วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

'สุเทพ'ขอเป็นตัวแทนถวายพระพรในหลวง ลั่น6ธ.ค.เปิดศึกอีกรอบ




สุเทพ เทือกสุบรรณ ลอกแบบ 14 ต.ค.ใช้ ม.7 นายกฯ พระราชทาน ยันทำได้ จวกนายกฯ ไม่มีสิทธิ์นำถวายพระพรแล้ว ขณะที่ 5 ธ.ค.กปปส.ชวนคนถวายพระพร...


เมื่อ เวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยว่า ขั้นตอนการต่อสู้ของประชาชนที่รวมกันเป็น กปปส. ครั้งนี้ ต่อสู้ในฐานะผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ รักษากฎเกณฑ์ของประเทศ เพราะฝ่ายระบอบทักษิณเป็นกบฏรัฐธรรมนูญ จึงเป็นหน้าที่ของเราต้องพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โดยเป้าหมายสำคัญคือทวงคืนอำนาจอธิปไตยประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 เนื่องจากรัฐบาลและรัฐสภาที่ประชาชนมอบอำนาจให้กลับบิดเบือนอำนาจโดยไม่ เคารพกฎหมาย จึงมีความชอบธรรมที่จะทวงคืนอำนาจ

ในสถานการณ์ไม่ปกติ เช่นนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 บัญญัติว่าในกรณีที่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ว่าต้องดำเนินการอย่างไรใน สถานการณ์ไม่ปกตินี้ ให้วินิจฉัยตามประเพณีการปกครองบ้านเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เรื่องที่รัฐบาลและรัฐสภาทรยศต่อประชาชน รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ เพราะคาดไม่ถึงจะมีคนเลวคนชั่วทำกับประชาชนขนาดนี้

นายสุเทพ กล่าวต่อว่าเมื่อคนไม่รู้ไม่เข้าใจก็ออกมาคัดค้านว่าจะทำให้ระคายเคืองพระ ยุคลบาท เป็นการขอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทั้งที่ไม่ใช่อย่างนั้น และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่เคยทรงลงมาแทรกแซงการเมือง แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 เป็นตัวอย่างการใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ภายหลังนักศึกษาต่อต้านรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ และหลังจอมพลถนอมลาออก จากนั้นแต่งตั้งจอมพลประภาส จารุเสถียร อดีตนายกฯ แต่ก็ลาออกและเดินทางออกนอกประเทศ จึงไม่มีใครเป็นนายกฯ จากนั้นรองประธานวุฒิสภาขอให้พระองค์ทรงโปรดเกล้านายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างเทียบเคียงได้ว่าวันข้าง หน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรักษาการประเทศไม่มีนายกรัฐมนตรี คนมีหน้าที่ก็สามารถนำความขึ้นกราบบังคมทูลว่าสมควรทรงแต่งตั้งคนนั้นคนนี้ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ และการที่ต้องให้นายกฯ ลาออกและไม่รักษาการ หมดอำนาจก็เป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งยืนยันว่าเราทำตามรัฐธรรมนูญ

ส่วน การจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธ.ค.เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ปีนี้เราต้องจัดเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่ปีปกติธรรมดา ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามปกติจะมีนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ที่เป็นผู้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แต่ปีนี้มีปัญหาที่ประชาชนทั้งประเทศรู้สึกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่สมควรเป็น ผู้กล่าวถวายพระพร ทั้งนี้ผู้ปฏิเสธศาลรัฐธรรมนูญไม่บังควรเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงาน ถวายพระพร ซึ่งสภาทนายความและผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลฎีกา ก็ไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กล่าวถวายพระพร และวันที่ 5 ธ.ค.จึงเป็นวันพิเศษของปวงชนชาวไทยที่จะต้องออกมาพร้อมกันทุกคน เพื่อแสดงให้ชัดเจนว่าประชาชนเจ้าของประเทศแสดงตนว่าขอเป็นผู้กราบบังคมทูล ถวายพระพรโดยตรงต่อพระมหากษัตริย์

จึงขอเชิญชวนให้ออกมาร่วมกันถวาย พระพร ไม่เช่นนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์จะถือเป็นนายกฯ และทำหน้าที่แทนคนไทย ทั้งนี้กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยจะเริ่มพิธีสวดมนต์ จากนั้นเวลา 18.00 น. พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยเตรียมเทียนไขไว้กว่า 1 ล้านเล่ม และวันดังกล่าวจะไม่ด่ารัฐบาล แต่วันที่ 6 ธ.ค. กปปส. จะประกาศเผด็จศึกรัฐบาล.

รองเท้าผ้าใบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น