชา ที่ห้องกาแฟ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 ส.ค. โดย พล.ต.อ.ประชา มาขอให้ตนโทรหาแกนนำผู้ชุมนุมชาวสวนยางให้ยุติการชุมนุม แต่ได้บอกไปว่าไม่ได้มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับแกนนำ และเป็นการชุมนุมของประชาชนที่เดือดร้อน ไม่เกี่ยวกับตนและพรรคการเมือง พร้อมแนะนำไป 3 ข้อ คือ 1.ให้ไปแจ้งนายกฯ ให้ลงไปแก้ปัญหานี้เอง 2.รับปากจะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการยืดเยื้อ และ 3.อย่าใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุม เพราะจะบานปลาย จากนั้นตนก็เข้าห้องประชุมสภาฯ และอภิปรายให้นายกฯ ทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหา ตามที่เป็นข่าว  ด้าน นายสาทิตย์ กล่าวว่า พล.ต.อ.ประชา เจอตนในห้องน้ำ และได้บอกว่า ข้อมูลทางการข่าวว่า มีผู้ชุมนุมเพียง 20% เท่านั้น ตนจึงขอให้เช็กข้อมูลให้ดี ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ประชา ที่อ้างว่า มีการพูดคุยกับพวกตน และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะพูดคุยกันต่างสถานที่ ต่างวาระ แต่กลับมาสมอ้าง จึงเห็นว่ามีความจงใจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง มาสร้างความไม่ชอบธรรมแก่กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งน่าเป็นห่วงว่า มีความพยายามทำเรื่องนี้ ให้เป็นม๊อบทางการเมือง สร้างกลไกโฆษณาชวนเชื่อ ให้ร้ายชาวบ้าน หากนายกฯ ไปเจรจา หรือรับปากแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ตามข้อเสนอแนะของนายสุเทพ เรื่องคงจบ   ขณะที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนเจอ พล.ต.อ.ประชา ตอนกำลังเดินเข้าห้องประชุม โดยยืนคุยสั้นๆ ในประเด็นความเดือดร้อนของชาวสวนยาง โดยบอกไปว่าหากรัฐบาลใช้วิธีการสลายการชุมนุม ก็เชื่อว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นใหม่ เพราะไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง.

รองเท้าผ้าใบ

ขาดส่ง2วัน แก๊งทวงหนี้ปาบึม ยกพวกถล่มสาหัส2


แก๊งทวงหนี้โหด แม่ค้าขาดส่งดอกเบี้ยแค่ 2 วัน ยกพวก 18 คนถล่ม ปาระเบิดปิงปอง ทำร้ายสามีและลูกเขยอาการสาหัส วงจรปิดจับภาพได้  เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 29 ส.ค. มีรายงานว่า พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน พงส.ผนพ. สน.บางเขน รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกทำลายทรัพย์สิน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 5/9 ม.4 ถนนเพิ่มสิน ซอย 20 แยก 13 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน      ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด มีเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ตรวจสอบภายในบ้านพบข้าวของพังเสียหาย แตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น จำนวนมาก อาทิ ประตูบ้าน หลอดไฟ โทรทัศน์ขนาด 21 นิ้ว และจานชามแก้วน้ำ บริเวณลานจอดรถหน้าบ้านพบรถจยย. 3 คัน ที่จอดอยู่ พังเสียหาย นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดและเหล็กแป๊บ ส่วนผู้รับบาดเจ็บ 2 ราย นำส่ง รพ.ภูมิพล ทราบชื่อ นายฉัตรชัย คารีวงศ์ อายุ 34 ปี ถูกตีด้วยเหล็กแป๊บแขนขวาหัก และถูกฟันตามลำตัว อาการสาหัส และนายสมชาย เกิดสาย อายุ 52 ปี ถูกอาวุธมีดฟันเข้าตามลำตัวได้รับบาดเจ็บ  สอบสวนนางปาริฉัตร เกิดสาย อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน ให้การด้วยน้ำเสียงสั่นกลัวว่า เป็นแม่ค้าขายขนมในตลาดเทพทิพย์ย่านสายไหม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. (29 ส.ค.) มีข้อความส่งเข้ามาในมือถือของตนเองในเชิงข่มขู่ จากนั้นไม่นานมีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดที่หน้าบ้าน จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 18 คน พร้อมอาวุธครบมือ วิ่งกรูลงมาก่อนใช้วัตถุคล้ายระเบิดปิงปอง ปาเข้ามาในบ้านเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งเริ่มทำลายข้าวของ ตนและคนที่อยู่ในบ้านมีลูกสาว และหลาน ได้พากันไปหลบภายในห้องนอน เมื่อเหตุการณ์สงบ จึงพากันออกมาจากที่หลบภัย พบนายสมชาย สามีของตน และนายฉัตรชัย ลูกเขย นอนกองอยู่กับพื้นถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงเรียกเพื่อนบ้านให้พากันช่วยส่งโรงพยาบาล      นางปาริฉัตร ให้การต่อว่า สาเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากที่ ตนไปกู้เงินนอกระบบ ของแก๊งเงินกู้กลุ่มหนึ่งในเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท คิดดอกเบี้ย 4,000 บาท รวมเงินที่ต้องส่งคืน 24,000 บาท โดยจะแบ่งจ่ายเป็นรายวัน วันละ 1,000 บาท ทั้งหมด 24 วัน ซึ่งได้ส่งไปแล้ว 11 วัน แต่เนื่องจากมารดาของตนไม่สบายจึงขอต่อรองลดมาเป็นจ่ายวันละ 500 บาท และผ่อนไปได้อีก 7 งวด แต่ก็ขาดส่งไป 2 งวด ซึ่งวันนี้ลูกสาวเตรียมเงินไว้ให้แล้ว แต่มาถูกก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยก่อนหน้านี้แก๊งเงินกู้ดังกล่าวได้มาทวงแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เจอตน จึงเขวี้ยงขวดเข้ามาในบ้านทำให้เศษแก้วไปถูกหลานจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว  ด้าน พ.ต.อ.ชยุต เปิดเผยว่า เบื้องต้นพอจะทราบถึงกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว โดยเป็นแก๊งเงินกู้ที่อยู่นอกพื้นที่ เข้ามาอาศัยปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตามตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้อง วงจรปิดที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

รองเท้าผ้าใบ

'ลัดดา'ส.ส.มะกัน เชื้อสายไทย แนะ คนไทยต้องใจเย็น ฟังความเห็นต่าง


พ.ท.หญิงลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ส.ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน แนะ คนไทยต้องใจเย็น ฟังความคิดเห็นต่าง ชี้ การพัฒนาปชต. ไม่ใช่เรื่องง่าย-ต้องใช้เวลา ขออย่าเปรียบสภาไทย กับ สภาต่างประเทศ เพราะไม่เหมือนกัน   วันที่ 30 ส.ค.รัฐสภา คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการสตรี เยาวชนและผู้สูงอายุ สภาผู้แทนราษฎร พร้อม ส.ส.หญิง พรรคเพื่อไทย 46 คน ให้การต้อนรับ พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ส.ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน จากรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ในโอกาสเยือนรัฐสภาไทย   โดยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่าไทยมีปัญหาวิกฤติการพัฒนาประชาธิปไตยมากว่า 40 ปี การรัฐประหาร ทำให้เกิดปัญหากับประเทศมาแล้ว 7 ปี แต่พวกตน จะขอยึดคำพูดของ พ.ท.หญิงลัดดา ที่ระบุว่า อย่ากลัวความพ่ายแพ้ โดยจะมุ่งพัฒนาประชาธิปไตยต่อไป   ด้าน พ.ท.หญิงลัดดา กล่าวตอบว่า จะร่วมผลักดันให้เกิดความร่วมมือ ระหว่าง รัฐสภาไทย กับ รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ซึ่งการมีเสรีภาพในการพูด ตามความคิดที่แต่ละฝ่าย เห็นไม่ตรงกัน ก็ขอให้คิดว่า เรารักประเทศเหมือนกัน การเมืองเป็นเรื่องยาก ไม่มีคำตอบที่ถูก แต่เราก็ต้องพยายาม    จากนั้น พ.ท.หญิงลัดดา ให้สัมภาษณ์ถึงความวุ่นวายในรัฐสภาไทยว่า การมีเสรีภาพในการพูดเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นความกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ประชาธิปไตยเป็นเรื่องยาก ต้องฟังคนที่ ไม่เห็นด้วยกับเรา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา คนไทยต้องใจเย็นๆ เพราะการพัฒนาประชาธิปไตย ต้องใช้เวลา และไม่ใช่เรื่องง่าย คนไทยต้องรับฟังความคิดเห็น ฝ่ายที่เห็นต่าง ยอมร่วมมือทำงานร่วมกัน แม้บางครั้ง จะไม่เห็นด้วย   ที่สำคัญ ถ้าทั้งสองฝ่ายจำได้ว่า ต่างฝ่ายรักประเทศเหมือนกัน ความร่วมมือก็จะเกิดขึ้น เมื่อถามว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเกรงว่า อาจเกิดเหตุเหมือนกับสภาประเทศไต้หวัน พ.ท.หญิง ลัดดา กล่าวว่า ไม่อยากให้นำรัฐสภาไทยไปเปรียบเทียบกับรัฐสภาต่างประเทศ เพราะทุกประเทศแตกต่างกัน หากเปรียบเทียบจะเสียเวลา

รองเท้าผ้าใบ

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ชาวโซเชียลฯยังติดใจสภาฯใช้เงิน'สุรุ่ยสุร่าย' ตอกย้ำเอามาเยียวยา'ปากท้อง'ดีกว่า...


เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ ที่กรณีการจัดซื้อ "นาฬิกาแขวน" ที่ถูกนำมาติดตั้งไว้ทั่วบริเวณรัฐสภา ทั้งภายนอก-ภายในอาคาร ทางเข้าออก-ทางเดิน-ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ จนเกิดการพิพากษ์วิจารณ์กันขนานใหญ่ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ทำให้ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ โฆษกคณะกรรมาธิการกิจการการสภาผู้แทนราษฎร ออกมาเปิดเผยถึง คณะกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณากรณีการจัดซื้อ-จัดจ้างนาฬิกาแขวนผนัง ไอแพด ของ ส.ส. สมาชิกรัฐสภา และโครงการจัดตั้งห้องประชุมยุทธศาสตร์เพื่อการตัดสินใจของรัฐสภา (วอร์รูม) ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ชอบมาพากล  โดยเชิญ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าชี้แจง แต่ปรากฏว่า ได้มอบหมายให้ นายนุกูล สัณฐิติเสรี รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงแทน โดยอ้างว่าการจัดซื้อนาฬิกา เป็นแนวคิดมาจากปัญหาเรื่องเวลาไม่ตรงกัน จึงศึกษาและได้ข้อสรุปว่าสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ แนะนำให้รัฐสภา ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมเวลาทั้งหมด 238 จุด รวมการวางระบบนาฬิกาทั้งหมด 15 ล้านบาท    ทางกรรมาธิการฯ ก็ได้ทักท้วงว่าจากการตรวจสอบพบว่า นาฬิกาที่จัดซื้อนั้นมีราคาเพียงเรือนละ 1-2 หมื่นบาทเท่านั้น ทั้งยังมีกรณีการจัดซื้อไอแพดให้กับ ส.ส. ส.ว. และเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีบริษัทขอร่วมประมูล 6 บริษัท แต่ยื่นซองประมูลเพียง 2 บริษัท รวมมูลค่า 55 ล้านบาท จำนวน 808 เครื่อง รวมทั้งได้ซักถามเหตุผลการตั้งวอร์รูม ซึ่งนายนุกูลตอบคำถามทั้ง 3 เรื่องไม่ได้ แต่จะส่งคำชี้แจงเป็นเอกสารให้ภายหลัง ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ เห็นตรงกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รัฐสภาเสียหาย ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย  นอกจากนี้ นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมาธิการฯ แสดงความไม่พอใจ ที่เชิญ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าชี้แจงหลายครั้ง แต่กลับมอบหมายคนอื่นชี้แจงแทน ดังนั้น ประชุมครั้งต่อไปขอให้มาชี้แจงด้วยตัวเอง  และก่อนหน้านี้ นายสุวิจักขณ์ ได้ชี้แจงเรื่องจัดซื้อนาฬิกาแขวนผนัง 200 เรือน มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ว่า เป็นหนึ่งในโครงการจัดซื้อ-จัดจ้าง ที่ได้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่อดีตเลขาธิการสภาฯ ซึ่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และนาฬิกาดังกล่าวเป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดของทวีปยุโรป และสาเหตุที่ต้องจัดซื้อจำนวนมาก เพราะต้องนำไปติดตามห้องประชุมคณะกรรมาธิการต่างๆ เพื่อให้ ส.ส. และ ส.ว.ได้ทราบเวลา  ที่แสบกว่านั้นก็คือ การที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า  “งบประมาณของสภาฯ เช่นเดียวกับงบประมาณของทุกกระทรวง ทบวง กรม ระบบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลแทบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ "เส้นสาย" หรือ "คอนเนกชั่น" ของผู้ที่มีอำนาจอนุมัติ ผลลัพธ์คือ "คอมมิชชั่น" หรือ "เงินทอน" ที่ถูกแจกจ่ายไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ  นาฬิกาที่ติดอยู่ทั่วพื้นที่ของรัฐสภา ติดอยู่เหนือประตูห้องสูบบุหรี่ของ ส.ส. ใกล้ห้องอาหาร นาฬิกานี้มีมูลค่า 75,000 บาทต่อเรือน แน่นอนว่าเป็นราคาที่ "สูงมาก" และผมก็ไม่เห็นเหตุผลใด ที่จะต้องซื้อนาฬิกาเรือนละ 75,000 บาท เพื่อเอามาแขวนเหนือประตูห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องสูบบุหรี่ หรือห้องน้ำ  ผมไม่อยาก "โต้เถียง" ถึงการสิ้นเปลืองเงินจากผู้เสียภาษี แต่นี่มันมากเกินไป นาฬิกา "ไซโก้" ราคา 1,500 บาท ก็ใช้แขวนได้ เดินตรงเวลา และทนทาน อย่างที่ "ลีกาซิง" ชาวฮ่องกง ผู้ที่รวยที่สุดในเอเชีย สวมนาฬิกา "ซิตี้เซน" เขายังคงทำเงินมากกว่าใครทุกคนในเอเชีย เขาพูดประโยคที่ว่า "เขาไม่สนใจหรอกว่านาฬิกาจะแพงแค่ไหน ขอให้มันเดินตรงเวลา แค่นั้นก็พอ" มิน่าเล่า เขาถึงรวยที่สุดในเอเชีย ส่วนคนไทยก็ยัง "รวยหนี้" เหมือนเดิม”     “ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลฯ อย่างกว้างขวาง มีการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา โดยชาวอินเทอร์เน็ต ต่างร่วมตรวจสอบราคานาฬิกาดังกล่าว จากเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาหลายเว็บไซต์ ได้แสดงราคาแตกต่างกัน และพบว่า ราคาขายเฉลี่ยอยู่แค่ 16,800-25,000 บาท และถ้าเป็นนาฬิกาที่มีราคาขาย ซึ่งแพงที่สุด จะอยู่ที่ราคาเรือนละ 499 ยูโร หากเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินไทย 41 บาท จะอยู่ที่ราคาเรือนละ 20,459 บาทเท่านั้น แต่นาฬิการุ่นที่รัฐสภาจัดซื้อ อ้างว่ามีราคาถึงเรือนละ 75,000 บาทนั้น ไม่ทราบว่านาฬิกานี้สงสัยมีการ เลี่ยมทองแล้วฝังเพชร ด้วยหรือไม่?  ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้เข้าไปสำรวจความคิดเห็นของประเด็นนี้ ตามบลอกเว็บไซต์ต่างๆ พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นกันที่น่าสนใจ  เช่นผู้ที่ใช้ชื่อ cabel นามแฝงบนอินเทอร์เน็ต แสดงความเห็นว่า “การจัดซื้อนาฬิกาของรัฐสภา รู้ว่าแพงผิดปกติ แต่ทำไมไม่มีหลักฐานที่แสดงเป็นตัวเลขที่ชัดเจน หรือว่ามันแพงจริง เพียงแต่ว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใตต้องซื้อนาฬิกาที่มีราคาแพงขนาดนั้น ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ในขณะที่ประชาชนเริ่มบ่นเรื่องปากท้อง ข้าวของราคาแพง”     หรือของคุณ jimjy ที่แสดงความเห็นผ่านเว็บของไซต์ไทยโพสต์ “ประโยชน์ของนาฬิกา คือเอาไว้ดูเวลา จำเป็นไหมต้อง 75,000/เรือน ต้องดีที่สุดในยุโรป หาช่องคอรัปชันกันทุกเม็ด แต่อย่าลืมเงินที่เอาไปจ่ายเป็นเงินจากหยาดเหงื่อของ ปชช. ทุกคน ไม่กลัวกรรมสนองก็แล้วไป”  ขณะที่ "คุณชายเล้ง" ที่มีการโพสต์ความเห็นส่วนตัวผ่านเว็บ "Pintip" "ไม่รู้ว่ามันเป็นนาฬิกาแบบที่มีชุดควบคุมอยู่จุดเดียวหรือเปล่า หมายถึงว่านาฬิกาทุกเรือนในห้องต่างๆ จะเวลาตรงกันทั้งหมด ถ้าตัวควบคุม เสียก็เสียทั้งหมด ที่โรงงานที่ผมทำงานใช้อยู่ มันต้องเดินสายไฟนาฬิกาทุกตัว ไปยังตัวควบคุม ก็เลยน่าจะแพง เกี่ยวกับค่าแรงและอุปกรณ์ แต่ถ้าพูดถึงความจำเป็น ผมก็ว่าไม่จำเป็น แพงเปล่าๆ"  ไม่เพียงแค่ราคานาฬิกาที่มีส่วนต่างการจัดซื้อนาฬิกา ครั้งนี้ยังใช้งบประมาณอีกหลายล้าน สำหรับค่าระบบสนับสนุนอุปกรณ์ เช่น ค่าติดตั้ง ค่าเดินสายไฟ ค่าระบบไวล์เลส ระบบสำรองไฟ ระบบประกัน และยังมีงบประมาณฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ใช้งานนาฬิกา การติดตั้งระบบนาฬิกาแบบใหม่ เกิดขึ้นในช่วงที่พื้นที่รัฐสภาทั้งหมดกำลังมีการปรับปรุง ย้าย และซ่อมแซมหลายพื้นที่ เช่น ห้องสื่อมวลชน สถานที่ขายตั๋วโดยสาร นอกจากนี้ ยังมีที่สะดุดตาอีกจุดหนึ่งคือ ด้านหลังอาคารสโมสรรัฐสภา บริเวณห้องทิ้งขยะ มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในสภาพใหม่ ยังไม่ผ่านการใช้งานถึง 2 เครื่องนั้นจริงหรือไม่ ก็ยังเป็นข้ออ้างต่างๆ นานา ล่าสุด ยังมีข่าวการจัดสั่งซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้หลุยส์    นายชูวิทย์ ยังออกมาแฉซ้ำอีกว่า รัฐยังใช้จ่ายงบประมาณ ที่เป็นเงินภาษีประชาชนคนไทยทั้งประเทศ แบบที่เรียกว่า "สุรุ่ยสุร่าย" มีการสั่งซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้หลุย์ เอาไว้รับแขก 2 แบบ แบบแรกเช็ตโต๊ะยาวและเก้าอี้ แบบที่ 2 ชุดโต๊ะกาแฟและเก้าอี้ ทั้ง 2 แบบนี้ รวมเป็นเงินประมาณ 1.3 ล้านบาท  ภายหลังทราบว่า ได้มีการสั่งซื้อหลายชุดจากร้านใหญ่ในซอยศูนย์วิจัยฯ ย่านพระราม 9 กระทรวงกลาโหม และอีกหลายกระทรวงสั่งซื้ออีกหลายสิบชุด โดยใช้งบประมาณในปี 2557 แต่หลังตนเปิดเผยเรื่องนี้ หลายกระทรวงก็ได้ยกเลิกการสั่งซื้อไป อยากเตือนว่า การใช้งบประมาณแผ่นดินจากเงินภาษีประชาชน ควรใช้อย่างประหยัด จะอ้างว่าใช้รับแขกให้สมเกียรติ ก็ควรใช้รับแขกแบบไทย เป็นชุดหวาย หรือไม้สัก ราคา 300,000-400,000 บาท น่าจะพอ แต่การใช้ชุดรับแขกหลุยส์ สไตล์อิตาลี ราคาชุดละ 1 ล้านบาทนั้น เป็นการแทงใจประชาชน คนเสียภาษี ซึ่งไม่รู้ว่า สภาฯ จะจัดซื้อในราคาเท่าไหร่ เพราะแค่นาฬิกา ราคา 16,000 บาท สภาฯ ยังจัดซื้อราคา 75,000 บาท โดยอ้างว่า มีดาวเทียม ซึ่งตนไม่รู้ว่าการซื้อเก้าอี้ครั้งนี้ จะมีอะไรแถมมาด้วยหรือไม่ จึงขอให้ประชาชนเจ้าของเงินภาษี ได้ดูว่าเขาใช้เงินอย่างไร   หลังเกิดกระแสวิจารณ์เรื่องการใช้งบประมาณในการปรับปรุงอาคารรัฐสภา ทำให้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ต้องลงมา เท็กแอ็กชั่น เดินสำรวจพื้นที่ โดยรอบอาคารที่มีการปรับปรุง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้ไปหากมีโครงการจัดจ้างที่มีวงเงินเกินกว่า 5 ล้านบาท ให้นำเสนอเรื่องให้ตนพิจารณาโดยตรง จากเดิมที่ให้อำนาจเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวงเงินที่ไม่เกิน 100 ล้านบาท เพื่อป้องกันข้อครหา และป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น  ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เป็นเพียงบางประเด็น ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบการใช้งบประมาณปรับปรุงรัฐสภา ว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างเกินจริงหรือไม่? ขณะที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศกำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้อง ข้าวของราคาแพง ม็อบสวนยางก็เตรียมประท้วงใหญ่ กรณีราคายางพาราตกต่ำ 3 ก.ย.นี้ ส่วนก๊าช LPG ก็กำลังจะขึ้นราคา 1 ก.ย.นี้  และที่ผ่านๆ มา สินค้าอุปโภค-บริโภค ก็มีราคาราคาแพงขึ้นทุกตัวอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น แทนที่จะเอางบประมาณมาจัดซื้อของราคาแพงเหล่านี้ ซึ่งไม่มีประโยชน์และไม่จำเป็น เอาเงินเหล่านี้มาเยียวยาปากท้องของพี่น้องประชาชน จะดีกว่าหรือไม่???

ยื่นฟ้องศาลปกครอง เอาผิด 'ปู-เพ้ง' กับระงับขึ้น LPG


เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย ยื่นศาลปกครองฟ้อง "ยิ่งลักษณ์-เพ้ง" และพวกอีก 3 ราย กรณีขึ้นราคาแอลพีจีไม่เป็นธรรม ขอให้ศาลมีคำสั่งชะลอมติ ครม.เห็นชอบขึ้นก๊าซหุงต้ม...  เมื่อวันที่ 29 ส.ค. มีรายงานว่า ประชาชนในนาม เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ยื่นหนังสือต่อศาลปกครองสูงสุด ฟ้องร้อง 5 บุคคล ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, คณะรัฐมนตรี, คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ, นายพงษ์ศักดิ์  รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน กรณีการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย โดยเครือข่ายประชาชนฯ มองว่าบุคคลทั้ง 5 คน พิจารณาปรับราคาก๊าซแอลพีจี โดยไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค   นอกจากนี้ เครือข่ายประชาชนฯ ยังยื่นหนังสือคำฟ้องขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและยกเลิกเพิกถอน มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 56 ที่เห็นชอบให้ปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจี ภาคครัวเรือน โดยให้ปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ในวันที่ 1 ก.ย. 56 และให้สะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้งให้เห็นชอบหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจี ภาคครัวเรือน ไว้ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ไปจนกว่าจะมีมติที่ชอบด้วยกฎหมายให้ปรับขึ้นราคา   สำหรับข้อเรียกร้องที่เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทยยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ยังยืนยันตามข้อเรียกร้องเดิม ประกอบด้วย 1.หยุดการขึ้นราคา LPG และให้ยกเลิกมติ ครม. 2.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบต้นทุนราคาก๊าซ LPG 3.ให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในราคาที่เป็นธรรม 4.ยกเลิกการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากประชาชน 5.จัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปพลังงานแห่งชาติขึ้นโดยเร็ว 6.รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวท่าทีของเครือข่ายฯ ต่อการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน บริเวณป้ายโดยสารรถสาธารณะหน้า ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีฯ.

