วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

'ชูวิทย์' อัด 'แม้ว' เหมือนผี ยก'สุเทพ' วีรบุรุษการเมืองข้างถนน




"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย" อัด "ทักษิณ" เหมือนผี ยก "สุเทพ" วีรบุรุษการเมืองข้างถนน
วันที่ 29 พ.ย. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ I'm No.5 ความว่า ผี กับ เทวดา

ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำธุรกิจร่ำรวยมหาศาล เมื่อเขากระโดดสู่ถนนการเมือง ได้รับคะแนนเสียงถล่มทลาย คนไทยให้โอกาสกับเขามากที่สุด จนจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ต่อมาถูกตามเช็กบิลในคดีทุจริตหลายคดี เขากลับเมืองไทยไม่ได้ แต่ยังอยู่เบื้องหลังรัฐบาลของ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ผู้คนบูชาเขา รักเขา เกลียดเขา และกลัวเขา ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน อยู่นานแค่ไหน และจะไปที่ไหนต่อ เขาจึงเป็นเสมือน "ผี"

คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ อยู่ในวงการเมืองมานานกว่า 30 ปี เป็น ส.ส. มาทุกสมัย ผ่านตำแหน่งสำคัญมากมาย เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง เคยเป็นแม้กระทั่งรองนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ เขาลาออกจากการเป็น ส.ส. รวมทั้งตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์

เขามุ่งหน้าสู่ "การเมืองภาคประชาชน" ที่ที่เขาสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ ไม่มีใครสามารถห้ามเขาได้ ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีระเบียบข้อบังคับ ไม่มีกลุ่มก๊วน ไม่มีพรรคการเมือง

ด้วยอายุอานามเกือบ 65 ปี เขาไม่เคยใฝ่ฝันถึงตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ความจริงเขามาถึงจุดสูงสุดทางการเมืองแล้ว

คุณสุเทพย้ำแล้วย้ำเล่าว่า "จะไม่กลับมามีตำแหน่งทางการเมืองอีก ไม่ว่าตำแหน่งใดๆ" อีกทั้งเขายังยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจาต่อรองกับรัฐบาล

ที่สำคัญ แม้ว่าคุณยิ่งลักษณ์ลาออก หรือประกาศยุบสภา ก็ไม่เพียงพอ

เขาต้องการ "ปฏิรูปการเมือง" เลิกใส่ใจการเมืองในระบบรัฐสภาหรือพรรคการเมือง อย่างเช่นพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยสังกัดมาเป็นระยะเวลายาวนาน

คุณสุเทพเป็นอิสระจากพันธะทางการเมือง และข้อผูกมัดทั้งหลาย ไม่มีการโหวต ไม่มีความจำเป็นต้องทำตามกฎข้อบังคับที่แม้แต่จะพูดก็ต้องยกมือ อีกต่อไป

ขณะนี้ คุณสุเทพเป็นที่ยกย่อง เทิดทูน บูชา ชื่นชม ของ "มวลมหาประชาชน" ทุกๆ คนเปรียบเขาดั่ง "วีรบุรุษ"

คุณสุเทพใช้เวลามาเกือบทั้งชีวิตกับการเมือง เพื่อต้องการเห็นความยุติธรรม ปราบปรามคอร์รัปชัน แต่ไม่มีใครเชื่อถือ "อุดมการณ์" ของเขา แต่คุณสุเทพใช้เวลาเพียง 20 วันที่การเมืองข้างถนน นอนกับม็อบ กินข้าวกล่อง พูดกลางเวที เดินกลางแดดเป็นสิบกิโล ด้วยวลี "ล้มระบอบทักษิณ"

เขากลายเป็น "ฮีโร่" ไม่มีใครจะทำได้อย่างคุณสุเทพอีกแล้ว แม้แต่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล หรือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หรือใครต่อใครในอดีต ที่จะทำให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมด้วยใจ อัพอินสตาแกรม เป่านกหวีด โบกธงชาติ ถือเป็น "วันประวัติศาสตร์" ที่มีผู้คนออกมามากมายที่สุด ตั้งแต่ที่ถนนราชดำเนินสร้างขึ้นมา

นี่เป็นความฝันอันสูงสุดของอาชีพนักการเมือง ที่จะมีชื่อจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ขณะที่มีลมหายใจอยู่ เป็นวันที่ "รุ่งเรือง" หรือที่เรียกว่า "Glory Day” คุณสุเทพใช้เวลาเพียง 20 วัน สร้างประวัติศาสตร์นี้ให้กับตัวเอง กลับกัน หากคุณสุเทพยังอยู่ในวงการเมืองจนวันตาย ก็ไม่มีวันที่จะสร้างประวัติศาสตร์แบบนี้ได้

คุณทักษิณคือผู้ที่สร้างเกียรติยศให้กับคุณสุเทพ เพราะเป็นผู้ผลักไสให้คุณสุเทพต้องออกไปต่อสู้นอกระบบรัฐสภา

ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่คุณสุเทพได้เปลี่ยนจาก "นักการเมืองธรรมดา" มาเป็น "เทวดา"

วีรบุรุษที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย


รองเท้าผ้าใบ

ม็อบ 'โซเชียลเน็ตเวิร์ก' เป่านกหวีดหน้าศาลากลางอุดรฯ




ม็อบ 'โซเชียลเน็ตเวิร์ก' รวมตัวเป่านกหวีดหน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ขณะนายขวัญชัย ไพรพนา ปธ.ชมรมคนรักอุดร เตรียมนำคนสมทบสนามราชมังฯ คาดถึง กรุงเทพฯ เย็นพรุ่งนี้...

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 พ.ย. 56 กลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์กอุดรธานี ประกอบด้วย WE FOR UDON และ UD LOVE KING  โดยไม่มีแกนนำ ออกมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ด้านถนนวัฒนานุวงศ์ เพื่อร่วมแถลงแสดงพลังอารยะขัดขืน และต่อต้านรัฐบาล มีการเป่านกหวีด ถือธงชาติ และร้องเพลงปลุกใจ อยู่บนทางเท้า ฝั่งหน้าสำนักงานไปรษณีย์ จ.อุดรธานี โดยมี พ.ต.อ.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย จำนวน 155 นาย และ อส.ดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าศาลากลาง

กลุ่มดังกล่าว จะประกอบไปด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล ครู นักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ และประชาชน ที่เป็นสมาชิกของทั้งสองกลุ่ม โดยนัดแนะกันผ่านเฟซบุ๊กให้มารวมตัวกัน เพื่อแสดงออกที่หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี โดยทั้งหมดได้ถือป้าย "รักที่สุดคือในหลวง หวงที่สุดคือแผ่นดิน" และต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยขณะที่กลุ่มดังกล่าว กำลังเป่านกหวีดอยู่นั้น ได้มีรถบรรทุก 6 ล้อ ติดเครื่องขยายเสียงของชมรม คนรักอุดร ขับผ่านมาทางถนนเบญจางค์ ถึงสามแยกหน้าศาลากลาง ตำรวจจราจรได้โบกให้รถขับผ่านไปทางด้านซ้ายมือ เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเป่านกหวีด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงทยอยเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายขวัญชัย สาราคำ ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ได้ประกาศทางสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร 97.5 เมกะเฮิรตซ์ ระดมคนเสื้อแดงไปช่วยกลุ่ม นปช. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน  โดยคนที่อยู่ต่างอำเภอหรืออยู่ไกล ให้มาปักหลักพักค้างที่สนามทุ่งศรีเมือง เพราะรถคนแรก จะออกในเวลา 05.30 น. และทยอยออกเดินทางตลอดทั้งวัน ของวันที่ 30 พ.ย. 56 .

รองเท้าผ้าใบ

นายกฯ คุย CNN-BBC ย้ำ 'ไม่มีผู้แพ้-ผู้ชนะ'



นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อนอก CNN และ BBC ย้ำ ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ แต่หวังให้ประเทศชาติเป็นผู้ชนะ ขณะการเผชิญหน้า 2 กลุ่มทางการเมือง ที่ศาลากลาง จ.สมุทรปราการ ยังไม่สงบ ล่าสุด จร.เสริมกำลังป้องกันการปะทะอีก...
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 29 พ.ย. 56 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNN และสถานีโทรทัศน์ BBC เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย ภายหลังปรากฏมีกลุ่มผุ้ชุมนุมทางการเมืองออกเดินขบวนตามท้องถนน และไปยังสถานที่ราชการต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร โดยเนื้อหาการให้สัมภาษณ์นั้น นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพียงสั้นๆ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยระบุว่า "นายกรัฐมนตรี เพิ่งให้สัมภาษณ์ CNN ย้ำว่าไม่มีใครแพ้ใครชนะ แต่มีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศเป็นผู้ชนะ"

ทั้งนี้ เนื้อหาทั้งหมดของการสัมภาษณ์นั้น สถานีโทรทัศน์ต่างประเทศทั้งสองแห่ง จะนำเสนอในช่วงค่ำคืนนี้ด้วยกันทั้ง 2 สถานี

ขณะ ที่ สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ช่วงบ่ายวันนี้นั้น ที่ จ.สมุทรปราการ มีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ รวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดฯ โดยมี นายจรูญ ยังประภากร ผู้บริหารฟาร์มจระเข้ และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม จากนั้น นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองร้อยรักษาดินแดน 3 กองร้อย มาขึงลวดหนาม พร้อมกับวางแนวป้องกัน แต่ผู้ชุมนุมได้ฝ่าแนวกั้นต่างๆ จนสามารถปิดล้อมศาลากลางจังหวัดได้สำเร็จในที่สุด

ขณะ ที่ต่อมา มีกลุ่มคนเสื้อแดง จ.สมุทรปราการ ทราบข่าว จึงรวมตัวกันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย กับการปิดล้อมศาลากลางจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ เพื่อไม่ให้คนทั้งสองฝ่าย เกิดการกระทบกระทั่งกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผู้ชุมนุมบางส่วน จึงมีการเผชิญหน้า และเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งเสริมกำลัง เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้ลุกลามไปกว่านี้ โดยยังอยู่ระหว่างการคุมสถานการณ์.

รองเท้าผ้าใบ

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ยิ่งยื้อเวลา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยิ่งจบไม่สวย

 
ในภาวะที่สถานการณ์การเมืองยังครองพื้นที่ใน Social Media ไม่เว้นทั้ง Facebook, Twitter และ Instagram ผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารผ่าน Social Media ต้องใช้วิจารณญาณสูงมากในการกลั่นกรองและแยกแยะอย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้น เราก็อาจต้องตกเป็นเหยื่อของข่าวลือทั้งหลายในที่สุด

แต่คำถามตัว โตๆ สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเทใจให้กับฝ่ายสนับสนุนหรือต่อต้านรัฐบาลน่าจะเป็นคำถามเดียวกันว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ จะมีจุดจบอย่างไร

เพราะ แกนนำผู้ชุมนุมอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า เป้าหมายของการเคลื่อนไหวในคราวนี้ ไม่ใช่แค่ให้นายกรัฐมนตรียุบสภา หรือลาออก แต่ต้องการให้มีการตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทยให้หลุดพ้นจากระบอบ ทักษิณให้จงได้ ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า จะไม่ยุบสภา หรือลาออกแต่อย่างใด

รวม ทั้งล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาแถลงผลการประชุมพรรคล่าสุดว่า พรรคจะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชนนอกสภาที่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพราะถือว่ารัฐบาลนี้ หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปแล้ว

หาก จะประเมินสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้แล้ว อาจจะมองว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ทางตัน เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แล้วทางออกของประเทศไทยจะไปในทิศทางไหน?

ถ้าเราวัดจากจำนวนคนที่ออก มาร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา น่าจะเป็นตัวบอกรัฐบาลได้ว่า ความชอบธรรมในการบริหารประเทศของรัฐบาลยังคงมีอยู่ต่อไปหรือไม่ เพราะไม่มีการชุมนุมครั้งใดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่จะมีผู้มาร่วม ชุมนุมมากขนาดนี้

แต่ อาจจะด้วยความเชื่อแบบเดิมๆ ของฝ่ายรัฐบาลที่มีคิดว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจนได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นเสียง ข้างมาก อีกทั้งยังมีมวลชนคนเสื้อแดงในนามกลุ่ม นปช. คอยค้ำยันรัฐบาลอยู่อีกทางหนึ่งดังนั้น จึงยังคงมีความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไป

ในการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภาที่ใช้อยู่ในประเทศไทยขณะนี้ ใช้ระบบเสียงข้างมากในรัฐบาลเป็นตัวตัดสินว่าจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งการออกกฎหมายต่างๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เสียงข้างมากในสภาจะสามารถออกกฎหมายต่างๆ ออกมาตามอำเภอใจโดยไม่ฟังเสียงทักท้วง

บทเรียนจากการที่เสียงข้าง มากในสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน จากเสียงข้างน้อยและคนในสังคม ทำให้เกิดแรงต่อต้านที่รุนแรง จนกระทั่งฝ่ายรัฐบาลต้องถอยกลับแบบ 360 องศา โดยส่งสัญญาณให้วุฒิสมาชิกลงมติคว่ำร่างกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่ว่าแรก และสัญญาว่าจะไม่นำกลับมาพิจารณายืนยันอีก น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รัฐบาลเริ่มขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ แต่ปัญหาคือ รัฐบาลยังไม่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐบาล แต่กลับโทษว่าคนที่ออกมาคัดค้านเข้าใจข้อมูลคลาดเคลื่อน

ความ ล่าช้าในการการตัดสินใจถอย และการปฏิเสธความรับผิดชอบของรัฐบาลในเรื่องนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกลายมาเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในที่สุด และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมาคำวินิจฉัยในเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ฝ่ายรัฐบาลก็ยังคงไม่ยอมรับคำวินิจฉัย และเริ่มหันไปใช้กระบวนการระดมมวลชนออกมากดดันศาลรัฐธรรมนูญและฝ่ายตรงข้าม รัฐบาล

