โจ๋เจ้าถิ่นเมืองสุพรรณฯ ยิงถล่มโจ๋ต่างถิ่นตาย 4 เจ็บอีก 1 สาเหตุทะเลาะกันเรื่อง "ยืนฉี่ไม่เป็นที่" และเขม่นกันในงานรำวงย้อนยุควัดดัง ตร.เร่งล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี...
เหตุ สยองเมืองสุพรรณครั้งนี้ เกิดขึ้นเวลา 00.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. ร.ต.อ.ทศพล ปอปรีดา พงส.สภ.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บริเวณหลังวัดสามัคคีธรรม (วัดหนองอโศก) หมู่ 1 ต.กระจัน อ.อู่ทอง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรกฤษฏิ์ มาลีสี ผกก. พ.ต.ท.มองศักดิ์ มูลละออง สวป. พ.ต.ท.บัญชา พาหุพันธุ์ สว.สส. หน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งมิตซู บิชิ แชมป์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กง 9112 สุพรรณบุรี จอดอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ใกล้กับกำแพงวัด กระจกรถด้านข้างซ้ายแตกกระจายทั้ง 2 บาน พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.กระจายเกลื่อนถนนรวม 7 ปลอก หัวกระสุน 3 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในรถ พบศพนายสันติ แจ้งบุญ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้า 3 นัด กับนายวัชระ หอมหวลดี อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 3 ต.บางตะเคียน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัด เสียชีวิตอยู่เบาะหลัง
ข้าง กำแพงวัด พบนายเพชรัตน์ เทียนทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 3 ต.บางตะเคียน ถูกยิงเข้าที่ขมับซ้าย นายชนาธิป วิมูลชาติ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 ต.บางตะเคียน ถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีนายพรพงษ์ เขียวสลัว อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 ต.บางตะเคียน มีบาดแผลถูกยิงเฉียดตาขวา ทั้งหมดอาการสาหัส จึงรีบส่งโรงพยาบาลอู่ทอง แต่นายเพชรัตน์ กับนายชนาธิป เสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ที่มาด้วยกัน ให้การว่า กลุ่มของตนเป็นแฟนพันธุ์แท้และเป็นแฟนคลับของ "อ๊อด โฟร์เอส" ต้นตำรับรำวงย้อนยุค มักจะตามไปดูเกือบทุกงาน ก่อนเกิดเหตุกลุ่มของตนได้ตามมาดู "อ๊อด โฟร์เอส" ที่มาแสดงในงานทำบุญอายุวัฒนมงคล 80 ปี ของพระครูสุทธสุวรรณ (วินิตย์ เขมุตตโภ) เจ้าคณะตำบลยุ้งทะลาย ที่วัดสามัคคีธรรม หลังดนตรีเลิกจึงพากันขับรถกลับ และแวะฉี่อยู่ข้างทาง จู่ๆ มีวัยรุ่นอีกกลุ่ม ที่คาดว่าเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่น เดินผ่านมาตะโกนด่าว่า ฉี่ไม่เลือกที่ จึงเกิดโต้เถียงกัน แต่ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรที่รุนแรง เพราะวัยรุ่นกลุ่มนั้นพากันเดินออกจากวัดไป
หลังฉี่เสร็จพวกตนจึงขับ รถออกจากวัด และมาเจอกับวัยรุ่นกลุ่มเดิมอีกครั้ง ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงพากันยืนขวางรถไว้พร้อมเคาะกระจกให้ลงจากรถ นายเพชรัตน์ กับนายชนาธิป และนายพรพงษ์ จึงลงไปและเกิดชกต่อยกันชุลมุน จากนั้นคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ที่รถ ได้ใช้อาวุธปืนจ่อรัวยิงใส่พวกตนทีละคนอย่างเลือดเย็น ส่วนตนสามารถลงจากรถวิ่งหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
พ.ต.อ.สุรกฤษฏิ์ กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นความโหดเหี้ยมสะเทือนขวัญ เพราะผู้ก่อเหตุลงมือกระหน่ำยิงแบบไม่ยั้ง รวมทั้งจากการตรวจสอบสภาพศพในเบื้องต้น เป็นการจ่อยิงในระยะประชิดและจ่อยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะนี้พอรู้ตัวกลุ่มที่ลงมือแล้ว เป็นกลุ่มวัยรุ่นในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ สาเหตุมาจากการเขม่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น