รองเท้าผ้าใบ

โพลชี้นักการเมืองยังสำคัญในระบอบประชาธิปไตย


เอแบคโพลชี้ "สื่อดี การเมืองดี ประชาชนมีสุข" ผลวิจัยข้อมูลกลุ่ม ปชช. อายุ 18 ปี ส่วนใหญ่ร้อยละ 91.8 อยากเห็นการทำหน้าที่ สื่อสารเพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความสงบสุขของบ้านเมือง ไม่วุ่นวาย และนักการเมืองยังคงมีความสำคัญมากถึงมากที่สุด...
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายนพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา กระทรวงวัฒนธรรม และประธานเครือข่ายวิชาการทำประชาพิจารณ์และสาธารณมติเพื่อนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดโครงการวิจัย “สื่อดี การเมืองดี ประชาชนมีสุข” โดยกล่าวว่า จากการศึกษาด้านการเขียนยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการนโยบายสาธารณะที่มหาวิทยาลัยจอร์ชทาวน์ (Georgetown University) วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ในขณะนี้ได้พบกับเครือข่ายวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อทำประชาพิจารณ์และสาธารณมติเพื่อนโยบายสาธารณะ ที่คณาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ร่วมมือกันทำหน้าที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ในการขับเคลื่อนสังคม ระหว่างสถาบันการศึกษา สาธารณชน สื่อและการเมือง เพื่อนำไปสู่การหนุนเสริมสื่อเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงความสัมพันธ์ รักษาวัฒนธรรมอันดีงามต่อกันในหมู่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ บนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า และระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากลของประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก
นายนพดล กล่าวต่อว่า ผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง เสียงสะท้อนของสาธารณชนต่อสถานการณ์ปัญหาบ้านเมืองของประเทศในปัจจุบันกับบทบาทของสื่อและนักการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย ยะลา นราธิวาส และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,267 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15–28 ส.ค. 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชน ที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน ความคลาดเคลื่อนร้อยละ 7 พบว่า
เมื่อถามถึง สถานการณ์ปัญหาสำคัญมากที่สุดของบ้านเมืองขณะนี้ พบว่า ร้อยละ 48.2 ระบุ ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง และค่าครองชีพ รองลงมาคือ ร้อยละ 36.7 ระบุปัญหาสังคม อาชญากรรม ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหาคุณภาพเด็กและเยาวชน ในขณะที่ร้อยละ 15.1 ให้ความสำคัญกับปัญหาการเมือง ความวุ่นวายทางการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึง ความสำคัญของสื่อสาธารณะในระบอบประชาธิปไตย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.9 ระบุ สำคัญมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 17.1 ระบุสำคัญน้อยถึงไม่สำคัญเลย โดยประเภทของสื่อสาธารณะที่สำคัญที่สุดต่อสถานการณ์ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ พบว่า สื่อยุคใหม่ ได้แก่ ไลน์ (LINE)  ยูทูบ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และเว็บไซต์ต่างๆ เป็นต้น รองลงมาคือ ร้อยละ 21.5 ระบุเคเบิลทีวี ร้อยละ 20.5 ระบุฟรีทีวี โทรทัศน์ช่อง 3 5 7 9 11 และทีวีไทย ในขณะที่ร้อยละ 10.8 ระบุเป็นหนังสือพิมพ์ และร้อยละ 7.3 ระบุเป็นวิทยุ ตามลำดับ นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.6 ยอมรับว่า สื่อต่างๆ มีบทบาทมากถึงมากที่สุดในการทำให้บ้านเมืองมั่นคง สงบสุขหรือวุ่นวาย สร้างปัญหาเดือดร้อนต่อประชาชนได้
เมื่อวิเคราะห์ถึงหน้าที่สำคัญของสื่อสาธารณะที่ประชาชนอยากเห็นในสถานการณ์ ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 91.8 อยากเห็นการทำหน้าที่สื่อสารเพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความสงบสุขของบ้านเมือง ไม่วุ่นวาย รองลงมาคือ ร้อยละ 87.5 อยากเห็นการสื่อสารเพื่อความปลอดภัยแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร้อยละ 84.6 อยากเห็นการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ บนความเป็นจริง ใช้เหตุใช้ผล ลดถ้อยคำปั่นอารมณ์ความเครียดแค้นต่อกันในหมู่ประชาชน ร้อยละ 83.3 อยากเห็นการสื่อสารเพื่อรักษาวัฒนธรรมอันดีงามในหมู่ประชาชน และร้อยละ 80.1 อยากเห็นการสื่อสารเพื่อช่วยขจัดคนโกง รักษาคนทำดีได้ดีมีที่ยืนในชุมชนและสังคม ที่น่าพิจารณาคือ เกินครึ่ง หรือร้อยละ 51.2 ระบุทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านยังทำได้ไม่ดีในการสื่อสารลดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ในขณะที่เพียงร้อยละ 23.9 ระบุทำได้ดีทั้งสองฝ่าย ร้อยละ 15.7 ระบุพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทำได้ดีกว่า และร้อยละ 9.2  ระบุฝ่ายค้านทำได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 ระบุนักการเมืองยังคงมีความสำคัญมากถึงมากที่สุดในระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่ร้อยละ 31.3 ระบุมีความสำคัญน้อยถึงไม่สำคัญเลย ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.1 ยังคงเชื่อมั่นมากถึงมากที่สุดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยถึงแม้บ้านเมืองจะมีปัญหาวุ่นวายเพียงไร ในขณะที่ร้อยละ 17.9 เชื่อมั่นน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.4 ยังคงให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป
ดร.นพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา กระทรวงวัฒนธรรมและประธานเครือข่ายวิชาการทำประชาพิจารณ์และสาธารณมติเพื่อนโยบายสาธารณะ กล่าวว่า การสื่อสารในยามที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหารอบด้านเป็นเรื่องสำคัญของทุกคนใน ชาติจึงจำเป็นต้องวางยุทธศาสตร์การสื่อสารที่ดีโดยเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญ เพื่อรักษาจุดแข็งและโอกาสของประเทศและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเอาไว้  จะพบว่าผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า สื่อสาธารณะมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้บ้านเมืองมั่นคงสงบสุข หรือวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในวงกว้างได้  จึงต้องสร้างความเชื่อมโยงที่เข้มแข็งจากแหล่งข้อมูลของกลุ่มบุคคลในสังคม ต้องชัดเจนด้วยถ้อยคำเรียบง่าย โดยหลีกเลี่ยงถ้อยคำที่ตีความกันได้หลายมิติ ไปยังสื่อสาธารณะและประชาชนในวงกว้าง คำนึงถึงความปลอดภัยและมั่นคงของสาธารณชน เพราะความล้มเหลวในการสื่อสารกับสาธารณชน จะเป็นการเติมไฟแห่งความรุนแรงและความวุ่นวายเสียหายต่อประเทศชาติ และประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศได้
ในขณะที่กลุ่มคนเพียงหยิบมือเดียวจะได้ประโยชน์มหาศาลจากความวุ่นวายของบ้านเมือง ดังนั้น ทางออกของประเทศคือ ประการแรก ผู้นำประเทศ ผู้ใหญ่ในสังคมและประชาชนทั่วไปมีโอกาสได้เรียนรู้บทเรียนความเสียหาย ความเดือดร้อนในอดีตเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดซ้ำซากที่เคยเกิดขึ้นจากการ ตัดสินใจของกลุ่มแกนนำและผู้ใหญ่ในสังคมบางคนที่มุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตัว และพรรคพวกบนซากปรักหักพังของบ้านเมืองและความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ประการที่สอง รัฐบาลและผู้ใหญ่ในสังคมต้องแสดงความชัดเจนในการสร้างความเป็น “หุ้นส่วนกัน (Partnership)” ระหว่างรัฐบาล ฝ่ายค้าน สื่อสาธารณะ ผู้มีบารมีในสังคม เจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มนายทุน และประชาชนทุกหมู่เหล่า เพราะความเป็นหุ้นส่วนกันจะต้องแบ่งปันข้อมูลความเป็นจริงและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการทำหน้าที่รักษาความสงบสุขของชุมชนและสังคมโดยส่วนรวม ไม่ปิดกั้นแบ่งแยกชนชั้น
โดยผลที่ตามมาคือ การเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ลดเงื่อนไขแห่งความขัดแย้ง ลดช่องว่างของข้อมูลข่าวสาร และเพิ่มความวางใจต่อกัน ประการที่สาม รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐในฐานะที่มีอำนาจในมือขณะนี้ ต้องทำให้หุ้นส่วนของตนเอง ทั้งสื่อมวลชนและประชาชนทุกหมู่เหล่าเห็นชัดเจนจับต้องได้ว่า เมื่อวางใจทำตามแนวทางของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว หุ้นส่วนอื่นๆ ในประเทศบรรลุเป้าหมายและความสงบสุขโดยเร็ว ยิ่งทำได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งจะทำให้ความเสี่ยงต่อการสูญเสียและความวุ่นวายต่างๆ ก็จะลดน้อยลงไปได้อย่างมากตามนั้น
ทั้งหมดนี้คือ กรอบแนวคิดเบื้องต้นที่กลั่นกรองจากข้อมูลวิจัยโครงการ “สื่อดี การเมืองดี ประชาชนมีสุข” โดยโครงการวิจัยดังกล่าวเปิดกว้างยินดีต้อนรับสมาชิกเครือข่ายวิชาการ เพื่อประชาพิจารณ์และสาธารณมติได้ที่.

คาดราคาน้ำมันโลกขึ้นเล็กน้อยแม้กังวลเกิดสงครามซีเรีย


นักวิชาการประเมินราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล แม้ชาติตะวันตกแสดงท่าทีโจมตีซีเรีย...  เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2556 นายบัณฑิต เอื้ออาทร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่พุ่งสูงขึ้นมากนัก แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา จากท่าทีของชาติตะวันตกที่เตรียมโจมตีซีเรีย โดยมองว่า ในกรณีเลวร้ายมีการใช้กำลังทหารจริง ราคาน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปรับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น และมองว่าเป็นสถานการณ์ชั่วคราว เพราะความสามารถทางการทหารของซีเรียกับชาติตะวันตกแตกต่างกันมาก รวมทั้งยังมีปัญหาความไม่สงบภายในการสู้รบเหตุการณ์จึงไม่ยืดเยื้อ  นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันได้เปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันรองรับสถานการณ์นี้ไปบ้างแล้ว ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจโลกยังเป็นแรงกดดันไม่ให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงมากนัก ส่วนราคาน้ำมันในประเทศมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นตามราคาในตลาดโลก แต่จะไม่กระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน เพราะปริมาณสำรองน้ำมันยังมีเพียงพอ  ด้านนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่มีต่อราคาน้ำมันได้ เพราะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์ และกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางมากแค่ไหน โดยหวังว่า ปัญหาจะจบลงโดยเร็วและส่งผลกระทบต่อไทยน้อยที่สุด แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ต่อน้ำมันในประเทศมากในช่วงนี้เกิดจากค่าเงินบาทอ่อนค่า.

รองเท้าผ้าใบ

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บัวแก้วมึน! ดวงตราวีซ่าหายอีก500แผ่น สั่งล้อมคอก


กต.ล้อมคอกปรับโฉมดวงตราวีซ่า สแกนหน้าเจ้าของลงสติกเกอร์ สั่งเอกซเรย์ทุกสถานทูตไทย หลังพบที่สุวรรณเขต หายอีก 500 แผ่น ขู่เจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจดำเนินคดีตามกฎหมายเด็ดขาด "สุรพงษ์" ยัน "โทนี แบลร์" มาชัวร์ ...  เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีแผ่นตรวจลงตราของไทย หรือสติกเกอร์ วีซ่า หายไปจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ได้รับรายงานว่าที่แขวงสุวรรณเขต ประเทศลาว สติกเกอร์วีซ่าหายไป ซึ่งวันนี้ เวลา 13.00 น. ตนได้เชิญกรมการกงสุล และรองปลัดฯที่ดูแลเรื่องนี้มาดูรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง เพราะเหตุการณ์นี้น่าจะต่อเนื่องมาพอสมควร ซึ่งตนจะดูขั้นตอนการเบิกจ่าย การส่งไปมีการลงทะเบียนและรับมอบกันอย่างไรบ้าง หากกระบวนการมีความบกพร่องเราจะต้องรีบปรับปรุงแก้ไข   นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของการส่งเรามีลูกจ้างเป็นคนท้องถิ่นทำงาน โดยที่สถานทูตหรือสถานกงสุลไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบ จึงต้องมีมาตรการที่รัดกุมขึ้น และหากตนลงไปตรวจสอบและพบว่ามีกระบวนการหรือเจ้าหน้าที่ทางภาครัฐไปเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีรายงานตัวเลขสติกเกอร์ที่หายจำนวน 500 แผ่น โดยตนได้มีการกำชับให้ตรวจสอบทั่วโลก ทุกสถานทูตที่เราส่งไป และให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าใครเบิกไปเท่าไหร่ ส่งไปเท่าไหร่ ถึงเมื่อไหร่ มีการเซ็นรับถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ได้ให้กรมการกงสุลคุยกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เรื่องการพัฒนาระบบการพิมพ์ไม่ให้มีการปลอมแปลง และแนวทางในอนาคตเราจะเปลี่ยนรูปแบบสติกเกอร์วีซ่า ให้มีใบหน้าของคนติดอยู่ ซึ่งเราได้ศึกษาแล้วว่าสามารถทำได้   เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีหนอนบ่อนไส้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนขอสอบสวนข้อเท็จจริงดูก่อน อย่างของประเทศมาเลเซียเมื่อตนทราบก็ได้มีคำสั่งให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนก่อนหน้านี้จะมีหรือไม่ตนจะลงลึกไปกว่านั้น เพราะเมื่อหายไปเราก็ได้แจ้งหมายเลขวีซ่าที่หายให้ ตม.ทราบ และจากที่ ตม.ตรวจจับยังไม่มีผู้ก่อการร้ายในขบวนการที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่ายังโชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนั้น ทั้งนี้ หากตนตรวจสอบว่ามีคนของกระทรวงเข้าไปเกี่ยวข้องต้องเอาจริงเอาจังจะไม่ปล่อยทิ้งไว้ และจะต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอันตรายหากบุคคลที่ขโมยไปเอาไปใช้เป็นผู้ก่อการร้ายหรืออาชญากร ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเบื้องต้นทางตม.แจ้งว่าเป็นบุคคลทั่วไป  นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศ ยังกล่าวถึงการเดินทางร่วมเวทีปาฐกถาผ่านโครงการ Uniting for the future: Learning from each other's experiences (ผนึกกำลังสู้อนาคต เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์) ของนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ในวันที่ 2 ก.ย. หลังกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติยืนหนังสือคัดค้านที่สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยว่า ยืนยันมาแน่นอน ฝ่ายที่ไปคัดค้านสถานทูตอังกฤษ ไม่อยากไปพูดว่าไปปิดกั้นสังคมไทย เพราะวันนี้กระทรวงการต่างประเทศจัดเวทีนี้ขึ้นมาเป็นเวทีทางวิชาการ เพื่อให้คนได้เรียนรู้ประสบการณ์จากผู้นำที่มีประสบการณ์ในประเทศต่างๆ ที่มีความขัดแย้ง และจะร่วมแก้ไขปัญหา แต่บุคคลที่ไปคัดค้านไม่ให้เข้ามา ก็ไม่เข้าใจว่าคิดอะไร แทนที่จะหาทางออกให้กับประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าสังคมไทยสงบเศรษฐกิจไทยเดินหน้าแน่นอน   รมว.ต่างประเทศ กล่าวต่อว่า ความวุ่นวายทางการเมืองเป็นสิ่งที่หลายๆ ประเทศไม่อยากเห็น อยากให้บุคคลที่ออกมาต่อต้านกลับไปดูที่ประเทศอียิปต์เป็นตัวอย่าง ที่วันนี้เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเสียหาย ตนไม่รู้ว่าคนไทยกลุ่มนั้นต้องการอะไรในชีวิตเขา คิดถึงประชาชน ประเทศชาติบ้าง จากรายชื่อที่เชิญไปในการเสวนาครั้งแรก มีทั้งหมด 11 คน ตอบรับที่จะมาวันที่ 2 ก.ย.จำนวน 3 คน ส่วนที่จะมาครั้งต่อไปก็จะมีผู้นำอื่น และมีการเชิญเพิ่มเติมอีก ได้มีการส่งหนังสือเชิญไปอีกชุดหนึ่งแล้วในการเสวนาครั้งที่ 2 เพียงแต่รอทางไทยกำหนดวันเสวนาครั้งท่ี่ 2 ว่าจะเป็นเมื่อไร ซึ่งจะกำหนดวันที่ชัดเจนหลังเสร็จสิ้นการเสวนาครั้งแรก เพื่อให้ผู้นำเลือกวันที่จะมาร่วมเวทีเสวนาได้