พฤติกรรมหลายอย่างของนายกรัฐมนตรีและคนในรัฐบาลที่พยายามจะ เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลไม่กระทำการผิดกฎหมายด้วยการเข้าไป ยึดสถานที่ราชการย่อมไม่เป็นผล เพราะคนของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดเคยให้การสนับสนุนให้กลุ่ม นปช.กระทำการที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยอย่างน้อยที่สุด ได้มีการชุมนุมปิดการจราจรบริเวณแยกราชประสงค์ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญใน กทม.เป็นแรมเดือน รวมทั้งนำคนไปกดดันสถานที่ราชการและทำลายทรัพย์สินของทางราชการที่กระทรวง มหาดไทยมาก่อน

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำอยู่ในขณะนี้คือ การประคองสถานการณ์ให้ทอดเวลาออกไป โดยเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะหมดแรงไปเอง โดยไม่ได้ประเมินว่า แม้รัฐบาลจะยังคงบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ ยังมีความไว้วางใจการทำงานของรัฐบาล หรือจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอีกต่อไปหรือไม่

คำ ตอบนี้ รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีน่าจะทราบดี แต่ปัญหาคือ จะรีบยอมรับความจริงและแสดงความกล้าหาญในการแก้ปัญหาวิกฤติศรัทธาในรัฐบาล ด้วยความช้าเร็วแค่ไหน ซึ่งถ้าจะให้เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญตามที่นายกฯ ได้ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ ก็คือ ต้องตัดสินใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีในการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการ เลือกตั้งใหม่ภายในระยะเวลาระหว่าง 45-60 วัน

เพราะหากปล่อยเวลา เนิ่นช้าต่อไป ก็อาจจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจนเกินกว่าที่รัฐบาลจะสามารถควบคุมได้ และสุดท้ายก็ต้องตัดสินใจยุบสภาอยู่ดี ซึ่งเมื่อถือเวลานั้น ปัญหาความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลอาจจะมีผลกระทบต่อพรรครัฐบาลจนถึงขั้นไม่มี โอกาสกลับมาแก้ตัวในฐานะฝ่ายรัฐบาลได้อีก...
รองเท้าผ้าใบ

'สุเทพ' ลั่นเกมจบภายใน 2 วัน จ่อเผยแผนปฏิบัติการคืนพรุ่งนี้

 

ม็อบต่อต้านระบอบทักษิณที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคึกคัก 'สุเทพ' ปราศรัยสดจากเวทีแจ้งวัฒนะ จ่อเผยแผนปฏิบัติการคืนพรุ่งนี้ ลั่นปิดเกมภายใน 1-2 วัน สั่งมวลชนเตรียมตัวให้พร้อม...


เมื่อเวลา 21.00น. วันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณที่บริเวณอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย เต็มไปด้วยความคึกคัก โดยมีมวลชนทยอยเดินทางมาชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน ที่ใช้เวลาหลังเลิกงาน เดินทางมาร่วมชุมนุมตั้งแต่เวลาค่ำ ทำให้พื้นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีมวลชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นั่งกล่าวปราศรัยข้างพระสงฆ์รูปหนึ่ง ซึ่งถ่ายทอดสดมาจากเวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ

โดย นายสุเทพ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ขณะนี้ใกล้ถึงเวลาที่จะปิดเกม ในช่วง 1-2 วันนี้ โดยจะรวมกำลังพลเพื่อต่อสู้ ทำให้มวลชนที่อนุสาวรีย์ต่างตบมือพร้อมเป่านกหวีดเชียร์อย่างต่อเนื่อง

รองเท้าผ้าใบ

'กสม.' ห่วงสถานการณ์การชุมนุมรุนแรง



คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงห่วงสถานการณ์การชุมนุม หวั่นสถานการณ์ 2 ฝ่าย หมิ่นเหม่รุนแรง วอนทุกภาคส่วนคำนึง-ปฏิบัติตาม
วัน ที่ 28 พ.ย. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์เรื่อง ความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุม ความว่า ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์เรื่องข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่อสถานการณ์ทางการเมือง เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 และแถลงการณ์เรื่องความห่วงใยต่อเด็กและเยาวชนที่อยู่ในที่ชุมนุม เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับทราบและติดตามสถานการณ์การชุมนุมมาโดยตลอด มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่มีการยกระดับและเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ ชุมนุมไปส่วนราชการต่างๆ และการที่รัฐบาลมีการประกาศ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ขยายพื้นที่เพิ่มเติมในขณะที่สถานการณ์ยังไม่เกิดเหตุความรุนแรงจากกลุ่มผู้ ชุมนุม ทำให้หวั่นเกรงว่าสถานการณ์จากทั้งสองฝ่ายอาจหมิ่นเหม่ที่จะนำไปสู่ความ รุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหมือนการชุมนุมในอดีตที่ผ่านมา
คณะ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในอันที่จะส่งเสริม การเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อให้เหตุการณ์ บ้านเมืองเกิดความสงบและเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติ  ดังนี้

1. กลุ่มผู้ชุมนุมต้องชุมนุมด้วยความสงบ และปราศจากอาวุธ ปฏิบัติตนภายใต้หลักการสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย อีกทั้งไม่ละเมิดกฎหมายหรือสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น  

2. ประชาชน ทุกภาคส่วน นักวิชาการ และกลุ่มบุคคลต่างๆ ซึ่งมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าจะมีความเชื่อและความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ต้องเคารพในความเชื่อและความคิดเห็นของทุกฝ่าย การให้ข้อคิดเห็นต้องอยู่บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิและเสรีภาพ ไม่ก่อให้เกิดการกระตุ้นที่จะส่งผลให้เกิดความแตกแยกและความรุนแรงในสังคม       

3. รัฐบาล ประชาชนทุกภาคส่วน และกลุ่มบุคคลต่างๆ ต้องเคารพการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน และไม่คุกคามสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกันสื่อต้องนำเสนอข่าวสารข้อมูลด้วยความเป็นกลางไม่โอนเอียงเข้า กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

4. รัฐบาล และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโปรดดูแล ป้องปราม มิให้เกิดสถานการณ์ที่หมิ่นเหม่จะก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุมตามหลักการสากล โดยหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธและความรุนแรง

5. รัฐบาล และกลุ่มผู้ชุมนุมควรมีการเจรจาด้วยสันติวิธี และร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยเหตุและผล     
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการชุมนุมและการ ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมจะเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขของประเทศต่อไป
รองเท้าผ้าใบ

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตะลึง! ผ่าซากช้างล้มแก่งกระจาน พบลูกปืนในกระเพาะ

 


ตะลึง!! ผ่าซากช้างป่าแก่งกระจาน อายุ 7 ปี ที่ล้มไร้รอยแผล พบกระสุน 11 มม. ฝังคากระเพาะ “หน.ชัยวัฒน์” คาดนักเที่ยวป่าคะนองมือ หรือชาวบ้านยิงไล่ ลั่นหากพบยิงเพื่อล่าลุยดำเนินคดีไม่ปล่อย...
จาก กรณีที่ ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านป่าเด็ง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบซากช้างพลาย เพศผู้ อายุประมาณ 7 ปี สูงประมาณ 1.60 เมตร เป็นช้างมีงาเริ่มงอก นอนตายในสภาพตะแคงขวานอนตายอยู่ในป่าโปร่งริมถนนสายป่าเด็ง-ห้วยโสก อ.แก่งกระจาน ห่างจากริมถนนเข้าไปประมาณ 50 เมตร โดยตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือบาดแผล สัตวแพทย์ จึงสมมติฐานสาเหตุการตายไว้ 3 ประเด็น คือ 1 ป่วยเป็นพยาธิเนื่องจากพบเห็นพยาธิในกองมูลที่ช้างถ่ายออกมาอยู่ใกล้ๆ 2.เกิดจากการสะสมของสารเคมีที่ชาวบ้านใช้ในพืชไร่ หรือช้างกินปุ๋ยเคมีโดยตรง หรือ 3.โดนผึ้งหลวง ที่อยู่ใกล้ช้างตายรุมต่อยแต่ยังไม่สามารถสรุปได้
ล่าสุด วันที่ 27 พ.ย. นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชพร้อมคณะ 6 คน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ เดินทางไปที่สุสานช้างที่หุบเต่า ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของช้างป่าปรากฏที่ต้นขาหลังด้าน ขวา พบหัวลูกปืนลูกซอง (ลูกปลาย) ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง 16 เม็ด และเมื่อผ่าซากพิสูจน์พบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 หัววิถีกระสุนผ่านม้ามและปอด ไปติดคาอยู่ในถุงกระเพาะอาหารช้าง เบื้องต้นคาดว่าการอักเสบและติดเชื้อจากกระสุนปืนขนาด 11 มม.ที่ยิงใส่ช้างมานานเนื่องจากบาดแผลที่ผิวหนังสมานตัวปิดหมดแล้ว แต่ยังฝังตัวอยู่ภายในเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิต
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า หัวกระสุนปืนที่พบในซากช้าง มี 2 ขนาด ขนาด 11 มม.ที่พบ แม้ไม่ใช่กระสุนที่ใช้ล่าช้าง แต่ห่วงว่าอาจเป็นกระสุนปืนจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่แล้วคะนองยิง ใส่ช้าง หรือเป็นการตกใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ช้างเพื่อป้องกันตัว โดยไม่คาดคิดว่าจะทำให้ช้างตาย ส่วนที่ 2 หัวกระสุนที่พบเป็นขนาดลูกซองแบบลูกปรายซึ่งคาดว่าจะเป็นปืนชาวบ้านที่ยิง ไล่ในช่วงที่ช้างเข้าทำลายพืชไร่โดยไม่ได้หวังเอาชีวิตเช่นกัน ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับทั้ง นักท่องเที่ยวและชาวบ้านให้มากยิ่งขึ้น และหาทางเยียวยาแก้ไขในระยะยาวไม่ให้เกิดการทำร้ายช้างเกิดอีก
“หากพบ ว่าเป็นการยิงเพื่อล่า เจ้าหน้าที่อุทยานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมาได้จับกุมดำเนินคดี และส่งฟ้องศาลมาแล้วหลายคดี ล่าสุดศาลเพชรบุรีมีคำสั่งพิพากษาผู้กระทำผิด ในคดีล่าสัตว์ป่า จำคุก 5 ปี 6 เดือน และในคดีเดียวกันมีคำสั่งจำคุก ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องหลายคน คนละ 2 ปี นอกจากนี้ ยังมีคดีอื่นที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี จึงขอป้องปรามบุคคลที่มีความคิดล่าสัตว์ป่า หรือกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป่าไม้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดให้เลิกความคิดดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดำเนินการเอาผิดและจับกุมอย่างจริงจังแน่” นายชัยวัฒน์กล่าว

รองเท้าผ้าใบ

นปช.นัด 30 พ.ย. ชุมนุมใหญ่ต้าน การกระทำ'เทือก'


แกนนำ นปช.ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ เต็มความจุ สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ พร้อมเรียกร้องประชาชนอย่าเข้าร่วมชุมนุมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ...

วัน ที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแถลงข่าวประจำวัน ช่วงเวลา 18.00 น. ของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ได้กล่าวถึง ท่าทีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม
ต่อต้านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะ แล้วเห็นว่า การกระทำที่เกิดขึ้น เริ่มเป็นการทำร้ายประเทศ
ดังนั้น ทิศทางการชุมนุมของกลุ่ม นปช. หลังจากนี้ จะไม่ใช่การคัดค้านปฏิเสธคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อย่างที่เป็นมา ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่เปลี่ยนเป็นการคัดค้าน การกระทำของนายสุเทพ กับพวกพร้อมเปลี่ยนคำขวัญจาก “รัฐถูกประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ” เป็น “หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้คนไทยเป็นตัวประกัน”  ซึ่งทางแกนนำ จึงได้นัดหมายชุมนุมใหญ่ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้

ขณะ เดียวกัน ยังเรียกร้องให้กลุ่มต่อต้านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ หยุดคุกคาม หรือทำร้ายสื่อมวลชนพร้อมขอให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ นายสุเทพ เข้าร่วมการชุมนุมในวันเสาร์นี้ด้วย

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ระบุ การชุมนุมใหญ่ดังกล่าว จะถือการนัดขับเคลื่อนการชุมนุม แบบสูงสุดของกลุ่ม นปช. และยังเป็นการสั่งสอน นายสุเทพ ว่ากลุ่ม นปช. ไม่ยินยอมให้นายสุเทพ ทำผิดกฎหมาย 


รองเท้าผ้าใบ

'มาร์ค'ยันไม่รับตำแหน่งหลังปฏิรูปประเทศ


“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” ยันไม่รับตำแหน่งหลังปฏิรูปประเทศ จี้รัฐต้องยอมรับความจริง ลั่น ปชป.มีจุดยืนต่อสู้ตามระบบ
วันที่ 27 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บลูสกายชาแนลว่า สถานการณ์การเมืองพัฒนาเร็วมาก ทำให้ช่องทางที่รัฐบาลจะหาทางออกให้สังคมทางการเมืองแคบลงมาก โดยเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ย. มีข่าวหนาหูเรื่องตำรวจจะดำเนินการที่กระทรวงการคลัง ถ้าทำจริงสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาความรุนแรงและสูญเสียในหมู่ประชาชนจำนวนมาก เพราะในโซเชียลมีเดียมีประชาชนจำนวนมากที่พยายามไปดูว่าจะปกป้องไม่ให้เกิด เหตุการณ์นั้นได้อย่างไร จึงเห็นภาพหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถือเป็นตัวบ่งบอกว่าถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลต้องยอมรับความจริง

ทั้ง นี้ต้องขอบคุณนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ ที่ยึดเรื่องปฏิรูปประเทศเป็นตัวตั้ง และยืนยันว่านายสุเทพและตนจะไม่รับตำแหน่งอะไรแน่นอน ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ นั้นไม่แปลกใจ เพราะทำอย่างนี้มาตลอด ทุกยุคทุกสมัย แต่พรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนชัดเจนต่อสู้ในวิถีทางตามระบบ ตามบทบาทของพรรคการเมือง และนายสุเทพพร้อมเพื่อนอีก 8 คนตัดสินใจลาออกจาก ส.ส. เพื่อเดินตามวิธีการของเขา ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์
รองเท้าผ้าใบ

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เสื้อแดงโผล่คลัง เมา-ไปชุมนุมผิดที่ หวิดเกิดเหตุป่วน


