นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อ้าง ปมปฏิรูปฯ ปชป.ไร้ปัญหา ฟุ้ง! เน้น ธรรมาภิบาลคู่ขนาน เปิดกว้าง ทำพื้นที่ขยายฐานมวลชน ยัน ไม่มีใครคิดลาออก...
วันที่ 8 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมกรรมการบริหารเกี่ยวกับการปฏิรูปพรรคว่า เป็นการพิจารณาโครงสร้าง ที่เสนอเข้ามา ซึ่งจากนี้ ต้องไปประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อแก้ข้อบังคับพรรค อาจจะเป็นเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค.ซึ่งได้ข้อสรุปชัดเจน คือ 1. การดึงการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง ในการที่จะมาขับเคลื่อนพรรคฯนั้น จึงใช้โครงสร้างของสภาฯที่ปรึกษา ที่จะดึงเอาผู้ทรงคุณวุฒิ เข้ามาบวกกับการขับเคลื่อนในระบบสมัชชา
2. การจัดการในแง่ของพื้นที่ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์การเลือกตั้ง มีระบบเฉพาะ ที่เป็นคณะกรรมการปฏิบัติการในเขตพื้นที่ แยกออกมาต่างหาก จากกรรมการบริหารพรรค แต่ยังมีรองหัวหน้าภาค และรองหัวหน้าพรรคฯ ที่ดูงานตามภารกิจร่วมดูอยู่ ส่วนการปรับตัวสำนักงาน เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการขับเคลื่อนงานทางการเมืองก็ทำต่อกันไป ทั้งด้านการสื่อสาร การวิจัย นโยบาย ยืนยันว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ไม่มีการกดดันใดๆ และไม่มีใครจะลาออก
ทั้งนี้ ยอมรับว่า มีความแตกต่างทางความคิด ถือเป็นปกติธรรมดา ของพรรคการเมือง คงจะมีเสรีชนเยอะ แต่ก็ไม่มีปัญหาในเชิงของเป้าหมาย ในการขับเคลื่อนทางการเมืองที่จะทำต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค คิดจากกรอบโครงสร้างใหม่ และเป้าหมายของพรรคว่า มี 2 ด้าน ของการต่อสู้ทางการเมือง คือ 1.แนวความคิดในเชิงนโยบายความแตกต่าง ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับรัฐบาลนั้น นับวันจะสามารถทำให้ประชาชนเห็นได้ง่ายขึ้นแนวคิดในเรื่องของการบริหารประเทศ และวิธีการบริหารประเทศ เพราะเราเน้นเรื่องธรรมาภิบาล การกระจายอำนาจ การพัฒนาที่ยั่งยืน
ดังนั้น การพูดถึงเรื่องการปฏิรูปต่างๆ นั้น มีความแตกต่างที่ชัดเจนมาก การทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องทำ เพราะก็เป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ซึ่งหลายคนจะมองข้าม ก็ต้องทำอย่างเข้มข้น เข้มแข็งต่อไป ควบคู่ ไปกับการนำเสนอทางเลือกในเชิงนโยบายออกมา
2.ส่วนการต่อสู้อีกด้านหนึ่ง คือ การต่อสู้ขับเคี่ยวในพื้นที่ ซึ่งเป็นความจริงของระบบการเมือง ก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อทำให้เรามีความเข้มแข็งมากขึ้น จึงต้องเดินไปในการต่อสู้คู่ขนาน 2 ด้าน โดยพรรคจะเปิดกว้าง เพื่อให้สมาชิกพรรคและบุคคลภายนอก เข้ามามีส่วนร่วมในการที่จะร่วมกันกำหนดทิศทางของพรรคได้มากขึ้น
รองเท้าผ้าใบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น