รองเท้าผ้าใบ

ลากคอ 3 โจร ปล้นทองออโรร่า อ้างจำจากยูทูบ


ตำรวจรวบ 3 โจรปล้นทองร้านทองออโรร่า พร้อมยึดของกลางทองคำรูปพรรณคืน 65 บาท  หลังหนีกบดานจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบผู้ต้องหานำทองฝังดิน อำพรางการตรวจค้น...  เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูกระจ่าง ผบช.น. แถลงผลการจับกุม นายทวีโชค กนกสิงห์ อายุ 30 ปี นายจักรณรงค์ มาสวัสดิ์ อายุ 24 ปี และนายสุเทพ เนียมเส็ง อายุ 34 ปี พร้อมยึดของกลางเป็นรถยนต์ฮอนด้า 1 คัน รถจักรยานยนต์ ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน และยึดคืนสร้อยคอ สร้อยข้อมือทองคำ รวม 56 เส้น ภายหลังร่วมกันใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ร้านเพชรทองออโรร่า สาขาอิมพีีเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้ทองคำรูปพรรณหนักประมาณ 65.3 บาท มูลค่าประมาณ 1 ล้าน 2 แสนบาท      พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลและ บกน.4 ติดตามจับกุมตัวนายทวีโชค ได้ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากนั้นขยายผลจับกุมนายจักรณรงค์ และนายสุเทพ ได้ที่บริเวณถนนรัชดาภิเษก     สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพ ว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานที่พัทยา จ.ชลบุรี และ จ.แพร่ ก่อนจะไปหลบหนีไปซ่อนตัวที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยนำทองที่เหลือใส่กระบอกไม้ไผ่ ไปฝังดินไว้ เพื่ออำพรางการตรวจค้น ขณะที่วันเกิดเหตุไม่ตั้งใจยิงปืนใส่ร้านทองแต่อ้างว่าปืนลั่น  นอกจากนี้ นายทวีโชค ผู้ต้องหา อ้างว่า ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ และชอบเข้าร้านเกม  โดยดูวิธีการการก่อเหตุมาจากยูทูบ และเว็บไซต์ต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว.

ทลายรังโจรใต้ บนเทือกเขาบูโด ยึดถังแก๊สทำบึม


กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจงตรวจพบค่ายพักของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง บนเทือกเขาบูโด พื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พบของกลางเพียบ รวมทั้งถังแก๊ส 5 ถัง เร่งขยายผลหาตัวผู้กระทำผิด...  เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ส.ค. 56 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ในฐานะโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 และหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ได้สนธิกำลังลาดตระเวนเข้าพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาบูโด พื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ตรวจพบค่ายพักแรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง บรรจุคนได้ประมาณ 20 คน ตรวจพบสิ่งของหลายรายการ ดังนี้ 1.ซองกระสุนปืนเล็กยาว M-16 ขนาดบรรจุ 3๐ นัด (ชำรุด) 1 ซอง 2.ถังแก๊สปิคนิค 5 ถัง 3.เปลสนาม 15 หลัง 4.ผ้ายางกันฝน 15 ผืน 5.แผงโซลาร์เซลล์ 1 แผง 6.แบตเตอรี่ 2 ลูก 7.เสื้อคอกลมสีดำลายพราง 1 ตัว 8.ถังน้ำสีฟ้าขนาด 100 ลิตร 2 ถัง 9.หม้อข้าวสนามและหม้ออะลูมิเนียม 4 ใบ 11.เสื้อ ชรบ.แขนยาวสีดำ 12 ตัว 12.ผ้ายางผืนใหญ่ ขนาด 4x6 เมตร 2 ผืน 13.ผ้าพันคอของหน่วยทหาร 1 ผืน 14.หมวกทรงอ่อนสีแดง (ไบเล่) 1 ใบ 15.เสื้อกั๊กบรรจุซองกระสุนสีดำ 6 ตัว 16.รองเท้าเดินป่าและยาเวชภัณฑ์จำนวนหนึ่ง  พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ผลสำเร็จดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือในการช่วยแจ้งเบาะแสของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่ จนนำไปสู่การพิสูจน์ทราบและตรวจพบสิ่งของหลายรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น ในเจ้าหน้าที่รัฐและเบื่อหน่ายสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะได้นำสิ่งของต่างๆ ที่ตรวจยึดได้ไปทำการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ พร้อมกับจะเพิ่มมาตรการกดดันต่อไป และนำกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อยู่ระหว่างหลบหนี เพื่อมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ในการใช้มาตรการต่างๆ จะกระทำด้วยความระมัดระวัง ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน โดยมิให้มีผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชน ชุมชน และสังคม รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิด ทุกคนได้มีโอกาสออกมารายงานตัวแสดงตน โดยเจ้าหน้าที่พร้อมอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยความเป็นธรรม เพื่อร่วมสร้างสันติสุขที่ยั่งยืนต่อไป.

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"ชัชชาติ" ไล่บี้สารพัดปัญหาคมนาคม! บัตรอีซี่พาสโกง-แอร์พอร์ตลิงค์-รถเมล์


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ยืนยันในที่ประชุมจะเร่งรัดปรับปรุงเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (อีซี่พาส) ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน คือ แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หลังระบบมีปัญหาแจ้งยอดค่าใช้จ่ายที่ด่านเก็บเงินไม่ตรงกับค่าใช้จ่ายจริงที่อยู่ในบัตร นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ข้าราชการระดับซี 9 ทดลองนั่งรถเมล์ต่อไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่กำหนดให้ทดลองนั่ง 2 เดือน คือ ก.ค.-ส.ค. โดยได้รายงานปัญหาเข้ามา 1,283 ครั้ง ปัญหาที่พบมากสุด คือ จอดไม่ตรงป้าย ขับรถเร็ว มารยาทไม่ดี พนักงานเก็บค่าโดยสารบริการไม่สุภาพ ความแออัดในรถและไม่สะอาด เป็นต้น ส่วนการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ยังมีปัญหาการติดตั้งบันไดเลื่อนที่ล่าช้ากว่ากำหนดมา 3 เดือนแล้ว โดยเฉพาะที่สถานีพญาไท  ผู้โดยสารต้องแบกกระเป๋าลงจากสถานี ขณะที่ชานชาลาแคบควรทำที่ระบายอากาศให้ดีมากขึ้น ส่วนการเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนอื่นดีขึ้นมากแล้ว นอกจากนี้ การสำรวจพื้นที่ย่านสถานีรถไฟฟ้าสวนจตุจักรพบว่า มีแม่ค้าหาบเร่ แผงลอยยึดถนนไป 1 เลน เลนที่ 2 เป็นรถตู้ยึดไป รวมถึงรถตุ๊กตุ๊ก ด้วย จึงต้องหารือกับ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ขณะที่กำหนดมาตรฐานรถโดยสาร 2 ชั้นให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1.มาตรฐานของรถ 2.การกำหนดเรื่องวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในรถเพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ และ 3.การควบคุมคนขับรถ สัปดาห์หน้าให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)รายงานให้ทราบอีกครั้ง.


รองเท้าผ้าใบ

ครบ1เดือนน้ำมันรั่ว ความรับผิดชอบจาก PTTGC มีแค่ไหน???






เหตุท่อส่งน้ำมันดิบ PTTGC รั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง ครบรอบ 1 เดือนเต็มในวันนี้ (27 ส.ค.) ขณะที่หลายภาคส่วนยังคงสงสัยในความรับผิดชอบต่อการชดเชย เยียวยาและฟื้นฟูจาก PTTGC ตามที่ได้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้...  นับถอยหลังตั้งแต่วันเกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC) รั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ครบรอบ 1 เดือนเต็มพอดี ก่อนที่กระแสน้ำจะพัดพาน้ำมันดิบบางส่วนที่รั่วไหล เข้าสู่ชายฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของ จ.ระยอง ในช่วงกลางดึกวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ...      29 ก.ค.2556 ภาพท้องทะเลสีครามและชายหาดสีขาวของอ่าวพร้าว ชายหาดส่วนตัวที่ตั้งรีสอร์ทหรูระดับ 3 ดาวครึ่งถึง 5 ดาว ที่มีสนนราคาค่าที่พักแพงที่สุดในเกาะเสม็ด แปรสภาพเป็นชายหาดสีดำ เหนือผิวน้ำทะเล ถูกปกคลุมด้วยคราบน้ำมันดิบสีดำจำนวนมาก จนอ่าวพร้าวไม่หลงเหลือความงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าครามอย่างที่เคยเป็น มิหนำซ้ำคราบน้ำมันดิบจำนวนมหาศาลยังส่งกลิ่นเหม็นกระจายทั่วทั้งชายหาด  อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จำเป็นต้องปิดอ่าวพร้าว และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะเสม็ด ในทุกๆ อ่าว เริ่มทยอยเช็คเอาท์ หิ้วกระเป๋ากลับก่อนกำหนด เพราะทนกลิ่นเหม็นของน้ำมันดิบไม่ไหว และไม่กล้าลงเล่นน้ำเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสารเคมีปนเปื้อนในน้ำทะเล ทั้งๆ ที่คราบน้ำมันพัดเข้าชายฝั่งอ่าวพร้าวเพียงอ่าวเดียว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นขยายวงกว้างต่อธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมดของเกาะเสม็ด ที่มีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 12 อ่าว มีธุรกิจต่อเนื่องกว่า 12 ประเภท ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหลในครั้งนี้     อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล ผู้บริหารระดับสูงของ PTTGC รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของ ปตท. ในฐานะบริษัทแม่ พูดผ่านสื่อทุกแขนงตลอดเวลาว่า   “ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีเยียวยาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับผู้ได้รับผลกระทบ”  พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนกรอเทปกลับไป-กลับมา แต่จนถึงขณะนี้ เรายังไม่เห็นการกำหนดแนวทางเยียวยาอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม     ระหว่างการฟื้นฟูสถานการณ์เฉพาะหน้าคืนทัศนียภาพอ่าวพร้าวให้กลับสู่ภาวะปกติ ภายใต้ปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันบริเวณอ่าวพร้าว PTTGC เข้าสู่กระบวนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ภายใต้ความร่วมมือกับจังหวัดระยอง จัดตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล ปฏิบัติงานแบบคู่ขนานไปกับการฟื้นฟูอ่าวพร้าวให้กลับสู่ภาวะปกติ  ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลรายจ่ายที่ชัดเจน สำหรับการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหล โดยเฉพาะประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายคืนให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจตั้งแต่เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหล และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนของ “กองทัพเรือ” ที่ให้การสนับสนุนทั้งกำลังพล และอุปกรณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันแรกที่ท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2556 จนกระทั่งสิ้นสุดภารกิจ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน จากทั้งกองทัพเรือ และคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (กปน.) ต่อการสรุปยอดค่าใช้จ่ายจากปฏิบัติการดังกล่าว     ในขณะที่ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ พยายามประสานไปยัง นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า ในประธานคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน (กปน.) เพื่อสอบถามความคืบหน้าของการเรียกร้องให้ PTTGC จ่ายค่าดำเนินการทั้งหมดที่ใช้ในปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันและฟื้นฟู รวมทั้งจ่ายชดเชยความเสียหาย ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่สามารถติดต่ออธิบดีกรมเจ้าท่าได้  มีเพียงรายงานข่าวระบุว่า อธิบดีกรมเจ้าท่า เพิ่งประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การคิดค่าใช้จ่ายและค่าชดเชยความเสียหาย ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ค่าเสียโอกาส ในพื้นที่ที่เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมันขึ้น โดยมีนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธาน ทั้งนี้เพื่อกำหนดแผนการปรับปรุง แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติในอนาคต แต่ในที่ประชุม กลับไม่มีการกล่าวถึงความคืบหน้าของการจ่ายคืนค่าดำเนินการในการขจัดคราบน้ำมัน และฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวคืนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด     ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบภายใต้ความดูแลของคณะกรรมการเยียวยาฯ ชุดที่มี นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าฯเป็นประธาน จนถึงขณะนี้มีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบไปแล้ว 6 ครั้ง จากจำนวนผู้ยื่นขอรับความช่วยเหลือเยียวยาทั้งสิ้น 5,421 ราย ณ วันที่ 22 ส.ค.2556 โดยแบ่งเป็นกลุ่มโรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจบริการ 1,199 ราย กลุ่มประมง 1,791 ราย กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ 1 ราย และกลุ่มอื่นๆ เช่น พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ แผงลอยตามชายหาด, กลุ่มให้บริการนวดแก่นักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้ให้บริการรถสองแถวรับจ้าง 2,430 ราย  โดย PTTGC จ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ PTTGC จัดงาน Big Cleaning Day ทำความสะอาดอ่าวพร้าว โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  ล่าสุดคณะกรรมการเยียวยาฯ ชุดที่มีผู้ว่าฯ เป็นประธาน รายงานสรุปความคืบหน้าการเยียวยาชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่ว ณ วันที่ 22 ส.ค.2556 มีผู้ได้รับผลกระทบได้รับเงินเยียวยาจาก PTTGC ไปแล้วทั้งสิ้น 1,892 ราย  คิดเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มโรงแรม, ร้านอาหาร และธุรกิจบริการ 174 ราย กลุ่มอาชีพประมง 1,175 ราย และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ แผงลอยตามชายหาด รวมทั้งกลุ่มผู้ให้บริการนวดแผนโบราณอีก 543 ราย     อย่างไรก็ตาม การกำหนดวงเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มต่างๆ วงเงินจะลดหลั่นกันไปตั้งแต่ 500 บาทต่อวัน สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ชายหาด และกลุ่มนวดแผนโบราณ รวม 30 วัน ได้รับวงเงินชดเชย 15,000 บาทต่อราย ในขณะที่กลุ่มประมงได้รับการเยียวยา 1,000 บาทต่อวันต่อครอบครัว เป็นระยะเวลา 30 วัน รวมวงเงินเยียวยาต่อครอบครัว 30,000 บาท ในขณะที่กลุ่มร้านอาหารขนาดใหญ่ และรีสอร์ทหรือที่พักขนาดเล็กกำหนดเยียวยาที่ 2,000 บาทต่อวัน รวมวงเงินเยียวยา 60,000 บาทต่อราย  ในขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มที่พัก-รีสอร์ท ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการเยียวยา โดยผู้ว่าฯ ระยอง ระบุว่า ต้องพิจารณาค่าชดเชยอีกครั้ง เพราะผลกระทบเกิดขึ้นในแต่ละรายไม่เท่ากัน จึงต้องมาพูดคุยตกลงกันในรายละเอียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะสามารถลงทะเบียน ยื่นขอรับการชดเชยเยียวยาได้ถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้เท่านั้น ส่วนผู้ได้รับผลกระทบที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน เมื่อครบกำหนดในสิ้นเดือนนี้แล้ว ต้องไปลงทะเบียนที่ศาลาว่าการจังหวัดระยองเท่านั้น โดยขั้นตอนการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาอาจล่าช้าออกไป     ข้อจำกัดการกำหนดระยะเวลาเยียวยาที่ PTTGC กำหนดให้เพียง 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหล 27 ก.ค.2556  ซึ่งหากตีความตามหนังสือสัญญาของคณะกรรมการเยียวยาฯ หมายความว่า วันที่ 26 ส.ค.2556 คือวันสุดท้ายที่ PTTGC จะจ่ายเยียวยาในเบื้องต้นให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากท่อส่งน้ำมันดิบรั่ว ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ PTTGC จะจ่ายให้ก็ต่อเมื่อผู้ได้รับผลกระทบนำข้อมูลหลักฐานความเสียหายที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม ไปยื่นอุทธรณ์ตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมาย เพื่อขออำนาจศาลสั่งให้ PTTGC เยียวยาผลกระทบที่เรียกร้องเพิ่มขึ้น  และทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก รวมถึงผู้ประกอบการที่พัก และรีสอร์ท บนเกาะเสม็ดในบางส่วน  แสดงความไม่พอใจต่อ PTTGC ที่กำหนดค่าเยียวยาโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันรั่วกลางทะเลจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้สัตว์น้ำในทะเลลดจำนวนลง เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปกว่า 80% ผู้ประกอบการบางรายยังคงเดือดร้อนจากผลกระทบของเหตุการณ์น้ำมันรั่วมาจนถึงทุกวันนี้     น่าเสียดายที่ ข้อมูลตัวเลขการช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเลที่ทางบริษัท PTTGC ซึ่งทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ติดต่อขอไป ยังมาไม่ถึง จึงยังไม่มีตัวเลขการเยียวยาและฟื้นฟูอย่างเป็นทางการจากทางบริษัทฯ ซึ่งเมื่อข้อมูลมาถึงแล้ว เรายินดีที่จะนำมาเสนอในพื้ยที่เดียวกันนี้ทันที...