หนุ่มใหญ่เสื้อแดงมีอาการมึนเมาโผล่กลางวงม็อบกระทรวงการคลัง การ์ดต้องกันตัวออกหวิดเกิดเหตุชุลมุน สอบถามได้ความว่า จะไปสนามราชมังฯ แต่มาผิดที่...
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและต้านระบอบทักษิณที่กระทรวงการคลังในช่วงบ่าย ได้มีประชาชนและพนักงานบริษัท นักเรียนอาชีวะต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมอย่างคึกคัก โดยบนเวทีปราศรัย มีการแสดงดนตรี สลับกับการปราศรัยจากตัวแทนผู้ชุมนุมที่มาจากทุกภาค


กระทั่ง เวลาประมาณ 13.10 น. ได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น เนื่องจากการ์ดรักษาความปลอดภัยการชุมนุม ได้นำตัวชาย อายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อยืดสีแดงและเสื้อแจ็กเกตคลุมสีแดง มีอักษรปักหลังเสื้อพรรคไทยรักไทย ได้บุกเข้ามาในที่ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมได้เป่านกหวีด และตะโกนไล่ ซึ่งการ์ดได้เข้าไปคุมตัว เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกทำร้าย นำตัวมาแจ้งแกนนำที่ด้านหลังเวที ขณะที่ชายคนดังกล่าว พยายามยกมือไหว้และอยู่ในอาการมึนเมา การ์ดจึงขอค้นและสอบถาม จึงทราบว่าจะเดินทางไปสนามราชมังคลาฯ แต่มาผิดที่

หลัง จากนั้น ทางแกนนำจึงตัดสินใจให้การ์ดรักษาความปลอดภัย นำตัวชายคนดังกล่าว ออกจากพื้นที่การชุมนุม พร้อมเน้นย้ำให้ดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปทำร้ายชายคนดังกล่าว หรือบุคคลอื่น ขณะที่ผู้ชุมนุมที่กระจายตัวพักผ่อนตามบริเวณกระทรวงการคลัง ต่างเป่านกหวีด พร้อมตะโกนด่าทอ และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจเป็นการเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรง

รองเท้าผ้าใบ

ที่แท้เป็นพระถอดจีวรชิงทอง40บาทในบิ๊กซีดาวคะนอง17พ.ย.จับได้ยังปากแข็ง



ตามรวบพระควงปืนชิงทองหนัก 40 บาท ในร้านทองห้างดังย่านดาวคะนองเมื่อ 17 พ.ย. ยังปากแข็งปฏิเสธ แต่รับเคยถูกจับเสพยาบ้า...
เมื่อ เวลา 15.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่ สน.บุคคโล พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชคชัย งามวงศ์ ผกก.สน.บุคคโล และ พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหสิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล นำกำลังจับกุม นายชาญณรงค์ บุญณจันทร์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255 ซอยแสมดำ 5 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ตามหมายจับศาลธนบุรี เลขที่ 782/2556 ลงวันที่ 18 พ.ย.56 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้น ไปเพื่อให้พ้นการจับกุม, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน พร้อมของกลางจีวรพระ 1 ชุด เสื้อคลุมสีดำ 1 ตัว หมวกแก๊ป 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และใบสุทธิพระปลอม จำนวน 1 เล่ม โดยจับกุมตัวได้ขณะยังบวชเป็นพระที่วัดนาหม่อม ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง

พ.ต.ท. ปิโยรส กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้านทองเพชรทองใบ เยาวราช ภายในห้างบิ๊กซี สาขาดาวคะนอง ได้ทองรูปพรรณไปทั้งสิ้น 40 บาท โดยระหว่างหลบหนีคนร้ายยังใช้อาวุธปืนยิงขู่ รปภ.ที่พยายามติดตามด้วย 2 นัด ซึ่งในคดีนี้หลังจากที่ฝ่ายสืบสวนสอบปากคำผู้เสียหาย สอบปากคำพยาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวในห้างสรรพสินค้าแล้ว พบว่า คนร้ายดังกล่าวเข้ามาทำทีดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ มีการสวมเสื้อคลุมสีดำ และยังนำหมวกแก๊ปมาเปลี่ยนใส่ จำนวน 2 ใบ คือสีดำและสีน้ำตาล ที่สำคัญพบตำหนิรูปพรรณยังแตกต่างจากปุถุชนธรรมดาคือคนร้ายหัวล้าน ไม่มีขนคิ้วดูคล้ายพระสงฆ์เป็นอย่างมาก

"จากการนำภาพที่บันทึกได้ จากกล้องวงจรปิดไปสอบถามตามวัดต่าง ๆ ในละเเวกใกล้เคียงพบว่า มีพระรูปหนึ่งชื่อ พระชาญณรงค์ โชติปญโญ ซึ่งเป็นพระลูกวัดมะเกลือ ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับห้างที่เกิดเหตุมีรูปพรรณตรงกับคนร้าย แต่ทางเจ้าอาวาสให้ข้อมูลว่า ขณะนี้หลบหนีออกจากวัดไปแล้วจากนั้นฝ่ายสืบสวนจึงเดินทางไปพบญาติ ๆ และอดีตนายจ้าง ของ พระชาญณรงค์ เพื่อนำภาพให้ดู ซึ่งทุกคนต่างยืนยันว่า คนร้ายคือพระชาญณรงค์ จริง โดยเฉพาะนายจ้างเก่า ยืนยันว่า แค่เห็นท่าเดินก็จำได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับและติดตามไปจับกุมไว้ได้ที่ วัดนาหม่อม จ.พัทลุง พร้อมของกลางทั้งหมดก่อนพาตัวไปลาสิกขาและนำมามาสอบสวนที่ สน.บุคคโล" พ.ต.ท.ปิโยรส กล่าว

สอบ สวน นายชาญณรงค์ ให้การปฏิเสธว่า อ้างว่าไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในห้างสรรพสินค้าแต่อย่างใด ส่วนที่ญาติและนายจ้างเก่ายืนยันว่าตนคือคนร้ายตามภาพวงจรปิดนั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิด สำหรับสาเหตุที่ต้องย้ายจากวัดมะเกลือ เดินทางไปอยู่ที่วัดนาหม่อม เพราะมีญาติพี่น้องพาตัวไปฝากฝังเอาไว้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสวัดมะเกลือ ไล่ให้ไปหาที่อยู่ใหม่หลังมีหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน ข้อหาข่มขู่ภรรยาเก่าจาก สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ส่งมาถึงวัด ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยเสพยาบ้าจนถูกตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับกุมมา 3 ครั้ง แต่ทุกวันนี้ไม่ได้ข้องแวะกับยาเสพติดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีการตรวจสอบใบสุทธิพระของ นายชาญณรงค์ แล้วพบว่า เป็นของปลอมซึ่งเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ นายชาญณรงค์ ยังให้การปฏิเสธวกวนไปมาแต่ชุดจับกุมเชื่อว่าสามารถดำเนินคดีได้แน่นอนจาก หลักฐานที่มีอยู่ จึงส่งตัวให้ พ.ต.ท.เสวก บุญจันทร์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บุคคโล ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

รองเท้าผ้าใบ

กสทช.เตือนอย่างก! ซื้อปลั๊ก-สายชาร์จมือถือปลอมใช้ เสี่ยงถูกไฟดูดถึงตาย



"กสทช." ร่อนหนังสือถึง "สภ.แกลง" ให้ส่งเครื่องโทรศัพท์ระเบิดมาตรวจสอบ พร้อมเตือนผู้บริโภคให้ใช้โทรศัพท์-อุปกรณ์ชาร์จมาตรฐานสากล หรือ กสทช. รับรอง ป้องกันอันตรายถึงชีวิต...

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากการถูกไฟดูดขณะชาร์จโทรศัพท์เคลื่อนที่ กรณีล่าสุดเหตุเกิดที่ สภ.แกลง จ.ระยอง นั้น ทางสำนักงาน กสทช. ได้สอบถามข้อมูลไปยัง ผู้กำกับการ สภ.แถลง จ.ระยอง พบว่าผู้เสียชีวิตได้ใช้อุปกรณ์สายชาร์จและสมาร์ทโฟนที่เป็นสินค้า เลียนแบบแบรนด์ดัง และสันนิษฐานการเสียชีวิตเกิดจากไฟฟ้ารั่วเข้าสู่ร่างกาย ผู้เสียชีวิต ซึ่งสำนักงานฯ จะมีหนังสือประสานขอให้ส่งเครื่องพร้อมแบตเตอรี่และอุปกรณ์ต่างๆ มาเพื่อตรวจสอบว่าเครื่องดังกล่าวมีการนำเข้าหรือมีใบอนุญาตที่ถูกต้องตาม กฎหมาย หรือได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงาน กสทช. หรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเครื่องดังกล่าวมีการนำเข้าที่ผิดกฎหมายหรือไม่ได้รับการรับรอง มาตรฐาน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

"กรณีนี้นับเป็นอุทาหรณ์ ขอเตือนผู้บริโภคให้เลือกใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ผ่าน การรับรองมาตรฐาน ไม่ควรเห็นแก่ของที่มีราคาถูก ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานสากล จะผ่านการตรวจสอบคุณภาพในการผลิต และหากผู้ใช้ปฏิบัติตามข้อแนะนำการใช้จะทำให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย" เลขาฯ กสทช. กล่าว

นายฐากร กล่าวว่า สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผลิตจากต่างประเทศ ผู้บริโภคจะต้องตรวจสอบสัญลักษณ์การรับรองมาตรฐานสากล อาทิ FCC สำหรับอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่จากสหรัฐอเมริกา สัญลักษณ์รับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จากสำนักงาน กสทช. เนื่องจากตามมาตรา 6 พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 กำหนดให้เครื่องโทรศัพท์จะต้องได้รับอนุญาตให้มีการนำเข้าโดยถูกต้องจาก สำนักงาน กสทช. และมาตรา 32 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 กำหนดให้เครื่องโทรศัพท์จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงาน กสทช. ก่อน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการเลือกซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อพ่วง ที่ผลิตภายในประเทศ จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.)

ทั้งนี้ หากพบเห็น หรือสงสัยว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์ที่ซื้อมาได้รับมาตรฐานหรือไม่ สามารถส่งมาตรวจสอบได้ที่สำนักงาน กสทช. หรือสอบถามข้อมูลและร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนโทร. 1200 นอกจากนี้ ผู้บริโภคต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานด้วย เช่น การเลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือ เช่นเดียวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เปิดให้ใช้บริการบนสมาร์ทโฟน ตลอดจนมีการตั้งค่ารหัสการใช้งานบนโทรศัพท์เพื่อความปลอดภัย ทั้งยังควรดาวน์โหลดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเวอร์ชั่นใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรคลิกลิงก์ที่ได้แนบมาพร้อมกับอีเมล์หรือข้อความบนโทรศัพท์ เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคดิจิตอล.

รองเท้าผ้าใบ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประชุมครม.นัดพิเศษด่วน!! คาดหารือพ.ร.บ.มั่นคง



"ยิ่งลักษณ์"เรียกประชุม ครม.ชุดเล็ก ประชุมนัดพิเศษกลางดึก ที่ บช.ปส.ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้าไปยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยมี รมต.ความมั่นคงเข้าร่วม คาดขยายเวลาประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง...


เมื่อ วันที่ 25 พ.ย.เวลา 19.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งคาดว่าจะเป็นการพิจารณาขยายพื้นที่และระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมดาวกระจายบุกสถานที่ราชการ อาทิ กระทรวงการคลัง โดยจะมีการแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ.

รองเท้าผ้าใบ

'3ค่ายมือถือ' ยันพร้อมรับมือการสื่อสารในพื้นที่ชุมนุม



เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เอช การันตีเครือข่ายพร้อมใช้งานทุกพื้นที่ชุมนุม แนะผู้ใช้สมาร์ทโฟนปิดการใช้งานอินเทอร์เน็ต ช่วยให้โทรเข้า-ออกได้ดีขึ้น...

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ พบว่าส่งผลให้ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีปริมาณการใช้งานเครือข่ายทั้งเสียงและดาต้าเพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นและลดลงเป็นช่วงเวลา แต่พบว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ย. มีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการร้องเรียนจากลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ใช้งานบริเวณราช ดำเนินระบุว่าพบปัญหาการใช้งานเครือข่าย

ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ อาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าการใช้งานดาต้านั้นอาจมีปัญหา เช่น ความเร็วค่อนข้างต่ำ แต่ยืนยันว่าเป็นผลจากการมีผู้ใช้งานอยู่ในพื้นที่นั้นเป็นจำนวนมาก แต่การใช้งานด้านเสียงเพื่อโทรเข้าและโทรออกนั้น มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยเบื้องต้นได้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกใน 2 เรื่อง คือ มีการติดตั้งเสาสัญญาณเพิ่มขึ้น 2 แห่ง บริเวณถนนราชดำเนิน และยังมีการปรับปรุงอุปกรณ์เสาสัญญาณในพื้นที่เดิมอีก 6 แห่ง ซึ่งทำให้สามารถรองรับการใช้งานได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ขณะเดียวกันก็ได้จัดเตรียมทีมวิศวกรเพื่อติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมเข้าพื้นที่ให้บริการในทันทีที่พบปัญหา

นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า เป็นแนวทางปฏิบัติตามปกติของบริษัท หากพบว่าพื้นที่ใดมีการใช้งานหนาแน่น บริษัทจะจัดให้มีการเพิ่มอุปกรณ์ชั่วคราว (temp sites) พร้อมตั้งค่าปรับพารามิเตอร์เพื่อให้ความสำคัญกับการใช้งานโทรมากขึ้นกว่า การใช้งานดาต้า ซึ่งเป็นไปตามลักษณะการใช้งานและความจำเป็นของผู้ใช้งานในขณะนั้น นอกจากนี้ก็มีการจัดตั้งทีมงานเฝ้าดูการใช้งานในพื้นที่ตลอดเวลาเพื่อรองรับ กรณีฉุกเฉิน ซึ่งโดยทั่วไปการใช้งานยังพอใช้งานได้ แต่ตามปกติที่มีคนมาชุมนุมในพื้นที่เดียวกันหนาแน่นมากเกิน จะมีการใช้งานที่ไม่รวดเร็วและไม่สะดวกเหมือนในพื้นที่ปกติอยู่แล้ว

สำหรับ การแนะนำผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟน เมื่อไม่ได้ใช้งานควรตั้งค่าปิดดาต้าที่ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน และนำมาเปิดการใช้งานดาต้าอีกครั้งเมื่อต้องการใช้งานดาต้า เนื่องจากการรวมตัวที่หนาแน่นจะทำให้เกิดการใช้งานดาต้าที่ช้าลง สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานการโทร เพื่อความรวดเร็วในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถทำการเลือกตั้งค่าที่มือถือเป็น 2จี ด้วยตนเองก่อนการโทรออก ก็จะสามารถใช้งานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นตามต้องการ สำหรับทั้งการโทรออกและรับสาย

ขณะที่ แหล่งข่าวจากทรูมูฟ เอช กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) บริษัทมีหน้าที่ดำเนินการในทุกทางเพื่อทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานบริการของ กลุ่มทรูได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายที่สุด ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังคำนึงถึงแนวทางตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ขอความร่วมมือมายังโอเปอเรเตอร์อีกด้วย.

รองเท้าผ้าใบ

คปท.พังประตู ปักหลักบริเวณ ก.ต่างประเทศ



คปท. สั่งมวลชนพังประตู ยึดบริเวณลานกว้างภายในกระทรวงการต่างประเทศ "สุริยะใส"เดิมพัน วัดใจรัฐบาล ลาออกหรือยุบสภา ลั่น หากแพ้ยอมเป็นกบฏ...

วัน ที่ 25 พ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. คณะแกนนำ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชน ปฏิรูป ประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. และ นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. ได้ขึ้นประกาศบนเวทีปราศรัย ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ต่อผู้ชุมนุม โดยอ้างว่า จะพามวลชนผู้ชุมนุมไปร่วมชุมนุมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่กระทรวงการคลัง

ต่อ มา ได้มีการตั้งขบวนที่แยกนางเลิ้ง โดยมีมวลชนกว่า 1,000 คน ร่วมขบวนและเคลื่อนขบวนทันที  อย่างไรก็ตาม เมื่อขบวน ผู้ชุมนุม คปท. เคลื่อนมาถึงแยกเสาวณี ถนนสวรรคโลก กลุ่มแกนนำ คปท. ได้ประกาศให้มวลชนเลี้ยวขวา ที่แยกดังกล่าว มาปิดล้อมกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อมาถึงได้ใช้มวลชนพังประตู กระทรวงการต่างประเทศ ให้มวลชนเข้ามาปักหลักชุมนุม บริเวณ ลานอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ภายในกระทรวง โดยอ้างว่า จะเข้ามาตรวจสอบการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งประกาศให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่รักษาการภายในกระทรวงการต่างประเทศ ออกจากพื้นที่ไปให้หมด

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา 1 ในแกนนำภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด กล่าวถึง การที่พันธมิตรทั้ง 3 เวที ร่วมกันขับไล่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัดสินใจยึดกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ ในขณะนี้ว่า เป็นเพราะภาคประชาชนไม่มีทางเลือกแล้ว และนี่เป็นข้อตกลงร่วมกันของทั้ง 3 เวที เพื่อจะวัดใจกับรัฐบาล หากรัฐบาลไม่ยอมลาออก หรือ ยุบสภา ก็อาจจะมีการสั่งใช้กำลังสลายการชุมนุม ซึ่งถ้าถึงวันดังกล่าว ก็อาจเกิดการนองเลือด และเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้าย ของแกนนำทั้ง 3 เวทีว่า กองทัพจะอยู่ข้างประชาชน หรือ ตระกูลชินวัตร อย่างไรก็ตาม หากแพ้การต่อสู้ในครั้งนี้ ก็ต้องยอมรับความเป็นกบฏ.

รองเท้าผ้าใบ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พิษพายุกระหน่ำภูเก็ต นักท่องเที่ยวติดเกาะ-เรือพังยับ



จังหวัดภูเก็ต โดนพายุเล่นงาน นักท่องเที่ยวติดเกาะกว่า 100 ราย ขณะที่ตำรวจน้ำเร่งสำรวจความเสียหายเรือกว่า 25 ลำ ที่เตรียมเข้าร่วมแข่งภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตตา 2013  ...
เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 23 พ.ย.56 ที่บริเวณท่าเรือศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (ภูเก็ต) แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เรือหลวงศรีราชา ทัพเรือภาคที่ 3 นำนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวน 157 คน จากโรงแรมและรีสอร์ตบนเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี เยอรมนี อังกฤษจำนวน 141 คน และชาวไทยที่เป็นพนักงานอยู่ตามโรงแรมต่าง ๆ บนเกาะจำนวน 16 คนกลับมาขึ้นฝั่ง หลังเดินทางไปท่องเที่ยวและพักยังโรงแรม ตลอดจนทำงานอยู่บนเกาะ จนกระทั่งเมื่อช่วงเวลา 10.00 น. วันเดียวกันได้เกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรงสูงกว่า 3-4 เมตร ทำให้ห้องพักของโรงแรมต่าง ๆ บนเกาะได้รับความเสียหาย  โดยโรงแรมต่าง ๆ บนเกาะได้ประสานไปยังทัพเรือภาคที่ 3 และ กอ.รมน.จ.ภูเก็ต เพื่อขอความช่วยเหลือนำเรือออกไปรับนักท่องเที่ยวทั้งหมดกลับมาขึ้นฝั่ง ซึ่งเรือหลวงศรีราชาใช้เวลาเดินทางกว่า 1 ชั่วโมงจากเกาะราชาใหญ่มาถึงยังท่าเรือดังกล่าวเพื่อรับนักท่องเที่ยวทั้ง ชาวไทยและต่างชาติขึ้นฝั่ง
ขณะที่บริเวณชายหาดอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สว.(ทนท.ปป.ทางน้ำ) สรน.3 กก.8 บก.รน.นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือกับ ผู้ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมทะเลซัดกระหน่ำเรือยอชท์ ใบ-เรือสปีดโบ๊ตและเรือหางยาวที่จอดลอยลำได้รับความเสียหายหลายลำตั้งแต่ เมื่อช่วงสายวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุมีเจ้าของเรือทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าสำรวจความเสียหาย พร้อมร่วมกันเก็บกู้เรือ เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายของเรือทั้งหมดกว่า 25 ลำนับสิบล้านบาท
พ.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า หลังเกิดมรสุมหรือร่องกดอากาศต่ำพัดผ่านทะเลอันดามันตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ย.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ตได้ออกสำรวจความเสียหายตามชายหาดหรืออ่าวที่มี เรือใบเรือหางยาวและเรือสปีดโบ๊ตจอดอยู่หลายจุด เช่น อ่าวยน-เขาขาด ต.วิชิต อ.เมือง อ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง อ่าวปอและท่าเรือบางโรง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง เพื่อสำรวจและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกับเจ้าของเรือไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือต่างชาติ เท่าที่จะทำได้ โดยพบว่าที่อ่าวยน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีเรือชนิดต่าง ๆ ที่จอดทอดสมอลอยลำได้รับความเสียหายมากที่สุด ทั้งเรือยอชท์ เรือสปีดโบ๊ต เรือใบและเรือยางของชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงเรือใบขนาดต่าง ๆ ที่เตรียมจะเข้าร่วมการแข่งขันรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตตา 2013 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค.นี้ที่อ่าวกะรน ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต รวมทั้งสิ้นกว่า 25 ลำ ส่วนใหญ่ถูกคลื่นซัดกระแทกเสียหาย-แตก บางส่วนถูกคลื่นซัดขึ้นเกยหาดและโขดหิน บางส่วนถูกคลื่นซัดและลอยออกไปกลางทะเล โดยเจ้าของเรือทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ออกมาช่วยกันสำรวจทรัพย์สิน พร้อมทั้งแจ้งให้บริษัทประกันมาตรวจสอบ เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ก่อนจะทำการเก็บกู้เรือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นฝั่ง นอกจากนี้ยังพบว่ามีกำแพงริมตลิ่งพัง-หลังคาบ้านเรือนได้รับเสียหายอีกหลาย หลัง โดยจะส่งข้อมูลให้กับจังหวัดเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป.

รองเท้าผ้าใบ

ชาวญี่ปุ่นนับพัน จัดงานรำลึก50ปี JFK



ชาวญี่ปุ่นนับพัน พร้อมใจ ร่วมงานรำลึกเหตุลอบสังหาร ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี ครบ 50 ปี...
นอก จากสหรัฐอเมริกาแล้ว ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีการจัดงานรำลึก การจากไปของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ.เคนเนดี ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้เห็นว่า อดีตประธานาธิบดีคนที่ 35 ผู้นี้ไม่ได้รับการยอมรับและจดจำแค่เพียงอเมริกาเท่านั้น

ชาวญี่ปุ่น หลายสิบคนรวมตัวจัดพิธีรำลึกการจากไปปีที่ 50 ของ นายจอห์น เอฟ.เคนเนดี ที่กรุงโตเกียวโดยในงานมีประชาชนเข้ามาร่วมพับนกกระดาษ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการสดุดี และ อวยพร แก่ประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ยังมีการเปิดวิดีโอการกล่าวสุนทรพจน์ของนายจอห์น เอฟ.เคนเนดี ขณะดำรงตำแหน่งอีกด้วย

โดย นางคิเอโกะ โอฮาระ ผู้จัดงานนี้ได้เผยกับสื่อว่าเธอเป็นแฟนตัวยงของนายเคนเนดี ซึ่งนอกจากเธอจะจัดพิธีนี้ด้วยตัวเองแล้ว เธอเตรียมโปรแกรมทัวร์ 8 วัน ที่สหรัฐฯ ช่วงฤดูใบไม้ผลิหน้า โดยจะเป็นการทัวร์เกี่ยวกับการรำลึกถึง นายจอห์น เอฟ.เคนเนดี โดยเฉพาะตั้งแต่การไปบ้านเกิดที่บอสตัน , สถานที่ทำงานอย่างกรุงวอชิงตัน ดีซี และ จบทัวร์ที่เมือง ดัลลัส สถานที่ ๆ นายจอห์น เอฟ.เคนเนดี ถูกสังหาร ซึ่งนางโอฮาระ หวังว่า เรื่องของตระกูลเคนเนดีจะได้รับการจดจำในญี่ปุ่นอีกเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการที่ลูกสาวของ อดีตประธานาธิบดีผู้ดีเข้ามาดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น จะเป็นสะพานที่แข็งแกร่งในการเจริญความสัมพันธ์ระหว่าง ญี่ปุ่น และ อเมริกาได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้จัดงานเผยด้วยว่า นกกระเรียนที่มีการพับในงานทั้งหมดจะถูกส่งไปยังสถานทูตสหรัฐฯ ณ กรุงโตเกียว ในสัปดาห์หน้าอีกด้วย.

รองเท้าผ้าใบ

"กิตติรัตน์"​สั่งศึกษาความเป็นไปได้ ผุดสนามบินเบตง


“กิตติรัตน์  ณ ระนอง” ลงพื้นที่ด่านศุลกากรบ้านประกอบและด่านศุลกากรเบตง สั่งศึกษาความเป็นไปได้สร้างสนามบินเบตง รับนักท่องเที่ยวมาเลเซีย...

เมื่อ วันที่ 24 พ.ย.56 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสเฟซบุ๊ก หลังเปิดงานนิทรรศการสร้างอนาคตไทย 2020 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับนายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรงคมนาคม โดยระบุว่าถนนทางหลวง เส้นทางสายใต้ควรได้รับการพัฒนามากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวที่เบตงโดยรถส่วน ตัวหรือรถโดยสาร

นอกจากนี้ยังให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนาม บินเบตง ทั้งในระดับพื้นฐานและการศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิค เพื่อพัฒนาวิชาชีพให้คนในพื้นที่มีงานทำ ขณะเดียวกันยังตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารใหม่ของด่านศุลกากรบ้าน ประกอบและด่านศุลกากรเบตง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลังยังกล่าวเพิ่มเติมว่าการขยายถนนจากเบตงไปสู่ยะลา คงต้องมีการพัฒนามากขึ้น โดยจะเห็นว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมากันเป็นครอบครัว นับว่าชาวมาเลเซียยังมีความพอใจ และมั่นใจในความปลอดภัยของการมาท่องเที่ยว ที่เบตง และนับวันการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวที่เบตงก็ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

รองเท้าผ้าใบ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

'สุเทพ'ได้ฤกษ์ ตีกลองสะบัดชัย ไล่ระบอบ'ทักษิณ'



"สุเทพ"ได้ฤกษ์ ตี"กลองสะบัดชัย" ชุมนุมใหญ่ไล่ระบอบ"ทักษิณ"อ่านจม.หลวงปู่พุทธอิสระ เตือนสไนเปอร์ แฉ"นายใหญ่"เตรียมสั่งการ ปูดรัฐ ระดมคน หนุนชุมนุมที่ราชมังคลาฯ

วัน ที่ 23 พ.ย. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  นายถนอม อ่อนเกตุพล พิธีกรบนเวที กล่าวว่า ได้รับแจ้ง มาจากกำนันท่านหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี ว่า ทางกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งภายใน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระดมคนขึ้นมาที่ กทม.เพื่อเชียร์รัฐบาล โดยบระบุ ให้ทุกหมู่บ้าน ต้องส่งตัวแทนประชาชน หรือ เจ้าหน้าที่ อพปร. ขึ้นมาที่กรุงเทพฯหมู่บ้านละ อย่างน้อย 10 คน

ประเทศไทย มีร่วม7หมื่นหมู่บ้าน เท่ากับรัฐบาล กำลังระดมคนมาร่วมม็อบเชียร์รัฐบาล ถึง7 แสนคน หากรวมค่าจ้างที่เขาเคยใช้รายละ 2 พันบาท จะเท่ากับว่า ต้องใช้งบประมาณในการขนคนมาชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลครั้งนี้ อีก 400 ล้านบาท ไม่รู้ว่า ใช้เงินของใคร

จาก นั้นเวลา19.30 น. ได้มีการโชว์การลั่นกลองสะบัดชัยชุดใหญ่อย่างฮึกเหิม กระทั่งเวลา 20.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้งว่า บัดนี้มวลมหาประชาชน ได้ลั่นกลองรบแล้ว ครั้งเดียวในชีวิต ที่ออกมาสู้ร่วมกันกับรัฐบาลที่คอร์รัปชัน พร้อมทั้งอ่านจม.หมายที่หลวงปู่พุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย สรุปใจความว่า "ขอให้กำลังใจ และอยากเตือนว่า มีตำรวจที่แฝงตัวเข้ามาในที่ชุมนุม และอยู่ใน จุดสูง ที่สามารถใช้สไนเปอร์ จ้องปองร้ายแกนนำได้ ขอให้ผู้มาชุมนุมช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย

ซึ่ง หลังจากที่หลวงปู่ได้ขึ้นเวทีทั้งสามเวที ก็ถูกโทรศัพท์ มาข่มขู่ที่วัดว่า จะทำร้ายต่างๆแต่ไม่กลัว ขอบริจาคเงินอีก5หมื่นบาท ไปร่วมทำอาหารเลี้ยงประชาชน ที่มาชุมนุม และฝากพระของสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกฯ อีก 500 องค์ ไปให้เพื่อแจกจ่ายเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมทำงานแล้วพบกันเช้าวันอาทิตย์ ที่24พ.ย.