รองเท้าผ้าใบ

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Thailand only ชาวตรังโวย 10ปีไม่มีไฟฟ้าใช้



Thailand only ตะลึง ชาวบ้านเกือบ 20 ครัวเรือน ใน อ.สิเกา จ.ตรัง สุดทน 10 ปี ไม่มีไฟฟ้าใช้ ติดปัญหา อบต. การไฟฟ้าโยนกันไปมา...  วันที่ 26 ส.ค.56 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ จ.ตรัง รายงานว่า มีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้อีกเกือบ 20 ครัวเรือน ในพื้นที่ ม.4 บ้านปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจริง พบกับ นายสมศักดิ์ อุ่นเรือง อยู่บ้านเลขที่ 140/11 ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว เปิดเผยว่า บ้านตนไม่เคยมีไฟฟ้าใช้มานานนับ 10 ปีแล้ว ตนอยากขยายเขตการใช้ไฟฟ้า และพร้อมดำเนินการเอง โดยเมื่อสองปีที่แล้ว ตนได้ติดต่อไปยัง อบต.ไม้ฝาด ซึ่งได้รับคำแนะนำว่าให้ไปติดต่อที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.สิเกา แต่เมื่อไปยื่นเรื่องปรากฏว่าทาง กฟภ. ได้ตีกลับมาว่าให้ติดต่อไปที่ อบต.ไม้ฝาด ก่อน หลังจากนั้น ทาง อบต.ไม้ฝาด ก็เข้ามาแจ้งว่ากำลังดำเนินเรื่องอยู่ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตนจึงคิดว่าจะลากสายไฟฟ้าจากต้นซอยเข้ามาเองแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเส้นทางสายนี้อยู่ในความดูแลของ อบต.ไม้ฝาด   นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ตลอดเส้นทางที่ชาวบ้านยังเดือดร้อน คิดเป็นระยะทางประมาณ 1,800 เมตร ซึ่งมีอีกเกือบ 20 ครัวเรือน ที่มีบ้านเลขที่เรียบร้อย แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งในพื้นที่นี้ มีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนได้รับความเดือดร้อน จำนวนกว่า 20 คน ส่วนบ้านของตนนั้น ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 500 เมตร ตนมีบุตร 2 คนกำลังอยู่ในวัยเรียน จึงรู้สึกสงสารบุตรหลาน เวลาทำการบ้าน จะต้องพึ่งเครื่องปั่นไฟ ซึ่งใช้งานได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ หากจะรีดเสื้อผ้านักเรียน ก็ต้องใช้เตารีดถ่านสมัยก่อนใช้แทน ส่วนโทรศัพท์มือถือของตนและตะเกียงไฟที่ใช้ส่องเวลากรีดยางพารา นั้น จะต้องไปชาร์จแบตเตอรี่จากบ้านของญาติ ที่อยู่ติดถนนใหญ่ ส่วนเวลากลางคืนต้องใช้แสงเทียนให้แสงสว่าง  นายสมศักดิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนเคยติดต่อไปยังการไฟฟ้าฯ สิเกา 6 ครั้งแล้ว แต่เรื่องก็เงียบ ไม่มีความคืบหน้า เคยได้รับคำแนะนำว่าให้ยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้าแบบชั่วคราว แต่พอยื่นเรื่องไปก็ไม่ผ่าน หลายครอบครัวในละแวกนั้น หากไม่มีเครื่องปั่นไฟ ก็ต้องใช้แผงโซลาร์เซลล์ รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ แต่ที่บ้านตนนั้น เคยขอไปยัง อบต.ไม้ฝาด แล้ว แต่ทางอบต. ได้ชี้แจงว่าหมดงบประมาณฯ ส่วนบางครอบครัวที่เคยมีอยู่ ตอนนี้เครื่องเสีย ใช้ไม่ได้แล้วก็มี  ขณะที่ นางจิราพร อุ่นเรือง อายุ 38 ปี ภรรยาของ นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกสงสารลูก เพราะจะทำอะไรก็ลำบาก โดยตนนั้นมีความหวังว่าจะมีไฟฟ้าใช้ ตั้งแต่ครั้งที่นายสมศักดิ์ ได้ทำเรื่องขอใช้ไฟฟ้ากับทางการไว้ จึงเดินสายไฟภายในบ้านไว้ เพื่อพร้อมใช้งานหากทางการดำเนินเรื่องให้ แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำซาก เพราะไม่มีอะไรคืบหน้าเลย   ทางด้าน นางสาวิตรี พรานบุตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/2 ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า ที่บ้านของตนนั้นต้องใช้ไฟจากเครื่องปั่นไฟเช่นเดียวกัน เดิมตนเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช หลังจากแต่งงานก็ย้ายมาอยู่ที่นี่นับ 10 ปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ใช้ไฟฟ้าเลย ต้องพึ่งเครื่องปั่นไฟมาตลอด รู้สึกสงสาร ด.ญ.ฟาร์รี พรานบุตร อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนหาดปากเมง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ลูกที่กำลังอยู่ในวัยเรียนต้องลำบากตามไปด้วย ซึ่งลูกของตนเป็นเด็กเรียนดี ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนแข่งคอมพิวเตอร์ จนได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับอำเภอ ขณะนี้กำลังแข่งต่อในระดับจังหวัดแล้ว ทั้งที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้เพื่อฝึกฝนเล่นคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ.


รองเท้าผ้าใบ

เลื่อนอีก! คดีทายาท“กระทิงแดง” ชนตำรวจดับ


เลื่อนอีกรอบ! อัยการเลื่อนสั่งคดี ทายาทกระทิงแดง ชนตำรวจ สน.ทองหล่อ ดับ ไปเป็นวันที่ 2 ก.ย. เหตุผู้ต้องหาไม่สบาย การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ...      วันที่ 26 ส.ค.56 ที่สำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาใต้ 1 นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษฝ่ายคดีอาญาใต้ 1 มีคำสั่งเลื่อนนัดสั่งคดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 28 ปี ลูกชายนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจ “กระทิงแดง” เป็นผู้ต้องหาคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 ก.ย.55 ที่ขับรถพุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ป.สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เนื่องจากผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมต่อนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดในประเด็นขับรถเร็วเกินอัตรากฎหมายกำหนด ขอให้สอบพยานเพิ่มเติม 4 ปาก รวมทั้งพยานผู้เชี่ยวชาญ 2 ปาก อัยการสูงสุด มีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม แต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งทนายความผู้ต้องหาขอเลื่อนนัด เมื่อผู้ต้องหาไม่สบาย มีใบรับรองแพทย์ยืนยัน อัยการจึงเลื่อนสั่งคดีไปเป็นวันที่ 2 ก.ย.56 เวลา 10.00 น.

รองเท้าผ้าใบ

ข้างขึ้นเดือนหงายคนนอนไม่ค่อยหลับ



หลายท่านอาจจะเคยบ่นกันมาบ้างแล้วว่า คืนเดือนหงายมักจะนอนไม่ค่อยหลับ และบัดนี้ วารสารวิชาการ “ชีววิทยาปัจจุบัน” ของสหรัฐฯได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้มีหลักฐานที่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์อยู่บ้างเหมือนกัน ทั้งปรากฏการณ์ ความรู้สึกในเรื่องนี้ ยังแสดงว่ามนุษย์เราแม้จะมีความสุขกับโลกที่เจริญก้าวหน้าดีอยู่แล้ว ก็ยังอดหวั่นไหวกับคืนเดือนมืดเดือนหงาย ตามปฏิทินแบบจันทรคติอยู่ไม่ได้  จิตแพทย์คริสเตียน คาโจเชน ของโรงพยาบาลโรคจิต มหาวิทยาลัยบาเซิล กล่าวว่า ข้างขึ้นข้างแรมมีอิทธิพลกับการนอนของเราเหมือนกัน แม้ว่าจริงๆ เราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นคืนข้างขึ้นหรือข้าง แรมก็ตาม  หมอกับคณะได้ศึกษากับอาสาสมัครต่างวัย 2 กลุ่ม ในห้องปฏิบัติการทดลอง โดยคอยวัดแบบแผนการนอนด้วยการสังเกตการเคลื่อนไหวของลูกตา และฮอร์โมนในสมอง  เมื่อนำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ได้พบว่า หากเป็นคืนวันเพ็ญ สมองในช่วงการหลับลึกจะอ่อนแรงลงไปร้อยละ 30 นอกนั้นกว่าจะหลับตาลงได้ จะช้าไปกว่าเคย 5 นาที รวมแล้วทั้งคืนจะนอนน้อยกว่าปกติไป 20 นาที  นายแพทย์คริสเตียนให้ความเห็นว่า อิทธิพลของดวงจันทร์คงมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสืบพันธุ์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นของมนุษย์อยู่ และปรากฏว่า ยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมรูปแบบอื่นอีกด้วย เช่น ต่อสติปัญญาและอารมณ์.