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า วันที่24พ.ย. ขอให้พี่น้องประชาชนมาร่วมทำบุญตักบาตรพระด้วยกัน จากนั้นจะฟังพระให้ศีลพรเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต เป็นพลังให้ต่อสู้เพื่อชาติ และแผ่นดิน จนกว่าจะชนะ วันนี้เราได้เห็นคนไทยทุกสาขาอาชีพ มาร่วมต่อสู้เคียงบ่าไหล่ เพื่อขจัดระบอบ ทักษิณ ให้พ้นไ ที่สำคัญยิ่งใหญ่ คือ สรส.45องค์กร ที่ร่วมต่อสู้ด้วย

ตน จึงมั่นใจว่า ภาพการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะถูกเผยแพร่ไปยังทุกที่ทั่วโลก สายข่าวของตนบอกมา เมื่อครู่ว่า ทักษิณเห็นตัวแทนองค์กรต่างๆ มาร่วมจับมือขึ้นเวที จนเดือดจัด จนสั่งการณ์ให้ทำอะไรบางอย่างในคืนนี้ (23พ.ย.) ตนไม่ได้ท้าทาย ขู่กลับ ถ้าทำร้ายปชช.คนตระกูลชินไม่ปลอดภัยเช่นกัน"

ทักษิณกำลังดูตนอยู่ขอ ว่า  ทักษิณพอได้แล้ว คนไทยเขาไม่เอาคุณแล้ว คุณโกงประเทศไทย ไปไม่รู้กี่แสนล้าน พี่น้องคุณโกงต่อไปอีกไม่รู้เท่าไหร่ ทำประเทศแตกแยกให้คนมาฆ่า เผาตายกันที่นี่ จนบ้านเมืองวิบัติเสียหาย วันนี้พอได้แล้วทักษิณ ( ผู้มาชุมนุมตะโกน ออกไปๆๆ) ถ้าคุณมีสติยั้งคิด น้องสาวคุณเก็บกระเป๋าออกไป ญาติพี่น้องออกไป วันข้างหน้าลูกหลานคุณ ก็ยังกลับมาประเทศไทยได้ แต่ถ้ายังตัดสินใจทำร้ายประชาชนเพิ่มอีก คนตระกูลนี้ จะไม่มีวัน ได้กลับมาประเทศนี้อีก

ถ้าติดว่า ชีวิตนี้คนตระกูลชินวัตร จะต้องไปตายที่เมืองนอกทุกคน ก็เชิญทำร้ายประชาชน อย่าได้นึกว่าคิด แสดงอะไร พวกผม ประชาขนจะไม่รู้ คุณสั่งอะไรทันที พวกผมก็รู้ทันที ถ้างานนี้ชีวิตลูกหลานประชาชน เป็นอะไรแม้ชีวิตเดียว ขอเตือนว่า ชีวิตของลูกหลานตระกูลชินวัตร จะไม่ปลอดภัยเช่นกัน แม้แต่คนเดียว ตอนที่คุณกำลังพยายามล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้ความรุนแรง ก่อจลาจลเอานักรบรับจ้าง มาฆ่าประชาชน เผาบ้านเมือง แต่วันนี้ประชาชนออกมาสู้โดยสงบ อหิงสา มือเปล่า

ถ้ายังบังอาจคิดทำ ร้ายประชาชนมือเปล่า เราจะไม่อภัยให้คุณทั้งตระกูล จำคำผมไว้ทักษิณ และอย่าเพิ่งคิดสั่งการคืนนี้ รอสั่งการคืนพรุ่งนี้จะได้เห็นว่า สองล้านมือ สองล้านตีน มันมีมากขนาดไหน ผมรู้คุณสั่งการสกัดประชาชนทุกอย่าง สั่งให้คนขับรถไฟทิ้งขบวนรถ สั่งตำรวจวางเรือใบประชาชน แต่วันนี้คุณหยุดประชาชนไม่ได้แล้ว " นายสุเทพ กล่าว

นาย สุเทพ กล่าวต่อว่า สมัยก่อนทักษิณ หลอกลวงประชาชนโดยการให้ข้อมูลผิดๆ ล่อลวงเขา วันนี้ประชาชนเหล่านั้น เขารู้เช่นเห็นชาติแล้ว เขาไม่มาแล้ว ส่วนประชาชนที่มาที่นี่ ไม่มีใครจ้างใคร ทุกคนมาด้วยหัวใจรักชาติที่ยิ่งใหญ่ มีข้าราชการในต่างจังหวัดว่า ไอ้ขี้ข้าในระบอบทักษิณให้เกณฑ์ นักเรียน กกศน.ให้มาชุมนุม เพื่อแข่งจำนวนคนที่มาชุมนุมกับที่ราชดำเนิน ผู้ว่าฯ นายอำเภอทุกแห่ง ได้รับคำสั่งให้เกณฑ์ อพปร. ให้มาร่วมชุมนุมมที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 24 พย. เช่นเดียวกัน ขอให้ผู้ว่าฯทราบ

ถ้าผู้ว่าฯคนไหนยังรับใช้ ระบอบทักษิณ เกณฑ์คนมาสู้กับประชาชน ขอบอกให้เตรียมเก็บกระเป๋าไปกับนายมึงได้เลย วันนี้การกระทำของผู้ว่าทุกจังหวัด อยู่ในสายตาของประชาชน ถ้ายังรับใช้ทักษิณ ประชาชนจะคิดบัญชีกับผู้ว่าฯ และขอบอกถึงพี่น้องเสื้อแดงว่า เลิกรับใช้ระบอบทักษิณ มาสามัคคีกับคนไทยด้วยกันดีกว่า ส่วนบรรดาแกนนำเสื้อแดง ทั้งหลายจะทำอะไรก็ทำไป เพราะชีวิตคนเหล่านี้หลืออีก ไม่กี่วันแล้ว

ปลุก จิตสำนึกทหาร-ตำรวจอย่ารับคำสั่วผิดกฎหมาย นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนข้าราชการพลเรือน ทั้งทหาร ตำรวจ โปรดฟังตนเพราะพูดแทนมวลมหาประชาขน เพราะท่านเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ขี้ข้าในระบอบทักษิณ ลุกขึ้นพอกันที อย่ารับใช้ระบอบทักษิณต่อไป เห็นอยู่แล้วว่า พิษภัยของมันทำร้ายลูกหลานพวกคุณ และต้องอยู่กับลูกหลานเราเหมือนกัน ขอให้พี่น้องข้าราชการได้ตัดสินใจ ผู้ชุมนุมเต็มเกือบถึงสนามหลวงแล้ว

แล้วให้รอดูภาพในคืนวันที่ 24 พย. ว่า ข้าราชการทั้งหลาย ควรคิดอย่างไรกับอนาคต และฝากถึงข้าราชการทหารทุกคน ในชีวิตตน เคยมีโอกาสรักษากฎหมายบ้านเมืองร่วมกับพี่น้องทหารหาญ และภาพนั้น ยังวนอยู่ในใจ ไม่มีวันลืมที่คนในระบอบทักษิณ มันฆ่าทหารหาญบนถนนสายนี้ จนทหารหาญต้องพิการบาดเจ็บ 400-500 คน ขอให้ถามหัวใจของท่านเอง ตำรวจทั่งประเทศ ตนเคยเป็นรองนายกฯ ดูแลตำรวจ ไม่เคยมีตำรวจต้องก้มหัว ถูกข่มขู่จากนักการเมือง ตนให้เกียรติเสมอ วันนี้ ตำรวจผู้รักษากฏหมายทั้งหลายว่า รัฐบาลนี้ไม่เคารพ กฎหมาย ปฏิเสธกฎหมายรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ จึงไม่ชอบธรรมตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญอีก ต่อไป คำสั่งใดๆที่รัฐบาลนี้จะออกในคืนนี้ พรุ่งนี้ ไม่ต้องปฏิบัติตาม เพราะ ถ้าทำตามตำรวจก็ทำผิดกฎหมาย เหมือนกัน และลองนับดูเบี้ยเลี้ยงที่มาวันนี้ว่า ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนสมัยที่ตนดูแล หรือไม่ เพราะ มีตำรวจบ่นแล้วว่า ข้าวที่ตำรวจทานถูกหักและมีคุณภาพต่ำ กว่าข้าวที่ถนนราชดำเนิน

นาย สุเทพ กล่าวอีกว่า ขอฝากถึง ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ที่ดูแลตำรวจทางหลวงว่า ขอให้เปิดทางอำนวยความสะดวก ให้ประชาชนเดินทางมาถนนราชดำเนิน และส่งข่าวถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ท่ีเคยเป็นตำรวจดีมาตลอด ฉะนั้น ขอให้ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ก่อนที่จะรับฟังคำสั่งของทักษิณ มิฉะนั้น จะไม่จบชีวิตราชการเป็น ผบ.ตร. แน่นอน จำคำพูดตนไว้ อีกคน คือ พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ ( สิงหหรา) ที่ห้าวนัก นั่งดื่มไวน์กับเฉลิม ชีวิตคุณกับผมไม่เคยเป็นศัตรูกัน บางส่วนของชีวิตราชการได้รับน้ำใจจากพวกเรามาก่อน ฉะนั้นคิดจะทำอะไรไม่ดี คิดให้ดีก่อน

และบอกถึงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ว่า คุณกับผมไม่ใช่ศัตรูกัน อย่าทำเรื่องอะไรเสียหายกับประชาชน ไม่เช่นนั้น จะไม่เกษีญณอายุราชการแน่ รวมถึงนายอริสมันส์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดง ที่เตรียมตำรวจจะมาสู้ มาทำร้ายประชาชน และนายประชา ประสพดี ที่เตรียมกองกำลังจะมาสู้กับมวลมหาประชาชน ถ้าประชาชนเป็นอะไร เที่ยวนี้มึงตายแน่ ตนเปิดใจแล้วกับทุกคน พรุ่งนี้เราวัดใจกัน เดินมาถึงขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นอื่นนอกจากเดินตรงถึงเส้นชัยเท่านั้น เราไม่ถอยอีกแล้ว เราสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองใด แต่สู้เพื่อประเทศไทย จากนั้น นายสุเทพ ได้เดินไปตีกลองสะบัดชัย ที่มีแกนนำคนอื่นๆ แบกให้ตี

รองเท้าผ้าใบ

หลายจว.ใต้อ่วม ฝนถล่ม-ถนนขาด น้ำซัด 6 ขวบหาย



หลายจังหวัดภาคใต้อ่วม พายุฝนถล่ม ชุมพร สวนยางพันไร่โค่นล้ม บ้านเรือนถนนขาด สุราษฎร์ฯ ฝนตก 3 วัน น้ำป่าซัดเด็ก 6 ขวบหาย ภูเก็ตการท่องเที่ยวชะงัก เรือข้ามฝั่งส่งนักท่องเที่ยวไม่ได้ พร้อมสั่งงดออกเรือ ตรังน้ำขังรางรถไฟส่งผลให้เดินรถไม่ได้...

เมื่อ วันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ว่า ยังคงเจอพายุฝนกระหน่ำ และทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด อาทิ ใน จ.ชุมพร นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอปะทิว พร้อมด้วย นายภราดร ศรีชลธาร นายก อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว และเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเหตุพายุฝนพัดถล่มหมู่บ้านน้ำพุ หมู่ 5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว มีบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายหลายหลัง และสวนยางพาราหักโค่นล้มจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายชาติชาติ อุทัยพันธ์ รอง ผวจ.ชุมพร ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ออกหนังสือด่วนประกาศแจ้งเตือนอันตรายจากกรณีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรง มีน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ อ.ปะทิว อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.ละแม อ.พะโต๊ะ ขอให้ประชาชนระมัดระวัง จากกรณีดังกล่าว ส่วนทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ให้ชาวเรืองดออกจากฝั่งในระยะนี้ พร้อมกับสั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องออกช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 2-3 วัน ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่ม 3 อำเภอ ได้แก่ ท่าชนะ ไชยา และกาญจนดิษฐ์ รวม 14 ตำบล 77 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน จำนวน 1,959 ครัวเรือน ขณะเดียวกัน จ.สุราษฎร์ธานี ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ เป็นพื้นที่ต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ราบลุ่ม และพื้นที่ติดแม่น้ำตาปี ให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ให้ยกสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง และเตรียมความพร้อมอพยพมายังจุดปลอดภัย

โดย ที่ อ.ท่าชนะ ได้เกิดเหตุเด็กชายอมัด อายุ 6 ขวบ สูญหายไปกับกระแสน้ำบริเวณคลองชลประทานริมสถานีรถไฟ อ.ท่าชนะ ยังหน้าที่เร่ง ค้นหานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ยังไร้ร่องรอย ต้องยกเลิกการค้นหาในที่สุดหลังกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย

ขณะ ที่ภูเก็ตก็ได้รับความเสียหายไม่แพ้กัน เนื่องจาก ท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าเรือท่องเที่ยวจากเกาะภูเก็ตไปยังเกาะพีพี จ.กระบี่ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมากไม่สามารถเดินทางข้าม ไปท่องเที่ยวระหว่างเกาะได้ เนื่องจากคลื่นลมกระโชก เรือท่องเที่ยวงดออกจากฝั่งเป็นการชั่วคราว ซึ่งล่าสุด เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ประกาศเตือนระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย. เตือนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง เนื่องจากมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ส่วน ที่ จ.ตรัง จากการตรวจสอบ พบว่า ยังมีปริมาณน้ำฝนที่ท่วมขังรางรถไฟมีปริมาณสูง ทำให้ต้องจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แทน ขณะที่ จ.สตูล มีรายงานว่า น้ำจากเทือกเขาบรรทัดใน จ.พัทลุง ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.ละงู ในพื้นที่ ม.4, 6, 10 และ 11 ต.น้ำผุด ส่งผลให้ประชาชนกว่า 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน


รองเท้าผ้าใบ

ม็อบ ปชป. แตะมือ กปท.-คปท.ล้มระบอบทักษิณ


"สุเทพ" เผยไต๋เป็นทางการแตะมือม็อบ กปท.-คปท. อ้างหวังล้มระบบทักษิณและปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์อย่างแท้จริง โดยพร้อมหน้าบรรดาแกนนำประกาศเจตนารมณ์...
เมื่อ เวลาประมาณ​ 18.00 น. วันที่ 23 พ.ย. มีรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะแกนนำม็อบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมแกนนำม็อบ คปท. และ กปท. ตลอดจนแกนนำมวลชนกลุ่มอาจารย์ รัฐวิสาหกิจ นักธุรกิจ สื่อ ซึ่งรวมทั้งนายนิติธร ล้ำเหลือ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสุริยะใส กตะศิลา ขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการเคลื่อนไหวล้ม ล้างระบบทักษิณ และปฏิรูปประเทศ เพื่อให้เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในส่วนของบรรยากาศการชุมนุมนั้น ปรากฏว่า มวลชนเข้าร่วมอย่างคึกคัก และยังทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการตรวจสอบและดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่โดยการ์ดอย่างเข้มงวด

รองเท้าผ้าใบ

ปตท.-บางจาก ขึ้นกลุ่มเบนซิน ลิตรละ 50 สต.



ปตท.-บางจาก ปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดอีกลิตรละ 50 สต. ยกเว้น E85 ปรับขึ้นลิตรละ 30 สต. คงดีเซล มีผลตี 5 พรุ่งนี้...
เมื่อวัน ที่ 23 พ.ย. มีรายงานว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. และ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดอีก 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วน E85 ปรับเพิ่มขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร โดยคงราคากลุ่มดีเซล ให้มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 24 พ.ย. 2556
โดย การปรับขึ้นนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มขยับสูงขึ้น และยังเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากปัจจัยการเมืองและเงินทุนไหลออก โดยล่าสุดเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 31.83 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 46.95 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 39.43 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 36.98 บาท E20 ลิตรละ 34.48 บาท  E85 อยู่ที่ลิตรละ 23.58 บาท ดีเซล ราคาเดิมที่ลิตรละ 29.99 บาท.

รองเท้าผ้าใบ

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

7 ขวบ ร้องไห้ศาลาริมทาง เปิดกระเป๋าถึงผงะ พบยาบ้าหมื่นเม็ด



พบเด็กชายชาวพม่า วัย 7 ขวบ ยืนร้องไห้ศาลาริมทาง จ.กาญจบุรี ชาวบ้านเห็นแล้วสงสาร ประสานตำรวจช่วยตามหาผู้ปกครอง แต่ต้องผงะ เมื่อพบยาบ้าในกระเป๋าที่สะพายนับหมื่นเม็ด…
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 พ.ย. 56 พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 56 ที่ผ่านมา ได้พบเด็กชายเอ (นามสมมติ) เด็กชาวพม่าอายุ 7 ขวบ ยืนร้องไห้อยู่คนเดียว ที่ศาลาพักร้อนรอรถโดยสาร ริมถนนสาย กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ช่วงทางแยกเข้าวัดบ้านปรังกาสี หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทั้งนี้ เด็กคนดังกล่าวได้สะพายเป้สีดำไว้ด้วย ต่อมามีชาวบ้านพบเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้สอบถามเด็ก แต่พูดภาษาพม่าไม่ได้ จึงสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งเด็กได้ร้องไห้ตลอดเวลา ด้วยความสงสารจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ มาดำเนินการเพื่อหาทางช่วยเหลือ
ต่อจากนั้น พ.ต.ท.มนัส รุ่งนาค รอง ผกก.ป.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิษฐ์ จิตติอุดมศักดิ์ สวป.สภ.ทองผาภูมิ ได้เดินทางไปรับตัวไปเด็กชายดังกล่าวมาสอบถาม ที่ สภ.ทองผาภูมิ โดยให้แรงงานชาวพม่ามาเป็นล่ามสอบถาม แต่เด็กก็ยังคงร้องไห้สะอื้นอยู่ตลอดเวลา และไม่ตอบคำถามเจ้าหน้าที่มากนัก
อย่าง ไรก็ตาม จากการตรวจสอบภายในเป้สีดำที่เด็กสะพาย เพื่อค้นหาเอกสารว่า มีชื่อหรือเบอร์โทร.ของพ่อ แม่ หรือญาติหรือไม่ แต่กลับพบขวดแป้งพลาสติกขนาดใหญ่ 2 ขวด ปิดฝาเอาไว้อย่างมิดชิด ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ทันได้สังเกตอะไร แต่เมื่อใช้มือบีบขวดแป้งดู รู้สึกว่าแข็งผิดปกติ ด้วยความสงสัย เจ้าหน้าที่จึงลองเปิดฝาออกมาดู ตำรวจทุกนายที่เห็นถึงกับตกตะลึง เมื่อพบว่าเป็นยาบ้า บรรจุถุงพลาสติกสีฟ้าแบบรูด เปิด-ปิด อัดเต็มทั้ง 2 ขวด ขวดแรกมียาบ้า 20 ถุง 3,987 เม็ด ขวดที่ 2 มียาบ้าซุกอยู่ข้างใน 30 ถุง จำนวน 5,986 เม็ด รวมยาบ้า 50 ถุง นับรวมกันได้ 9,953 เม็ด หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงพยายามให้ล่ามชาวพม่าสอบถามข้อเท็จจริงจากเด็กคนดังกล่าว แต่เด็กเอาแต่ร้องสะอื้น
พ.ต.อ.อำนวย กล่าวอีกว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ข้อมูลที่ได้จากการสอบถาม ทราบว่า เด็กชายดังกล่าว มีบ้านอยู่ อ.พญาตองซู ประเทศพม่า เขตติดต่อระหว่างบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี มีแต่แม่ไม่มีพ่อ โดยได้ขึ้นรถยนต์กระบะมากับลุง และมีผู้หญิงกับผู้ชายเดินทางมาด้วย เมื่อมาถึงศาลาพักร้อน ตรงแยกหน้าวัดปรังกาสี หมู่ 3 จึงให้เด็กลงจากรถ จากเหตุการณ์ดังกล่าว เชื่อว่า เด็กชายชาวพม่าอายุเพียง 7 ขวบ คงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับยาบ้า คาดว่า อาจจะถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ ส่วนรายละเอียด และแนวทางการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ขอปิดเอาไว้เป็นความลับ โดยตอนนี้ได้ส่ง ตร.สืบสวนประสานกับ ตร.สืบสวน จ.กาญจนบุรี และตร.สภ.สังขละบุรี เพื่อขยายผลการสอบสวนในคดีนี้ต่อไป.

รองเท้าผ้าใบ

คปท.ยกระดับประชิดทำเนียบฯ ปักหลักแยกนางเลิ้ง

 
คปท.แตะมือม็อบ ปชป. ย้ายวิกจากบริเวณมัฆวานฯ ไปปักหลักบริเวณแยกนางเลิ้งไม่ไกลจากทำเนียบฯ มากนัก หลังเดินสายติดโบดำ พท. เปิดทางให้ม็อบ ปชป.ขยับใช้มัฆวานฯ...

เมื่อ วันที่ 22 พ.ย. มีรายงานว่า ม็อบเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณแยกมัฆวานฯ ไปทำกิจกรรมบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แยกอโศก-สุขุมวิท ต่อจากนั้น เดินทางต่อไปยังบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย หรือ พท. ถนนเพชรบุรี

ทั้ง นี้ ที่หน้า พท.ม็อบ คปท. ได้นำดาวและโบสีดำ ไปผูกที่หน้า พท.โดยระบุว่าเพื่อแสดงถึงการไม่ยอม รับรัฐบาล ขณะที่แกนนำ กล่าวว่า ให้เวลา พท. 1 สัปดาห์ ปลดป้าย เพราะประชาชนไม่ยอมรับอีกต่อไป

มี รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมที่ พท. ม็อบ คปท. ได้เคลื่อนไปตาม ถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าประตูน้ำ ซึ่งมาถึงบริเวณนี้ มีผู้ไม่หวังดีได้ปาประทัดยักษ์เข้าใส่ เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับอันตราย โดยขบวนเดินทางต่อ

กระทั่ง เวลาประมาณ 18.00 น. ม็อบ คปท. ได้หยุดปักหลักอยู่บริเวณ ถนนพิษณุโลก ช่วงแยกนางเลิ้งถึงแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งไม่ไกลจากทำเนียบรัฐบาลมากนัก

นายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. กล่าวว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 22 พ.ย. เป็นต้นไป จะมีการยกระดับการชุมนุมมาตั้งเวทีกดดันรัฐบาลที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ส่วนพื้นที่ชุมนุมเดิมเวทีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะขยับเข้ามาแทนที่ ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง 3 เวที ที่จะร่วมกันขับไล่ระบบทักษิณครั้งใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย.นี้. 

รองเท้าผ้าใบ

เตรียมสถานที่สำรอง รับประชุมครม. ผวาทำเนียบถูกล้อม



"ยิ่งลักษณ์" เรียกถกวอร์รูมรัฐมนตรีรับมือศึกซักฟอก "นิวัฒน์ธำรง"ยัน "นายกฯปู" พร้อมแจงด้วยตัวเอง เล็งหาที่สำรองประชุม ครม.จันทร์นี้
วัน ที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรียกประชุมทีมวอร์รูมรัฐมนตรี หารือเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯนายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และนายอัชพร จารุจินดา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
นาย นิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในทุกเรื่อง ขณะที่นายกฯ ไม่ได้แสดงความเป็นห่วงแค่ให้แต่ละกระทรวงไปเตรียมข้อมูลของตัวเอง ส่วนตนมีหน้าที่เตรียมข้อมูลในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่นายกฯ จะเป็นผู้ตอบเอง แต่หากมีการพาดพิง รมต.คนใดก็จะสิทธิ์ในการชี้แจงเตรียมสำรองที่ประชุม ครม.
ขณะที่ ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ได้เคลื่อนขบวนมาจากพรรคเพื่อไทยมาชุมนุมที่บริเวณสะพาน ชมัยมรุเชฐและสะพานอรทัย ทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมทำการปิดทั้งสองสะพาน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรึงกำลังจุดละ 1 กองร้อย ขณะที่นายกฯ เสร็จสิ้นการหารือทีมวอร์รูมได้เดินออกจากทำเนียบฯ เวลา 18.15 น. โดยออกทางประตู ถนนพิษณุโลก ฝั่งตรงข้ามสำนักงาน ก.พ.และออกไปทางแยกมิสกวัน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ได้เตรียมสถานที่สำรองเพื่อรองรับการประชุม ครม.ในวันที่ 25 พ.ย.หลังมีกระแสข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมจะทำการดาวกระจายปิดล้อมสถานที่ราชการ สำคัญ.

รองเท้าผ้าใบ

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

13กองพันทหารรักษาพระองค์ซ้อมความพร้อมพิธี5ธันวา



ทหารรักษาพระองค์​ซ้อมเรียกความพร้อม ในพิธีถวายสัตย์ และปฏิญาณตน 5 ธันวาฯ ผบ.กองผสม เผย 13 กองพันมีความพร้อม เพื่อให้พิธีเป็นไปอยางสมเกียรติ...

เมื่อ วันที่ 21 พ.ย.เวลา 09.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) ในฐานะผู้บังคับกองผสม เป็นประธานในการประชุมวางแผนงานและการซักซ้อมในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ทหารรักษาพระองค์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ ซึ่งจัดพิธีขึ้นที่ท้องพระโรงศาลาราษฎร์ประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นปีแรก โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. จะเป็นผู้นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตน สำหรับการจัดกำลังจะประกอบด้วย 12 กองพันทหารรักษาพระองค์ แบ่งเป็น ทหารบก 8 กองพัน ทหารเรือ 2 กองพัน ทหารอากาศ 2 กองพัน และอีก 1 กองพันทหารม้ารักษาพระองค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นเพียงการซ่อมย่อยครั้งแรก และจะมีการซ้อมย่อยอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ย.ที่ ร.11 รอ. ก่อนจะเคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังวังไกลกังวลในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ เวลา 17.00 น. เพื่อเตรียมทำการซ้อมใหญ่เหมือนจริงในวันที่ 2-3 ธ.ค.นี้ และเริ่มกระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนจริงในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เวลา 10.30 น. อย่างไรก็ตาม ในวันซ้อมใหญ่จะมีการปิดถนนเพชรเกษมบางส่วนประมาณ 300 เมตร เพื่อเปิดทางให้ทหารรักษาพระองค์เข้าประจำพื้นที่

พล.ต.วราห์ กล่าวว่า การปฏิบัติของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหารราชในปีนี้ จะแตกต่างจากการปฏิบัติในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ ซึ่งจะมีการปรับลดกำลังลง เพราะต้องเชิญธงไชยเฉลิมพลเข้าไปในพื้นที่ในวังไกลกังกล แต่พื้นที่มีข้อจำกัดเรื่องเส้นทางที่นำเข้าไปมีความคับแคบ โดยเราจะวางแผนปรับกำลังและรูปขบวนเพื่อให้สามารถเข้าไปได้อย่างสมพระ เกียรติ พร้อมทั้งได้เตรียมแผน 2 และแผน 3 ไว้รองรับด้วย โดยจะใช้กำลังทหารรักษาพระองค์จำนวน 12 กองพัน และอีก 1 กองพันทหารม้า ซึ่งจะทำให้กองกำลังในแถวลดลง เพราะจากเดิมใช้ 2 กองร้อย จะปรับให้เหลือ 1 กองร้อย
"ทหารรักษาพระองค์ทุกคนมีความพร้อมในการทำพิธี และเน้นย้ำให้ทหารรักษาพระองค์ทุกนายปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องสวยงาม เพื่อให้พิธีถวายสัตย์เป็นไปอย่างสมเกียรติที่สุด สำหรับการปิดถนนเพรชเกษมนั้น จะปิดช่วงสั้น ๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับการสัญจรของประชาชน" พล.ต.วราห์ กล่าว.