รองเท้าผ้าใบ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Sony เอาใจตลาดเปิดตัว Xperia Z Ultra มื



"โซนี่" ส่ง Xperia Z Ultra สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6.4 นิ้วแบบ  Full HD ตัวเครื่องบางเพียง 6.5 มิลลิเมตร ชูจุดเด่นการวาดเขียนหน้าจอด้วยดินสอและกันน้ำได้ แอนดรอยด์ 4.2 ซีพียูควอดคอร์ รองรับ 3G กล้อง 8 ล้านพิกเซลถ่ายได้ทั้งบนบกใต้น้ำ...   บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ประกาศเปิดตัว Xperia Z Ultra (เอ็กซ์พีเรีย ซี อัลตร้า) สมาร์ทโฟนตัวแรกจากโซนี่ มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.4 นิ้ว ด้วยดีไซต์ของตัวเครื่องที่มีความบางเพียง 6.5 มิลลิเมตร น้ำหนักแค่ 212 กรัม และสามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP58 โดยสามารถกันน้ำได้ 1.5 เมตร นานถึง 30 นาที พร้อม Triluminos Display and X-Reality for mobile 16 ล้านสี ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล หน้าจอผลิตจากกระจกเทมเปอร์ กลาส ชูจุดเด่นที่รองรับการขีดเขียนหน้าจอด้วยดินสอไม้ สามารถสั่งงานหน้าจอได้อย่างตรงจุด หรือวาดรูป บันทึกโน้ตด้วยลายนิ้วมือ ทำงานด้วยระบบประมวลผลเร็วสูงสุด 2.2GHz ควอลคอมม์ Snapdradon 800 ควอดคอร์ บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 Jelly Bean ด้วยหน่วยความจำเครื่องมากถึง 16GB แรม 2 GB ตัวเครื่องยังรองรับ microSD มากถึง 32GB และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย บนระบบ GSM Quad-band และ UMTS HSPA+ ความเร็ว (download) 42 Mbps (850/900/1700/1900/2100 MHz)       นอกจากนี้ Xperia Z Ultra ยังมาพร้อมกล้องความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล เปิดประสบการณ์ใหม่ ถ่ายได้ทั้งใต้น้ำ บนบก และในที่ที่มีแสงน้อยด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะ Sony Exmor RS for mobile & HDR Video ที่ช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันสดใส มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Superior auto, Scene Selection, Burst mode, Picture Effect, Touch Focus โฟกัสเฉพาะจุด ถ่ายภาพรวดเร็วมากขึ้น บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ Full HD ขนาด 1080p พร้อมโหมด HDR เชื่อมต่อไร้สายได้อย่างอิสระ ด้วย Wi-Fi, Bluetooth 4.0, aGPS , USB high speed 2.0 รองรับ DLNA (Digital Living Home Alliance) และพอร์ต HDMI via MHL ให้คุณได้มากขึ้นด้วย          อีกทั้งความสามารถ Screen Mirroring ส่งภาพขึ้นหน้าจอขนาดใหญ่ หรือ NFC ( Near field communication) การส่งข้อมูลระยะใกล้ เพียงแตะก็เชื่อมต่อ สนุกได้อีกกับ Social Network ไม่ว่าจะถ่ายแล้วแชร์ ผ่าน YouTube หรือหาคำโดนๆ แล้วโพสต์บน Facebook ตามติดข่าวฮิปๆ บน Twitter หรือคุยกันแบบเห็นหน้าด้วย Google talk หรือจะแชทหากันใน Line โทรข้ามประเทศกับ skype หรือแต่งภาพสวยๆ แล้วแชร์บน IG อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บข้อมูลไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ Box ได้ฟรีถึง 50GB เฉพาะลูกค้า Sony เท่านั้น วางจำหน่ายแล้ว ตัวเครื่องมี 2 สี คือ สีดำ และ สีขาว.

รองเท้าผ้าใบ

ออสซี่ เร่งค้นหาหนุ่มห้าวเหยื่อจระเข้งับ


เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย เร่งค้นหาร่างหนุ่มห้าว ที่ไม่เชื่อคำเตือน ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำที่มีจระเข้น้ำเค็มอยู่จำนวนมาก จนโดนไอ้เข้ยาว 5 เมตร พุ่งงับดับอนาถ...  เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียอยู่ระหว่างเร่งค้นหาร่างชายวัย 26 ปี ร่วมเที่่ยวฉลองครบรอบวันเกิดของเพื่อนกับอีกหลายคน ที่รีสอร์ตในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าใกล้เมืองดาร์วิน ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ออสเตรเลีย หลังไม่เชื่อคำเตือนของเจ้าหน้าที่ให้ระวังสัตว์ดุร้าย โดยผู้สูญหายกับเพื่อนอีกคนกระโดดลงว่ายน้ำข้ามแม่น้ำแมรี ซึ่งเต็มไปด้วยจระเข้น้ำเค็มตัวใหญ่ดุร้าย อาจเพราะฤทธิ์ความมึนเมาก่อนถูกจระเข้ขนาดลำตัวยาว 5 เมตร พุ่งงับลากร่างจมน้ำหายไปต่อหน้าเพื่อน ๆ  เจ้าหน้าที่ตามยิงสังหารจระเข้ใหญ่ที่สุดได้ 1 ตัว แต่ยังไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์.

รองเท้าผ้าใบ

'โคทม'เสนอตั้งคณะมนตรีเพื่อการปฏิรูปฯ


เริ่มถกเวทีปฏิรูป “บรรหาร” ขอให้ละตัวตน ตัดกิเลส “โคทม” เสนอตั้งคณะมนตรีเพื่อการปฏิรูป “วุฒิสาร” ชี้ ต้องเริ่มที่การไว้วางใจ “ธิดา” แบบไต๋ หนีไม่พ้นแก้ รธน. ...   วันนี้ (25 ส.ค. 56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือ แลกเปลี่ยน และให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอทางออกประเทศไทย หรือเวทีปฏิรูปประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากที่นายกฯ กล่าวเปิดการประชุม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า เรื่องการหาทางออกเป็นเรื่องที่ทุกคนควรหันหน้าเข้าหากัน เพราะไม่มีเวลาทะเลาะกันอีกแล้ว ตนได้แค่พูด แต่ยังมีการทะเลาะกันอยู่ แม้ในรัฐสภา ก็มีอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เห็นแล้วไม่สบายใจ อาจจะเกิดเพราะไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจ ซึ่งต้องมาพูดคุยหาทางออก   นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ มีทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ คนที่จะเข้ามาแก้ปัญหา จะต้องเป็นกลาง ไม่เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าจะทำให้บ้านเมืองสงบได้ ต้องเอาตัวตนออกจากร่างตัวเองคือ เอากิเลสออก จะทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ทำได้แน่นอน ตนขอฟังความคิดเห็นก่อนความคิดเห็นวันนี้คงมีหลายทาง โดยสรุปแล้วความคิดเห็นโดยรวมเป็นอย่างไรให้นายกฯ เป็นผู้สรุป   นายโคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ก่อนการปฏิรูปการเมือง เราคงต้องมีกรอบความคิดเชิงเป้าหมายเรามีทั้งสิ่งที่คุกคามที่เป็นประโยชน์คือ การเปิดประเทศสู่โลกาภิวัฒน์และการเปิดประเทศสู่อาเซียน เป้าหมายควรสร้างสัญญาประชาคมใหม่ ระหว่างรัฐ ทุน และประชาชน ในทุกด้าน ถ้ามีเป้าหมายชัดเจน การทำงานจะต้องมีทุกฝ่ายมาร่วม ขอเสนอ 3 ขั้นตอน คือ มีแนวเรื่องที่จะพูดคุย เอาแนวเรื่องนี้ไปพูดคุยกัน อาจจะพูดคุยกันหลายรอบ ให้ได้ข้อสรุปกระบวนการควรมีความเป็นอิสระเป็นกลาง สามารถระดมความคิดที่กว้างขวางคณะกรรมการที่ทำหน้าที่อำนวยการ อาจจะเป็นคณะมนตรีเพื่อการปฏิรูปการเมือง ทำหน้าที่กำหนดแนวร่วมแนวทางการศึกษา แล้วเอาแนวเรื่องนั้นไปคุย เพื่อให้ได้ข้อสรุปแล้วเอามาประเมินผลและสรุป และควรมีอาสาสมัครปฏิรูปการเมือง เพื่อลงไปในพื้นที่ระดับตำบล อำเภอ เพื่อให้ได้ผล ควรมีการศึกษาอย่างดีระหว่างกระบวนการกับสังคม รวมถึงอาศัยสื่อมวลชนและสื่อต่างๆ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นมาสู่กระบวนการปฏิรูปการเมือง   นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศมีความหลากหลาย กว้างขวางกว่าการปฏิรูปการเมือง เพราะต้องครอบคลุมปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ที่ต้องศึกษาเป็นการสร้างอนาคตร่วมของประเทศในระยะยาว การแก้ไขปัญหาของประเทศคือ การมีอนาคตร่วมกัน โดยสร้างความเป็นธรรมและสร้างสุขภาวะในทุกมิติลดช่องว่างระหว่างสังคมให้น้อยลง เป้าการปฏิรูปประเทศต้องมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนการปฏิรูปการเมือง คือ การสร้างการเมืองที่มีความหลากหลาย ลดความเป็นสถาบัน สร้างวิถีที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ความปรองดองจะเป็นผลลัพธ์หากเราทำเรื่องปฏิรูปประเทศและปฏิรูปการเมืองได้ เงื่อนไขความสำเร็จต้องสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ถ้าทุกคนเห็นตรงกันจะทำได้ โดยต้องยุติเงื่อนไขของความไม่ไว้ใจ ถ้าเรามีสัญญาประชาคมที่เป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายได้ เอกภาพจะเกิดขึ้น จุดเริ่มต้นต้องมีเวทีที่สร้างความไว้วางใจให้มาพูดคุยกันการปฏิรูปจึงต้องเกิดขึ้นได้โดยการพูดคุยต้องมีข้อเสนอเป็นระยะๆ ให้สังคมเห็นว่าการปฏิรูปมีผลเกิดขึ้น   พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานโดยขับเคลื่อนด้านต่างๆ คือ ทางการเมืองเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ความมั่นคง และเทคโนโลยี ปัญหาของบ้านเราเวลานี้คือ ปัญหาการเมืองคงต้องคิดว่าประชาธิปไตยแบบไทยๆ จะเป็นอย่างไร จะไปเอาจากต่างประเทศมาคงไม่ได้ อะไรยังไม่เป็นประชาธิปไตยต้องแก้ไขอย่างจริงจัง และเมื่อได้ผลสรุปแล้ว หวังว่านายกฯ จะหยิบผลสรุปของการปฏิรูปที่มาทำให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เดินไปไม่ได้คือ ปัญหาสังคมมันเป็นเพราะลักษณะนิสัยของคนไทย ทำไมเราต้องเกลียดกันหนักหนา จะให้อภัยกันไม่ได้หรือ เราจะให้อภัย หรือปรองดองกันได้หรือไม่อยู่ที่สังคม ถ้าเรารักชาติมาเป็นอันดับหนึ่ง เราต้องให้อภัยกันได้ เรื่องทั้งหมดเป็นความท้าทาย ถ้าทำได้เป็นวีรบุรุษ   ขณะที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า เป้าหมายของ นปช. ชัดเจนว่าจะยุติการเคลื่อนไหว ต่อเมื่อยุติการรัฐประหารทุกรูปแบบ แม้รัฐบาลนี้จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ความขัดแย้งในประเทศไทยร้าวลึก อยากให้เวทีนี้ได้ผลมีการปฏิรูปการเมืองที่แท้จริง ตนต้องการให้การปฏิรูปการเมืองครั้งนี้ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมและได้รับรู้ทั่วประเทศให้เป็นวาระของประชาชนทั้งประเทศเป็นเวทีของประเทศไทย ทั้งนี้ การปฏิรูปการเมือง คงหนีไม่พ้นเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นกติกาสูงสุดทางการเมือง รวมถึงกฎหมายและกลไกความยุติธรรม โดยการยุติความขัดแย้งต้องออกจากวาทกรรมทั้งระบอบทักษิณและทุกเรื่อง ส่วนกลุ่มคนเป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนชั้นนำ ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมกับคนส่วนใหญ่ถ้าความแตกต่างเดินไปด้วยกันได้.


รองเท้าผ้าใบ

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น่าจะมีอึ้ง!!! 'ตู่ นันทิดา' พร้อมพูดถึง 'เจนี่-เอ๋' แล้ว ตอนเวลา 17.00น



รอเวลาไตร่ตรองว่าจะพูดแบบไหนมาพักหนึ่ง ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย พร้อมแล้วที่จะพูดถึงเรื่องราวข่าวฮอตเว่อร์ที่ช็อกวงการกับกรณีการเลิกรากับ เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ก่อนที่ เอ๋จะไปแต่งงานใหม่กับเจนี่  หลังจากไปเที่ยวนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตู่-นันทิดา กลับถึงไทยได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์เป็นที่แรกว่า ขอพักก่อนๆ ยังไม่ได้พูดกับคนในครอบครัว ขอเวลาอีกหน่อยจะออกมาพูดครั้งเดียวพร้อมๆ กัน  ล่าสุด วันนี้ 24 ส.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ตู่พร้อมแล้วพร้อมเคลียร์! จะออกมาพูดถึงเจนี่-เอ๋ ในรูปแบบไหน เชื่อแน่ว่าแถลงข่าวครั้งนี้ต้องมีอึ้ง! ตะลึง! กันอีกรอบแน่ๆ.


รองเท้าผ้าใบ

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ยูเอ็นเผย 'เด็กซีเรีย' กว่าล้านคนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย



เลขาธิการสหประชาชาติ เผยข้อมูลระบุว่า ความขัดแย้งในซีเรียส่งผลให้ ปัจจุบันมีเด็กชาวซีเรีย กว่าล้านคนที่ต้องลี้ภัยออกจากซีเรีย โดย ในอนาคตอาจเพิ่มจำนวนเป็น 2 ล้านคน อีกทั้งยังต้องเสียอนาคตด้านการศึกษา เพราะมีเด็กที่ลี้ภัยเพียง 118,000 รายเท่านั้นที่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ...  สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างข้อมูลของเลขาธิการสหประชาชาติ นาย บัน คีมุน ที่เผยว่า ความขัดแย้งในซีเรียที่กินเวลามาเนิ่นนาน ส่งผลให้มีผู้ที่ถูกฆ่าเสียชีวิตมากกว่า 100,000 ราย โดยทางยูเอ็นไม่รอช้าที่จะสืบสวนเรื่องการใช้อาวุธเคมีที่เพิ่งโจมตีกรุงดามัสกัส โดยส่งทีมเพื่อเข้าไปสืบในพื้นที่โดยเฉพาะ โดยปัจจุบันมีเด็กชาวซีเรีย กว่าล้านคนที่ต้องลี้ภัยออกจากซีเรีย และในอนาคตอาจเพิ่มจำนวนเป็น 2 ล้านคน   เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวอีกว่า เด็กครึ่งนึงที่ลี้ภัย ได้หนีออกจากซีเรียเป็นที่เรียบร้อย ส่วนใหญ่ข้ามไป เลบานอน จอร์แดน ตุรกี อิรัก อียิปต์รวมถึงแอฟริกาตอนเหนือ และ ยุโรป โดย 3 ใน 4 ของเด็กที่ลี้ภัยอายุต่ำกว่า 11 ปี ซึ่งสหประชาชาติมองว่า เยาวชนจากซีเรียนอกจากจะสูญเสียบ้าน สูญเสียสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังสูญเสียโอกาสทางอนาคตอีกด้วย เมื่อพบว่ามีเด็กที่ลี้ภัยเพียง 118,000 รายเท่านั้นที่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ ซึ่งบางส่วนยังต้องได้รับคำปรึกษาทางด้านจิตใจด้วย  บัน คีมุน กล่าวด้วยว่า ความขัดแย้งในซีเรียได้ก่อให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยที่เลวร้ายที่สุดในโลกในรอบ 20 ปี ตัวเลขสูงกว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุใน ประเทศรวันดาเมื่อปี 1994 ด้วยซ้ำ  ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวซีเรียกว่า 40,000 คน ได้มารวมตัวกันที่ชายแดนของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานแห่งอิรัก เพื่อรวมตัวคลื่นลูกใหม่ ที่ลี้ภัยออกจากซีเรียเหมือนกัน.


รองเท้าผ้าใบ

รวมข่าววันที่ 23 - 8 - 56



กลุ่มม็อบประท้วงขึ้นราคาแอลพีจี ชุมนุมปิดถนนหน้า ปตท. สำนักงานใหญ่ ทำการจราจรอัมพาต ด้าน รมว.พลังงาน ยัน ขึ้นราคาตามกำหนดเดิม 1 ก.ย.นี้ ย้ำ แกนนำชุมนุมคัดค้าน เคยชี้แจงในสภาฯ แล้ว แต่ไม่ฟัง ...  การเมือง   11.31 น. ประธานวิปค้าน เชื่ออภิปรายงบ 57 จบวันนี้ หากรัฐบาลไม่ประท้วงเสียเวลา ชี้ไม่มีเหตุยื้อการประชุม จ่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ แก้ รธน. ที่มา ส.ว.  12.14 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ประชุม ศปก.กปต. พิจารณาข้อเสนอ 5 ข้อ "บีอาร์เอ็น" ด้าน กวป.ยื่นหนังสือถึง ผบ.ทบ. ขออย่าแสดงความคิดเห็นทางการเมือง.  12.27 น. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผย หารือกับเลขาฯก.พ.แล้วการันตี "ภาณุ อุทัยรัตน์" รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ซี 11 แน่ กลางเดือนนี้  12.44 น. "วิสุทธิ์-สามารถ" ท้า "บุญยอด" เอาเรื่องเข้าสอบในกมธ.สภาฯ ลั่น หากไม่ผิดกล้าลาออก หรือไม่ ปัด ไม่ได้กดดันให้ลงจอดดอนเมือง เหตุเจอพายุ และน้ำมันหมด กัปตันลงจอดเติมน้ำมันเอง  13.22 น. "เจริญ" รองประธานสภาฯ เชิญ "เฉลิม" ออกนอกห้องประชุม หลังปะทะคารม สุเทพ-อภิสิทธิ์ กรณีไม่เคยสั่ง "ดีเอสไอ" กลั่นแกล้ง ดำเนินคดี ปชป. และคดี 98 ศพที่มีการระบุว่า ดีเอสไอ-อัยการ สั่งฟ้อง    14.17 น. "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอบคุณกองทัพเรือ ทำงานร่วมกับรัฐบาลในการดูแลประชาชน พร้อมสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ตามความสำคัญ  14.57 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ทวงถามความคืบหน้าคดีทุจริตสร้างแฟลตตำรวจ และคดีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับการเมืองอื่นๆ  15.08 น. นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท้า “หมอวรงค์” โชว์หลักฐาน มะกันตีกลับข้าวไทย อัดทำเสียภาพลักษณ์ประเทศ  15.28 น. นายกฯ ระบุ รัฐเตรียมแผนรับมือปัญหาเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เน้นการใช้จ่ายเงินของภาครัฐและเอกชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ชี้ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ถดถอย แค่เจริญเติบโตไม่เป็นไปตามคาด  16.09 น. "ปลาคาร์พ" ในรัฐสภาฯป่วยหนัก ยกฝูง กว่า 700-800 ตัว เจ้าหน้าที่เผย เป็นโรคจากการติดเชื้อปรสิต เนื่องจากน้ำในบ่อมีความสกปรก จึงได้ให้ยาดิพเทอเร็กซ์ลงในบ่อ เพื่อรักษา ขณะที่ผู้พบเห็นวิจารณ์แซดเครียดจัดจากการประชุมสภาฯ  16.51 น. สภาฯ ผ่านฉลุย งบ 4 กระทรวง ด้าน“กัลยา”แนะ“ปู”เป็นพรีเซนเตอร์ผ้านาโน ขณะ ส.ส.ปชป. รุมถล่ม "ดีเอสไอ" หนุนอภิปรายฯ ตัดงบฯ กรมสอบสวนคดีพิเศษ 20%  17.12 น. กลุ่มม็อบประท้วงขึ้นราคาแอลพีจี ชุมนุมปิดถนนหน้า ปตท. สำนักงานใหญ่ ทำการจราจรอัมพาต ด้าน รมว.พลังงาน ยัน ขึ้นราคาตามกำหนดเดิม 1 ก.ย.นี้ ย้ำ แกนนำชุมนุมคัดค้าน เคยชี้แจงในสภาฯ แล้ว แต่ไม่ฟัง  17.45 น. "ผบ.ทบ." เผย ที่ประชุม ศปก.กปต. ยังไม่รับ 5 ข้อเสนอบีอาร์เอ็น โยน "เลขาธิการ สมช." ถกต่อบนโต๊ะเจรจา ย้ำทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายไทย  เศรษฐกิจ  08.16 น. ผบ.ตร.ขึงขังเชิญผู้บริหารธนาคาร และบริษัทขนเงินร่วมหามาตรการป้องกันคนร้ายชิง-ปล้นเงิน พร้อมขอห้างเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกทางหนึ่ง  10.15 น. ทองคำเปิดตลาดราคาคงที่ ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 20,700 บาท รูปพรรณรับซื้อ 20,405.36 บาท ในขณะที่เงินบาทเปิดตลาด 32.02/06 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยแต่แนวโน้มยังอ่อนค่า  12.54 น. หุ้นเช้ารีบาวด์ปรับขึ้น 0.95 จุด ปิดที่ 1,352.76 จุด ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป จีน ออกมาดี ห่วงแรงเทขายต่างชาติกดดันตลาดเคลื่อนไหวแดนลบ  13.46 น. ปตท.แจ้งพนักงานเลิกงานและกลับบ้านได้ในเวลา 12.00 น. วันนี้  พร้อมเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รับมือม็อบค้านขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน ในขณะที่ "ไพรินทร์ ชูโชติถาวร" แถลงข่าวด่วนในช่วงเช้า  14.25 น. สาวโรงงานในเครือสหฟาร์มสะอื้นโดนเบี้ยวค่าแรงซ้ำซาก นัดจ่ายรายวัน วันละ 300 ยังชวด ครวญนานวันหนี้สินยิ่งพอกพูน หนำซ้ำค่าครองชีพพุ่ง ร้องภาครัฐยื่นมือช่วยเหลือจริงจัง  14.46 น. มติ กกพ.เห็นชอบขึ้นค่าเอฟที งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.56 อีก 7.08 สตางค์ต่อหน่วย กระทบค่าไฟแตะ 54 สตางค์ต่อหน่วย อ้างอัตราแลกเปลี่ยนทำต้นทุนพุ่ง  15.28 น. นายกรัฐมนตรี ระบุ รัฐบาลเตรียมแผนรับมือปัญหาเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เน้นการใช้จ่ายเงินของภาครัฐและเอกชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ชี้ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ถดถอย แค่เจริญเติบโตไม่เป็นไปตามคาด  17.10 น. หุ้นปิดลดลง 13.68  จุด  ที่  1,338.13 จุด  ผันผวนในกรอบแคบปิดตลาดแดนบวกขานรับตัวเลขเศรษฐกิจโลก แต่ยังคงมีแรงเทขายจากกลุ่มต่างชาติ  เคลื่อนย้ายเงินทุนกลับประเทศ  17.20 น. "เจ้าจำปี" ร่อนแถลงการณ์ ชี้แจงกรณีกัปตันเที่ยวบิน ทีจี 141 ถูกนักการเมืองกดดันให้เปิดประตู เพื่อนำเครื่องลงจอดพักรอสภาพอากาศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดีขึ้น ยันไม่ได้นำตำแหน่งหน้าที่ของผู้โดยสารมาพิจารณาให้สิทธิพิเศษ และไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง  17.35 น. “พาณิชย์” จี้ “หมอวรงค์” ส่งข้อมูลมะกันตีกลับข้าวไทยมาให้ตรวจสอบด้วย ถามกลับแค่สังเกตการณ์รู้ได้ไงว่าข้าวปนเปื้อน พร้อมขอข้อมูลมะกันตรวจสอบอีกทาง วอนสื่อมวลชนร่วมประณามคนทำลายชื่อเสียงข้าวไทย-ประเทศไทย  บันเทิง  09.00 น. หลุยส์ สก๊อต ปัดจ๊ะ-จิตตาภา แอบปลื้มมากอยากเป็นแฟน เชื่อข่าวไม่ทำให้จ๊ะและนุ่น-รมิดา ผิดใจกัน งงข่าวทั้งคู่เคลียร์กันแล้ว แจงนุ่นมาที่กองถ่ายเพราะตนชวนเองไม่ใช่อีกฝ่ายตามเฝ้า ยันไม่ได้เจ้าชู้ตั้งแต่แรก เผยอีก 4 ปีเล็งแต่งนุ่น  09.06 น. หลังจากที่นางเอกสาว เบลล่า-ราณี แคมเปน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนได้รับบาดเจ็บแขนหัก หลายคนก็เป็นห่วง เพื่อนในวงการก็มีแวะเวียนกันไปเยี่ยมถึงโรงพยาบาล แต่มีคนหนึ่งที่ถูกหลายคนจับตามองว่า จะมีการแอบไปเยี่ยมสาวเบลล่ารึเปล่า ก็คือพระเอกวิกหมอชิต เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ นั่นเอง  11.00 น. เดี่ยว-สุริยนต์ แจงปลื้มมิว-นิษฐา ที่ผลงาน ขอบคุณคุณแม่ของฝ่ายหญิงที่ปลื้มตน เชื่อคนรู้ใจฝ่ายหญิงไม่เข้าใจผิดเพราะตนกับฝ่ายหญิงแค่พี่น้อง เผยคุยยีนส์ สาวนอกวงการ รับไปไหนด้วยกันบ้าง ย้ำสัมพันธ์ยังแค่พี่น้อง  16.28 น. ถึงจะยืนยันมาตลอดว่าชอบผู้หญิง แต่ยังไงก็ยังไม่พ้นมีข่าวกับเพศที่สามอยู่ดี สำหรับพระเอกฉายาโรบอท สน-ยุกต์ ก็ยังสลัดข่าวเม้าท์กับเพศที่สามไม่ได้สักที ล่าสุดก็ถูกเม้าท์กันให้แซดว่า พระเอกคนดังเรียกกะเทยช่างแต่งหน้า ไปบ๊วบให้ในห้องแต่งตัว โอ้ววว งานนี้เม้าท์แรงกันซะจริง ๆ  17.00 น. ไม่ใช่เพิ่งมาโดนตั้งข้อสังเกตว่าพระเอกหน้าฉ่ำแอ๊บแต๋วหรือ เปล่า เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข โดนกล่าวว่าเป็นว่าตุ๊ดตั้งแต่เยาว์วัยแล้ว โดยคุณแม่ต่าย โชติกา ตั้งศรีสุข เปิดเผยอย่างอารมณ์ระรื่นกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์อย่างไม่ซีเรียสอะไรเลยที่ ลูกชายตัวเองโดนใคร ๆ ว่าเป็นตุ๊ดแต๋ว  ไลฟ์สไตล์  11.00 น. สัปดาห์นี้บุ๊กออนไลน์ไทยรัฐออนไลน์มาอัพเตตหนังสือใหม่ โดยมีสไตล์การเอาคำเด่นของหนังสือแต่ละเล่มมาพาดหัว ลองอ่านดูครับรับประกันไม่ตกเทรนด์  12.00 น. “อินสไพร์ฯ” เปิดเวทีแห่งความสำเร็จ สานฝันสาวใสวัยทีนสู่ดวงดาว“มิสทีน ไทยแลนด์ 2013 บาย แม็กซิม คอนแทคเลนส์”ขานรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม  14.00 น. ตอนที่สองกับการทดสอบยนตรกรรม SUV เชื้อเพลิงทางเลือก E85 ใน Chevrolet Captiva 2.4L LTZ ตัวลุยสายพันธุ์อึดแนวอเมริกัน  16.00 น. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “จากยอดดอย สู่ท้องทะเล” จัดแสดง ณ โถงนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ระหว่างวันนี้ถึง 8 กันยายน 2556  17.30 น. เป็นใครก็อิจฉาชาวอยุธยา เพราะบานาน่า ไอที ยกขบวนจัดงานมหกรรมสินค้าไอทีและโมบายยิ่งใหญ่สุด กับงาน Com & Mobile Fair 2013 @ Ayuthaya City Park   วิทยาการ  07.30 น. ไลน์ แถลงถึงยอดผู้ใช้งาน LINE ทั่วโลกที่ทะลุ 230 ล้านคน ตั้งเป้าให้ทะลุ 300 ล้านคน ให้ได้ภายในปี2013 โดยจะเพิ่มบริการ คอนเทนท์ใหม่ๆที่น่าสนใจ พร้อมทั้งแนะนำฟังกชั่นใหม่ คือ วิดีโอคอลล์ ขณะที่ในญี่ปุ่นไลน์จะมีบริการใหม่ เช่น LINE MUSIC, LINE MALL และLINE Web Store  15.00 น. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ทีโอที กสท อสมท ชูปัญหา 3จี - ทีวีดิจิตอล ล่ารายชื่อกว่า 500 คน เตรียมยื่นถอดถอน 11 กสทช. ระบุเอื้อกลุ่มทุนเอกชน-เสียผลประโยชน์  15.30 น. ไอ-โมบาย รุกตลาดสมาร์ทโฟนส่งโมเดลพรีเมี่ยมใหม่ 'ไอคิว เอ็กซ์ 2'  มากับจอ 5 นิ้ว Full HD ในราคาไม่ถึงหมื่น ตอกย้ำความสำเร็จของจุดขาย ชูแบรนด์ไทยคุณภาพอินเตอร์ คาดปีนี้ตระกูล ไอคิว จะได้กว่า 4 ล้านเครื่องทำรายได้-กำไรตรงเป้า  16.30 น. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ทีโอที เรียกร้องฝ่ายบริหารช่วยเหลือและสนับสนุน กรณีถอด 11 กสทช. หลังจากที่ผ่านไม่เคยสนใจ ชี้ทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ  การศึกษา  08.00 น. พบวิธีตรวจ รู้ผู้ที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตายได้แล้ว ง่ายๆ เพียงแค่การตรวจเลือดดูเท่านั้น  10.00 น. คนหนุ่มสาวที่ปล่อยให้ นี้สินท่วมหัว ท่วมหู  จะทำให้ความดันโลหิตขึ้นสูง  ซ้ำสุขภาพ างกายและจิตใจทั่วไปก็จะทรุดโทรมอีกด้วย  12.00 น. ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ประกาศแจ้งว่า  ได้พบดาวเคราะห์ ประกอบด้วย ธารหินละลาย อุณหภูมิสูงถึง 2,760  องศาเซลเซียส โคจรรอบดาวฤกษ์แม่ครบรอบ ในเวลาแค่ 8 ชม.ครึ่ง    ทั่วไทย  06.57 น. กรมอุตุฯ เผยทั่วไทย ยังคงมีฝน ภาคเหนือ อีสาน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนร้อยละ 80 ภาคกลาง ตะวันออก ร้อยละ 70 ขณะที่ภาคใต้ร้อยละ 30  08.16 น. ผบ.ตร.ขึงขังเชิญผู้บริหารธนาคาร และบริษัทขนเงินร่วมหามาตรการป้องกันคนร้ายชิง-ปล้นเงิน พร้อมขอห้างเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกทางหนึ่ง  09.51 น. รปภ.ศาลเยาวชนอ่างทอง ดวงซวย ระหว่างจอด จยย.ติดไฟแดง ถูกคมกระสุนปริศนาพุ่งเข้าอกซ้ายบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ตำรวจสกัดยาเสพติด กัดฟันขี่รถไปหาหมอ รพ. ด้าน รอง ผบก.ภ.จ.อ่างทอง รุดเยี่ยม พร้อมช่วยเหลือค่ารักษา  10.26 น. จังหวัดตาก เฝ้าระวัง 5 อำเภอ หลังฝนตกต่อเนื่องทำให้แม่น้ำเมยขึ้นสูง เหลืออีกเพียง 1 เมตร ก็จะล้นตลิ่ง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม เทศบาลนครแม่สอด ล่าสุด เริ่มคลี่คลาย  10.48 น. ตรังวุ่น! อุทยานฯ บุกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหน้าชายหาดปากเมง เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง จ.ตรัง ขณะที่จำเลยผู้บุกรุก โร่แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ฯ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์.  10.54 น. คนไทยในอียิปต์ คณะที่ 4 จำนวน 332 คน เดินทางถึงไทยแล้ว ด้วยเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำ โดยมีญาติมารอต้อนรับอย่างอบอุ่น  13.19 น. นครบาลได้หมายจับ 4 ตร.นอกแถวอุ้มวิศวกรและสถาปนิกต่างชาติรีดเงินค่าไถ่แล้ว ล่าสุดรวบได้ 2 เหลืออีก 2 เร่งล่า พร้อมมีคำสั่งให้ออกราชการทั้งหมด  13.40 น. ผบช.ภ.4 แถลงข่าวจับกุมนายธนภัทร์ ทิพยทัศน์ อายุ 37 ปี อดีตพนักงานขับรถขนเงินบริษัทแซมโก้ ขู่วางระเบิดชิงเงิน 9 หมื่น ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส จ.ร้อยเอ็ด อ้างตกงาน ไม่มีเงินใช้จ่าย ขอพ่อแม่ไม่ให้แถมถูกด่าไม่เอาถ่าน  14.10 น. คนใช้รถถนนสุขุมวิทขาเข้า ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ แตกตื่น เหตุ โชเฟอร์แท็กซี่ถือเหล็กแกว่งไปมากลางถนน รถขับผ่านหักหลบกันวุ่น  15.35 น. หลายเครือข่ายร่วมผนึกกำลัง ร่วมม็อบ ต้านขึ้นราคา LPG ทยอยเดินทางไปสำนักงาน ปตท. แล้ว ด้านแกนนำผู้ชุมนุม เร่งจัดระเบียบไม่มีการกีดขวางจราจร ล่าสุด ถนนวิภาวดีขาออกตั้งแต่หน้า ปตท.สำนักงานใหญ่ การจราจรติดขัดมากใช้ได้เพียง 1 ช่องทาง ท้ายแถวยาวเกือบแยกสุทธิสาร    16.40 น. เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟที่ 102 ซึ่งเป็นขบวนรถฟรีได้เกิดอุบัติเหตุล้อตกราง 1 ล้อ ระหว่างสถานี ขุนตาล-สถานีแม่ตาลน้อย เขตบ้านปางปงปางทราย ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ใช้เวลากู้หัวรถจักร 2 ชม.ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดการเดินรถตามปกติ  17.15 น. สาวน้ำเกลี้ยง วอน "สมีคำ" รับความจริง ระบุทุกอย่างกระจ่างแล้ว หลังผลดีเอ็นเอลูกชายออก มั่นใจชนะคดี เรียกร้องค่าเลี้ยงดู 40 ล้าน   ต่างประเทศ  16.15 น. ตร.อินเดียแจงความคืบหน้าการตามล่าตัวคนร้าย 5 ราย หลังเกิดเหตุช่างภาพหญิงของนิตยสารฉบับหนึ่งในอินเดียถูกรุมโทรม โดยตำรวจนครมุมไบสอบปากคำผู้ต้องสงสัยราว 20 ราย แต่ยังไม่มีหลักฐานมัดตัวผู้ก่อเหตุ  กีฬา  07.00 น. เรอัล มาดริด โชว์ฟอร์มโหด ถลุงอัล ซาดด์ จาการ์ตา 5-0 "ราอูล กอนซาเลซ" ช่วยซัดหนึ่งลูก เกมนัดพิเศษ เยือนถิ่นเก่า ในศึกซานติอาโก เบร์นาเบว โทรฟี เมื่อคืนที่ผ่านมา  09.50 น. “คฑาวุฒิ หมีนิ่ม” คว้าเหรียญ ทองเพิ่มให้กับทีมกรีฑาไทยประเภทเขย่งก้าวกระโดด การแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่จีน เจ้าตัวพอใจมากที่คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ เผยก่อนมาไม่ได้ตั้งความหวังเพราะเป็นเกมนานาชาติครั้งแรก ตั้งเป้าคว้าโควตาเข้าร่วมยูธโอลิมปิกเกมส์ปีหน้า ด้าน “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ประเมินภาพรวมผลงานนักกีฬาไทยน่าพอใจ ระบุนักกีฬาไทยยังใหม่ไร้ประสบการณ์ในระดับเอเชียทำให้กดดันและประหม่า มั่นใจคนที่ประสบความสำเร็จรายการนี้จะคว้าโควตายูธโอลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง  09.55 น. มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมด้วย ม.กรุงเทพธนบุรี ร่วมกันจัดการแข่งขัน “ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2013” ในระหว่างวันที่ 19-27 ต.ค.56 นี้ อย่างยิ่งใหญ่ โดยจะใช้ชาญชัย อคาเดียม ภายใน ม.กรุงเทพธนบุรี เป็นสังเวียนฟาดแข้ง มี 10 ชาติร่วมโม่เกือก ซึ่งรอบแรก ทีมฟุตซอลชาติไทย เจ้าของแชมป์ 8 สมัย จับสลากอยู่ร่วมสายเอ กับเวียดนาม รองแชมป์เก่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และบรูไน โดยจะประเดิมเปิดสนามนัดแรก 20 ต.ค. พบแข้งโต๊ะเล็กตากาล็อก ฟิลิปปินส์ โดยทัวร์นาเมนต์นี้จะคัดเอา 4 ทีมไปลุยศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียในปีหน้า  10.15 น. "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด สุดมั่น โอกาสคว้าตัว "แกเรธ เบล" มาเสริมทัพ ถึงขั้นล่าสุด เว็บไซต์สโตร์ออนไลน์ของสโมสรได้เปิดขายเสื้อเบอร์ 11 ของปีกชาวเวลส์แล้วด้วย ก่อนมีการลบออกในภายหลัง ขณะที่หลายสื่อยัน การเจรจาใกล้ได้บทสรุปเต็มที  12.00 น. แอนดี เมอร์เรย์ เจองานหนักในการป้องกันแชมป์ชายเดี่ยว แกรนด์สแลมส่งท้ายปี "ยูเอส โอเพ่น" หลังมีโอกาสต้องไปดวลกับ โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลกชาวเซิร์บในรอบรองชนะเลิศของปีนี้  12.00 น. TMB ร่วมกับ ING Bank เชิญสร้างปรากฏการณ์ “Make THE Difference” กับ กิจกรรมเดิน-วิ่งมินิมาราธอนการกุศลโปรแกรมใหญ่แห่งปี “TMB|ING ParkRun 2013” ในวันที่ 15 กันยายนศกนี้  12.30 น. "เกเรธ เซาธ์เกต" อดีตปราการหลัง "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลลา​ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม "สิงโตน้อย" ทีมชาติอังกฤษ​ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นที่เรียบร้อย ด้วยสัญญา 3 ปี  13.00 น. "ฮวน มานูเอล มาร์เกวซ" ออกมาดับความหวังของ "แมนนี ปาเกียว" นักชกคู่ปรับ ยืนยันจะไม่มีการรีไฟต์อีกเป็นครั้งที่ 5 หลังฝากรอยแค้นด้วยการต่อยเจ้าของฉายา "แพ็คแมน" จนสลบเหมือดหน้าคว่ำคาเวทีในการพบกันครั้งที่แล้ว  13.30 น. "เควิน สตัดเลอร์" โปรชาวอเมริกัน ขึ้นเป็นผู้นำในวันแรกของศึกกอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ เฟดเอกซ์ คัพ ซีรีส์ รายการ "เดอะบาร์เคลย์ส" ส่วน "ไทเกอร์ วูดส์" ทำ 4 อันเดอร์พาร์ ไม่เสียโบกี อยู่ที่ 7 ร่วม  14.00 น. "เอสซีจี" จับมือสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ จัดศึกแบดมินตันชิงแชมป์ประเทศไทย "เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2013" ระหว่าง 28 ส.ค.-1 ก.ย. 56 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีสตาร์ดัง นำโดย "ซุปเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ ตบเท้าเข้าแข่งขันคับคั่ง  14.45 น. อังเดร วิลลาส-โบอัส นายใหญ่ "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ปฏิเสธที่จะออกความเห็นเรื่องอนาคตของ "เกเรธ เบล" หลังมีรายงานข่าวออกมาอ้างว่า "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ใกล้จะได้ตัวแข้งรายนี้ไปร่วมงาน  15.15 น. ศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013-14 เตรียมเปิดฉากฟาดแข้งนัดที่ 2 กันแล้วในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม ซึ่งมีการหวดกัน 7 คู่ โดยคู่เอกยกให้เกมที่สนามวิลลา พาร์ค ของทัพสิงห์ผยอง แอสตัน วิลลา ที่จะลงเตะนัดที่ 3 กับพลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า 15 นัดหลังสุดในเกมลีก หงส์แดงบุกมาแพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น  15.45 น. โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้า "สิงโตน้ำเงิน" เชลซี ประกาศกร้าวพร้อมสู้ชิงตำแหน่งตัวจริง ไม่ว่าทีมจะได้ เวย์น รูนีย์ หรือ ซามูเอล เอโต มาร่วมงานก็ตาม  16.30 น. "นิโกลาส์ อเนลกา" แจ้งขอแขวนสตั๊ดกับ "สตีฟ คลาร์ก" กุนซือ "เดอะ แบ็กกีส์" เวสต์บรอมวิช เหตุเพราะใจสลาย หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของ "เอริค มานาสเซ" หนึ่งในเอเยนต์ของตัวเอง  16.49 น. นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เอไอเอส กล่าวว่า ขณะนี้เอไอเอสสามารถเปิดให้คอบอลสมัครแพ็กเกจ “AIS Mobile BPL” เพื่อเข้าชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษสดบนมือถือได้ตามปกติแล้ว หลังจากปิดระบบรับสมัครแพ็กเกจดังกล่าวลงชั่วคราว เพื่อปรับปรุงและขยายระบบการถ่ายทอดสดบนมือถือของเอไอเอสอย่างเร่งด่วน   17.15 น. "เจ้าบุญทุ่ม"บาร์เซโลนา ประกาศเซ็นสัญญากับ เดนิส ซัวเรซ ดาวรุ่งชาวสแปนิชของทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมงานด้วยสัญญา 4 ปี โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว

รองเท้าผ้าใบ