รองเท้าผ้าใบ

'ปิยสวัสดิ์' เชื่อร่างพ.ร.บ. 2 ล้านล้าน ไม่ผ่านศาลรธน.



"ปิยสวัสดิ์  อัมระนันทน์" อดีต รมว.พลังงาน เชื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ชี้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เป็นผลจากการทำงานของรัฐบาล...

ในการสัมมนา "โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจไทย ทำอย่างไรให้ไปโลด" ซึ่งจัดโดย สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มองว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีสาเหตุมาจากความพยายามของรัฐบาล ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. และการผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และมีความเป็นไปได้สูงที่ พระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่ผ่านการตีความจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลควรกลับมาใช้วิธีเสนองบประมาณ ตามขั้นตอนปกติของรัฐวิสาหกิจ

"ใน อดีต โครงการลงทุนขนาดใหญ่ ก็สามารถดำเนินการได้โดยวิธีของบประมาณผ่านรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนเรื่องแผนโครงการก่อน ค่อยหางบประมาณมาลงทุน ซึ่งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ ซึ่งหากใช้วิธีปกติอาจเริ่มโครงการได้แล้ว” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มองว่า โครงการที่ควรเร่งดำเนินการ คือ โครงการรถไฟทางคู่ ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ควรทบทวน เพราะเงินที่ใช้ลงทุนสามารถซื้อเครื่องบินมาให้บริการได้ถึง 330 ลำ โดยมีค่าโดยสารถูกกว่ารถไฟความเร็วสูง.

รองเท้าผ้าใบ

พท.ตบเท้าแถลงย้ำจุดยืน ไม่รับคำตัดสินศาลรธน.



"จารุพงศ์" นำทีมเพื่อไทยนั่งโต๊ะแถลงจุดไม่รับคำตัดสินของศาล รธน. กรณีการแก้ไข รธน.ปมที่มา ส.ว. พร้อมอ้างเหตุผล 9 ข้อ...
เมื่อ วันที่ 21 พ.ย. มีรายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กรุงเทพฯ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำ ส.ส. และผู้บริหารพรรค แถลงยืนยันไม่รับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. นอกจากนั้น ยังมีการออกแถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยขัดต่อ มาตรา 68 ความว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย กรณีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยกเลิกสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และให้มีวุฒิสภาจำนวน 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 นั้น

พรรคเพื่อไทยขอเรียนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ดังนี้

1. การที่สมาชิกรัฐสภา ประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 312 คน ร่วมเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว ก็เพื่อให้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ที่ถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ดังนั้น สมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ย่อมต้องมาจากการเลือกตั้งของปวงชน ดังที่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งหลายปฏิบัติกัน และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งถือเป็นฉบับประชาชน

2. การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เป็นอำนาจของรัฐสภา โดยมีข้อห้ามแก้ไขอยู่ 2 ข้อ เท่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับข้อห้ามทั้ง 2 ข้อ แต่อย่างใด ทั้งศาลรัฐธรรมนูญเอง ก็เคยวินิจฉัยไว้ในคำวินิจฉัย ที่ 18-22/2555 ว่า "รัฐสภาจะใช้อำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ก็เป็นความเหมาะสม  และเป็นอำนาจของรัฐสภา ที่จะดำเนินการดังกล่าวนี้ได้ ซึ่งจะเป็นการสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 291"

3. การที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องในเรื่องดังกล่าว โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นการกระทำที่ถือได้ว่า จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ในข่ายที่จะถูกร้องขอให้ถอดถอน หรือถูกดำเนินคดีอาญาได้ เพราะมาตรา 68 เป็นกรณีเกี่ยวกับการที่บุคคลจะใช้สิทธิ และเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้มิได้ แต่การตรากฎหมาย ซึ่งกรณีนี้ ถือเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการที่รัฐสภากระทำไปตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 บัญญัติ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยรับรองไว้เองอีกโสตหนึ่ง ดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้ได้

4. ศาลรัฐธรรมนูญ อ้างหลักนิติธรรมในคำวินิจฉัย ในลักษณะที่ต้องการตีความขยายความ เพิ่มอำนาจให้ตนเองมากกว่าที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ เช่นที่ได้เคยทำมาแล้วในคำวินิจฉัย ที่ 18-22/2555 ด้วยการอ้างว่า "ความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ... ถือเป็นเจตนารมณ์หลักของรัฐธรรมนูญ ว่าจะต้องยึดถือไว้เป็นสำคัญยิ่งกว่าเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ" คำวินิจฉัยทั้ง 2 ครั้งในปี 2555 และ 2556 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตัวแทนของปวงชนที่รับมอบอำนาจมาจากปวงชน เพื่อมาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีที่มา ที่ชอบธรรม เป็นประชาธิปไตย และเป็นธรรม ไม่ว่าจะแก้ทั้งฉบับหรือรายมาตรา ไม่อาจกระทำได้เลย เพราะถูกขัดขวางโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่กล่าวมา ด้วยการตีความรัฐธรรมนูญขยายอำนาจของตนเอง ไม่ยอมผูกพันตามตัวอักษร และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

5. การอ้างหลักนิติธรรม เป็นการกล่าวอ้างอย่างลอยๆ มิได้ระบุให้ชัดเจนว่า ตามหลักสากลเขาเป็นเช่นไร การขัดกันแห่งผลประโยชน์รัฐธรรมนูญ มาตรา 265 ถึง 269 บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่ามีความหมายอย่างไร แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็เพิ่มเติมขึ้นใหม่ โดยไม่ได้ดูที่องค์กรของตนเองเลยว่า ได้กระทำการขัดต่อหลักที่ตนอ้างหรือไม่ เช่น ได้ตัดสินด้วยความเป็นอิสระ และเป็นกลาง เป็นไปโดยยุติธรรม ตามรัฐธรรมนูญ และก่อให้เกิดความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 197 และ มาตรา 201 บัญญัติหรือไม่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ ตุลาการ 3 คน เคยเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาก่อน และ 1 ใน 3 คน เคยถูกคัดค้านประเด็นนี้ จนต้องถอนตัวในการพิจารณาคดีในคำวินิจฉัยที่ 18-22/2555 มาแล้ว แต่คราวนี้ไม่ถอนตัว และอีก 1 คน เคยแสดงความเห็นไว้ชัดเจนว่า การลงโทษบุคคลย้อนหลังกระทำได้ถ้าไม่ใช่การลงโทษทางอาญา อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคไทยรักไทย และลงโทษตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด เป็นเวลา 5 ปี โดยผู้ถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้มีโอกาสรับทราบข้อหา และต่อสู้ชี้แจงแต่อย่างใด ดังนั้น หากตุลาการทั้ง 3 หรือ 4 คนดังกล่าว ต้องถอนตัว ผลของคำวินิจฉัย จะกลับเป็นตรงกันข้าม

6. การที่ศาลรัฐธรรมนูญอ้างว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว ขัดต่อมาตราต่างๆ ในรัฐธรรมนูญ นั้น นับว่าเป็นอันตรายที่สุด เพราะเป็นการใช้อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง และถ้าอ้างเช่นนี้ การที่มาตรา 309 ขัดต่อมาตรา 3 และมาตรา 6 จะอธิบายกันต่อไปอย่างไร เนื่องจาก มาตรา 3 กำหนดหลักนิติธรรม มาตรา 6 กำหนดหลักความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ ประกาศคำสั่งของคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับประกาศคำสั่งดังกล่าว ให้ถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด แต่กฎหมายที่ออกโดยสภา และพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย อาจถูกโต้แย้งว่าขัดรัฐธรรมนูญได้หมด เช่นนี้ เป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างชัดแจ้งที่สุด

7. การก้าวล่วงเข้าไปวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีการกระทำที่ผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาหรือไม่ เป็นการกระทำที่แทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติโดยชัดแจ้ง ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจใน มาตรา 3 และ มาตรา 89 ที่บัญญัติให้ "ประธานรัฐสภา ....ดำเนินกิจการของรัฐสภา ในกรณีประชุมร่วมกันให้เป็นตามข้อบังคับ" ซึ่งข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 117 บัญญัติว่า "ถ้ามีปัญหาที่จะต้องตีความข้อบังคับนี้ ให้เป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะวินิจฉัย ... ให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นเด็ดขาด" กับข้อ 45 ที่ให้ถือว่า คำวินิจฉัยของประธานถือเป็นเด็ดขาด ถ้ามีการประท้วงว่า มีการฝ่าฝืนข้อบังคับ ยิ่งไปกว่านั้น ข้อ 116 ยังให้อำนาจที่ประชุมรัฐสภามีมติให้งดใช้ข้อบังคับข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ หากศาลรัฐธรรมนูญก้าวล่วงเช่นนี้ได้ ก็อาจมีการร้องกันว่า การฝ่าฝืนข้อบังคับทั้งหลายเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ สภาก็คงปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เลย

8. เมื่อรัฐสภาได้ลงมติใน วาระที่ 3 และนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ว่าจะทรงเห็นชอบด้วยหรือไม่ จนกว่าจะพ้นเก้าสิบวัน และมิได้พระราชทานคืนมา การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องและวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว โดยไม่มีอำนาจ ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นการกระทบกระเทือนต่อการใช้พระราชอำนาจ และการกระทำในพระปรมาภิไธย ทั้งนี้ เพราะประการแรก ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัย ว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเองหรือไม่ ประการที่สอง เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีการตรวจสอบว่า ร่างพระราชบัญญัติใดมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่แล้วนั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 154 ให้ตรวจสอบได้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ หากมีการทูลเกล้าฯ แล้ว ย่อมจะอยู่ในพระบรมราชวินิจฉัย ไม่อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

9. การทำหน้าที่ของสมาชิก รัฐสภา ถ้ารัฐธรรมนูญบัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบได้ ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น แต่หากไม่ได้บัญญัติไว้ ย่อมเป็นเรื่องเกี่ยวกับวงงาน หรืออำนาจหน้าที่ของรัฐสภา และเป็นอำนาจของรัฐสภาโดยแท้ ดังเช่น ที่รัฐธรรมนูญในอดีตทุกฉบับก่อนปี 2540 วางหลักไว้ การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจะดีหรือไม่ ถูกใจหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ ย่อมจะถูกตัดสินโดยประชาชนในการเลือกตั้ง และนี่ถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชน ศาลจะก้าวล่วงเข้าไปใช้อำนาจนี้แทนไม่ได้ มิเช่นนั้น ก็จะเป็นการยึดอำนาจของประชาชนไปใช้ เช่นเดียวกับการรัฐประหาร

รองเท้าผ้าใบ

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปาวัตถุปริศนา ป่วนจุดมัฆวานฯ ตำรวจบาดเจ็บ



มือบอนโผล่ปาวัตถุปริศนาใส่ตำรวจรักษาการณ์บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่โชคดีติดตาข่ายทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย...

เมื่อ วันที่ 20 พ.ย. มีรายงานว่า พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. และคณะ เข้าตรวจสอบบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ หลังเกิดเหตุคนร้ายขว้างปาวัตถุคล้ายประทัดใส่ตำรวจปราบจลาจลทำหน้าที่รักษา ความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ทำให้ จ.ส.ต.กฤษณะ มังคลา ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อย

พล.ต.ต.ชยุต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า วัตุถุที่ถูกขว้างเข้ามานั้นเป็นประทัด หรือวัตถุระเบิด เบื้องต้นได้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเก็บชิ้นส่วนเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด อีกครั้ง และคาดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ อาจมีการเชื่อมโยงกับการข่าวของตำรวจ ที่เชื่อว่าจะมีการพยายามก่อความวุ่นวายและสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว.นั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่จะยังคงมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จ.ส.ต.กฤษณะ เปิดเผยว่า ขณะเข้าประจำการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ความมั่นคงฝั่งตำรวจเห็นชายวัย รุ่นอายุประมาณ 20 ปี ขว้างวัตถุคล้ายประทัดมายังฝั่งที่รักษาการอยู่ แต่วัตถุดังกล่าวถูกตาข่ายที่ตั้งขวางพื้นที่ไว้ก่อนจะหล่นลงมา ส่งผลให้สะเก็ดวัตถุดังกล่าวโดนที่แขนขวา ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย

ล่า สุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว ยังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย คือ ด.ต.สิริพงษ์ อินทฤทธิ์ ตชด.34 และ ด.ต.นฤเศรษฐ์ ท้าวแสนทวีสิน ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดเล็กน้อยเช่นกัน.

แทงบอลออนไลน์

เสื้อแดงบุกถ้ำปชป. เป่าแตร-ด่ากราด 'ชินวรณ์'นำทีมไล่ส่ง



คนเสื้อแดงสวมเสื้อ "แดงอุบลฯ"​ บุกเข้าถึงที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ รัวเป่าแตรใส่พร้อมด่ากราด เป็นหวังหวะ "ชินวรณ์" มาเจอนำทีม จนท.พรรคฯ ไล่ส่ง โดยไม่มีเหตุถึงเนื้อถึงตัว...

วันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.00 น. ได้มีรถบัสสองชั้น ทะเบียน จ.อบุลราชธานี นำคนเสื้อแดงประมาณ 100 คน เดินทางมาที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยจอดรถปิดหน้าที่ทำการพรรค จากนั้นคนเสื้อแดงสวมเสื้อข้อความว่า "แดงอุบลฯ" กว่า 50 คน ได้กรูลงจากรถพร้อมนำแตรหวูดสีแดงขนาดเล็กบุกเข้ามาถึงในลานพระแม่ธรณีบีบ มวยผม โดยบางส่วนได้ตะโกนด่าทอถ้อยคำหยาบคายนานประมาณ 5 นาที ซึ่งระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่พรรคและนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช อดีต รมว.ศึกษาฯ ได้ออกมาจากอาคาร พร้อมได้ผลักดันให้คนเสื้อแดงกลับออกไปที่ริมฟุตปาท โดยมีเจ้าหน้าที่พรรคที่อยู่อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งอยู่ด้านหลังที่ทราบข่าวได้ทยอยออกมาขับไล่คนเสื้อแดงโดยไม่มีเจ้า หน้าที่ตำรวจมาดูแลแต่อย่างใด

ซึ่งจากเปิดดูกล้องวงจรปิดของเจ้า หน้าที่พรรค พบว่าก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงจะบุกมานั้น ได้มีชายวัยกลางคนขับมอเตอร์ไซค์สีฟ้า ป้ายทะเบียน กทม. ใส่เสื้อฮาวายสีชมพู กางเกงขาสั้นสีขาว รองเท้าผ้าใบขาวสวมบลูทูธคุยโทรศัพท์ทำทีมาซื้อกาแฟที่ร้านด้านหน้าพรรค แล้วโทรสั่งการว่า "ทางโล่งมาได้เลย" จากนั้นรถบัสที่ขนคนเสื้อแดงจึงมาจอดปิดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พรรคที่บันทึกภาพไว้ได้ไปแจ้งความฐานบุกรุกกับบุคคลที่ปรากฏ ในภาพด้วย

รองเท้าผ้าใบ

'ศาล รธน.' ชี้แก้ที่มาส.ว.ขัดม.68 ยกคำร้องยุบพรรค


"ศาลรัฐธรรมนูญ" ชี้ 312 ส.ส. -ส.ว. ขัดมาตรา 68 ปัดยุบพรรค ตัดสิทธิ์การเมือง
วัน ที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยพิจารณาคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ นายสาย กังกเวคิน และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ต่อกรณี ส.ส.และ ส.ว. รวม 312 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไป ตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ อันเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่งหรือไม่? รวมถึงคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ ได้ขอให้ยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคการเมืองที่เกี่ยว ข้อง

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาสาระสำคัญในคำวินิจฉัย 4 ประเด็น โดยยืนยันว่า ศาล รธน.มีอำนาจในการวินิจฉัยกรณีดังกล่าว ตามมาตรา 68 พร้อมวินิจฉัยว่า การร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้วินิจฉัยว่ามีความผิดถึงขั้นที่ ส.ส. และ ส.ว. 312 คน ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ และยุบพรรค

สำหรับขั้นตอน การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นว่า การแก้ไขเอกสารร่างรัฐธรรมนูญจากขั้นเสนอญัตติและขั้นพิจารณารับหลักการ จึงถือว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 และการกำหนดเวลาการแปรญัตติและอภิปรายจำกัด จึงผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 และมาตรา 3 รวมถึงการแสดงตนในการลงมติไม่ถูกต้อง โดยมีพยานเห็นการใช้บัตรประจำตัวหลายใบเสียบแสดงตนเพื่อลงคะแนนแทนกัน ซึ่งผิดปกติวิสัย มีสมาชิกหลายรายไม่มาลงคะแนน แต่ให้ผู้อื่นใช้อำนาจแทน เป็นการลงคะแนนที่ทุจริต จึงผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 126 (3) และข้อบังคับการประชุม 

อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 6 : 3 ว่าร่างแก้ไขที่มา ส.ว. เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และมีมติ 5 : 4 การแก้ไขมีเนื้อความที่เป็นสาระสำคัญขัดแย้งรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งทำให้ผู้ถูกร้องได้อำนาจปกครองประเทศโดยวิถีทางไม่เป็นธรรม ส่วนคำร้องขอให้ยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิ์ทางการเมืองของผู้บริหารพรรคการ เมือง ให้ยกคำร้อง

รองเท้าผ้าใบ

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ระเบิดพลีชีพ 2 ลูกถล่มสถานทูต'อิหร่าน'ใน'เลบานอน' ดับ 23 ศพ

 
เกิดระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ลูก โจมตีบริเวณใกล้เคียงสถานทูตอิหร่าน ในเมืองหลวงของเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย โดยกลุ่มติดอาวุธ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลเคดา อ้างตัวว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง...
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่า เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งบริเวณหน้าอาคารสถานทูตอิหร่านประจำกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศเลบานอน เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 23 ราย รวมถึงทูตวัฒนธรรมอิหร่าน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 146 คน


ภาพ จากล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นชายคนหนึ่ง เดินเข้าหากำแพงรอบนอกของสถานทูตอิหร่านแล้วจุดระเบิด ทำให้ประตูเหล็กของสถานทูตถึงกับบิดงอ ก่อนที่รถคนหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยวัตถุระเบิด ซึ่งจอดอยู่ห่างออกไปสถานทูตราว 2 ช่วงตึกจะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงยิ่งกว่าระเบิดลูกแรก
ด้าน กาซันฟาร์ ร็อคนาบาดี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำเลบานอน เผยว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ อิบราฮิม อันซารี ทูตวัฒนธรรมอิหร่าน ซึ่งกำลังเดินทางมาทำงานยังสถานทูตในขณะที่เกิดการระเบิด แต่ร็อคนาบีดีไม่ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่สถานทูตคนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือไม่


ภาย หลังเกิดเหตุ กองกำลัง 'อับดุลเลาะห์ อัซซาม' กลุ่มติดอาวุธในเลบานอนซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลเคดา ก็ทวีตข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ อ้างตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด และกล่าวยกย่องมือระเบิดซึ่งเป็นชาวเลบานอนนับถือศาสนาสอิสลามนิกายสุหนี่ ทั้ง 2 คน พร้อมขู่ว่าจะมีการโจมตีอีกหากอิหร่านไม่ยอมถอนกำลังทหารออกจากประเทศซีเรีย เนื่องจากพวกเขาสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ต่อสู้กับกลุ่มกบฏ ในสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีครึ่ง
ขณะเดียวกัน วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งอังกฤษ ประณามเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ระบุว่าเป็นการก่อการร้ายที่น่าตกใจมาก ส่วนฝรั่งเศสเรียกร้องให้เลบานอนและอิหร่านสามัคคีกัน


ทั้ง นี้ เหตุระเบิดเมื่อวันอังคารเกิดขึ้น 1 วันก่อนที่สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 5 ประเทศ (สหรัฐฯ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, จีน) และอิหร่าน จะเริ่มการเจรจาว่าด้วยข้อพิพาทเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านรอบใหม่ หลังพวกเขาใกล้บรรลุข้อตกลงบางอย่างในการเจรจาเมื่อช่วงต้นเดือน

รองเท้าผ้าใบ

ลั่น ไม่ยอมตายฟรีแบบ'ดาบยิ้ม' แฉ'เฉลิม'รับปาก'ปู'จัดการม็อบ



"สุเทพ"อโหสิ"ประชา"แฉ"เฉลิม"รับปากนายกฯ จัดการม็อบ ก่อน 29 พ.ย. ปูด ถูกค้นรถไม่พบ แม้ไม้จิ้มฟัน ลั่น ถ้าตาย ไม่มีตายฟรีแบบ"ดาบยิ้ม"
โว คนลงรายชื่อถอดถอน 310 สส.เกินเป้า

วัน ที่ 19 พ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผุ้ชุมนุมคัดค้าน ร่างพรบ.นิรโทษกรรม ขึ้นกล่าวบนเวที ตอนหนึ่ง ว่า รตอ.เฉลิม อยุ่บำรุง รมว.แรงงาน บอกว่า ผู้มาชุมนุมที่นี่ ร่อยหรอลงทุกวัน เป็นการประจบสอพลอ เจ้านาย ขณะที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กำลังโดน ร.ต.อ.เฉลิม เขี่ยตกกระป๋อง เพราะ พ้นจากความรับผิดชอบ ดูแลผู้ชุมนุม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งพิเศษแต่งตั้งให้ ร.ต.อ.เฉลิม มีอำนาจเต็มจัดการผู้ชุมนุมที่ราชดำเนิน

ดังนั้น นับแต่นี้ ตนจะตอบโต้กับ ร.ต.อ.เฉลิม. ส่วน พล.ต.อ.ประชา จะอโหสิกรรมให้ ทั้งนี้ ยังมีข่าวด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยัน กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า จะจัดการกับผู้ชุมนุมที่ราชดำเนิน ให้เรียบร้อย โดยจะใช้ทุกวิธีจัดการ กับผู้ชุมนุม เพราะ ตนพูดไว้ว่า การต่อสู้ของประชาชนจะจบก่อนวันที่ 30 พ.ย. 2556 ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม ไปอาสาว่า จะจัดการสลายการชุมนุม ก่อนวันที่ 29 พ.ย.2556  จึงขอบอก ร.ต.อ.เฉลิม และน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ไม่สามารถอยู่ได้ถึงวันที่ 29 พ.ย. แน่นอน เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ใช่คนกล้าหาญ แต่ถือดีว่า มีตำรวจทีมอุ้มฆ่าเป็นสมุนรับใช้อยู่หลายคน ตนเคยเป็นรองนายกฯ ดูแล สตช. จึงรู้ดีว่า ตำรวจแต่ละคนเป็นอย่างไร และรู้ว่า นายตำรวจคนไหน กำลังทำงานให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ขณะนี้ และได้จดชื่อให้พรรคพวกไว้หมดแล้ว

“เมื่อคืนผมปราศรัยเสร็จได้เวลาใกล้เที่ยงคืน เดินทางกลับบ้านที่พุทธมณฑลสายสอง พอไปถึงปากซอยเข้าบ้าน มีตำรวจประมาณ 50-60 คน ตั้งด่านตรวจค้นรถในขบวน 3 คันทั้งหมด แต่ไม่พบแม้กระทั่งไม้จิ้มฟัน มีการเตรียมการมาอย่างดีนึกว่า ผมเป็นกำนันเก่า ต้องพกปืนติดตัว หรือเจอปืนในรถคนที่ติดตามผม มันค้นทุกคนให้ลงจากรถตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ถ่ายไปรายงานนายมัน ผมได้ข่าวว่า บางคนเมาไวน์หนักด้วยความผิดหวัง ขอให้เส้นโลหิตแตกไปเลย ขอบอกเลยว่า ผมกลับบ้านทุกวันเวลาเดิม ไปไหนมือเปล่า ไม่มีอาวุธ ไม่มีอภิสิทธิ์ ไม่มีภูมิคุ้มกันใดๆ

และต่อจากนี้ ถ้าตนถูกซุ่มโจมตีด้วยอาวุธขอให้ประชาชนรู้ว่าเป็นฝีมือของตำรวจ ขอบอกว่า ผมไม่กลัวตายเพราะผมตายวันไหน พวกมึงก็จบวันนั้น ส่งข่าวไปเลยผมกลับบ้าน เวลาเดิม ตั้งด่าน 23.50 น.ก็ทันไม่ ต้องทรมานตำรวจเด็กๆ เหลิมรู้ด้วยถ้าสุเทพตาย ไม่มีตายฟรีแบบจ่ายิ้มแน่  กูสุเทพน่ะไอ้เหลิม ไม่ใช่จ่ายิ้ม บอกมึงเอาไว้" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนทยอยเดินทางมาได้แล้ว โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 24 พ.ย. ถ้าถูกตำรวจสกัด ให้แจ้งความกลับว่ากักขัง หน่วงเหนี่ยว และให้แจ้งไปที่บลูสกาย เพื่อส่งทีมถ่ายภาพประจานทุกคน โดยเชื่อว่า ประชาชนจะไม่หยุดการชุมนุมจนกว่าจะชนะ โดยไม่มีทางใช้อำนาจป่าเถื่อน มาจัดการได้ แม้จะให้ตำรวจซ้อมขว้างแก๊สน้ำตาทุกวัน แต่ไม่มีทางได้ขว้างใส่ประชาชน แน่นอน เพราะนั่งเฉย ๆ ไม่เคลื่อนไปไหน และถ้าแน่จริงให้ ร.ต.อ.เฉลิม มาขว้างแก๊สน้ำตาเองจะฟ้องให้ถึงศาลโลกเลย ใครบังอาจทำร้ายประชาชนแม้แต่น้อย จะดำเนินการไปทั้วโลก และมันจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม ใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ ไม่ว่า จะหนีไปประเทศไหน ก็ไม่มีประเทศใดรับคนเหล่านี้ วันนี้ประชาชนทนไม่ไหวแล้ว

จึงเชื่อ ว่า วันที่ 24 พ.ย.นี้ จะเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ ฝีแตก แล้วและประชาชนจะช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ขจัดระบอบทักษิณ สิ้นจากแผ่นดิน ไทย ก่อนจะช่วยกันสร้างประเทศ ให้กระบวนการเลือกตั้งบริสุทธิ์ ไม่มีสิทธิขายเสียง ไม่เปิดโอกาสให้คนโกงชนะการเลือกตั้ง ปิดประตูไม่ให้นายทุนสามานย์ เข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ แบบ พ.ต.ท.ทักษิณ และตระกูลชินวัตร อีกแล้ว โดยจะทำให้ประเทศไทย ปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง รวมทั้งจะมีการเขียนกฎหมายใหม่ว่า ใครโกงชาติจะไม่มีอายุความ เพราะหากยังมีสภาฯทาส อยู่ก็จะไม่สามารถออกกฎหมายปราบการทุจริตไม่ให้มีอายุความได้ และจะเขียนกฎหมายใหม่ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ ส.ส. ถ้าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แล้วประชาชนเข้าชื่อถอดถอน ต้องดำเนินการภายใน 15 วันหรือ 1 เดือน อย่าปล่อยให้หายใจสบายต้องรวบรัด ให้เกิดความรวดเร็ว
นาย สุเทพ กล่าวต่อถึงการรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอน 310 ส.ส.ที่ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ในขณะนี้มีประชาชนร่วมลงนามเกินกว่า 2 หมื่นคนแล้ว โดยมีประชาชนมาร่วมลงชื่อเกินกว่า 2 หมื่นคนไป1.1 แสนชื่อแล้ว  พร้อมกับย้ำว่า ต่อสู้ครั้งนี้ไม่กลัวความตาย เพราะถ้าตายเมื่อไหร่ เชื่อว่าประชาชนจะชนะทันที เพราะทุกคน จะลุกขึ้นมาเป็นแกนนำในการต่อสู้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้กับชาติไทย และขอบอกไปถึง ร.ต.อ.เฉลิมว่า กูไม่กลัวมึง แม้จะตายวิญญาณตน จะอยู่มานั่งรอที่นี่ ไม่ไปไหน

รองเท้าผ้าใบ