วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

'สภาทนายความ' แถลงการณ์ ยก4 ข้อ ค้านนิรโทษฯสุดซอย


"สภาทนายความ" ออกแถลงการณ์ ยก 4 ข้อ ค้านนิรโทษฯสุดซอย ชี้ ขัดหลักการออกกฎหมายชัด ขณะนายกฯยังเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากร่าง พ.ร.บ.นี้ ทั้งทางตรงและอ้อม 

วันที่ 6 พ.ย. สภาทนายความ ได้รับร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับที่จะเสนอต่อวุฒิสภาในวันที่ 11 พ.ย. 2556 แล้ว เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2556 แล้ว เห็นว่า มีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ยุติและฟังได้ชัดเจนว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เป็นร่างกฎหมายที่ขัดหลักการของการเสนอกฎหมายที่ต้องมีผลใช้บังคับเป็นการ ทั่วไป และต้องไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่ง หรือ แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง ทั้งไม่มีการระบุบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจในการตรากฎหมายฉบับนี้ ด้วย  ใน ทางตรงกันข้ามเป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติให้ประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลหรือคณะ บุคคลซึ่งไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญและหลักกฎหมายสากล จึงขอแถลงการณ์มาเพื่อประโยชน์ของประชาชนและเพื่อการตรวจสอบการใช้อำนาจของ รัฐของภาคประชาชน ดังนี้

1. หลักการและเหตุผลประกอบกับคำแปรญัตติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ปรากฏในร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้ มีมาตรา 3 วรรคแรก ซึ่งมีการที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงถ้อยคำมาก ในชั้นแปรญัตติของกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรเป็นว่า

“ให้การกระทำ ทั้งหมดทั้งสิ้นของบุคคลหรือประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง หรือที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมาที่ เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2547 ถึง 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดย สิ้นเชิง” นั้น

กรณีจึงเป็นที่ชัดเจนว่า หากกฎหมายนี้ มีผลใช้บังคับจะเป็นการยกเว้นการกระทำความผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางปกครอง ให้กับกลุ่มบุคคล หรือ คณะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองในช่วงระหว่างวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 จนถึงวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ซึ่ง การยกเว้นนี้ให้ยกเว้นทั้งทางคดีแพ่งและคดีอาญานั้น ย่อมรวมถึงการยกเว้นการกระทำผิดฐานคอร์รัปชัน และการกระทำผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบรวมอยู่ด้วยอย่างชัดแจ้ง สอดคล้องกับเหตุผลของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ขอแปรญัตติที่อ้างว่า ได้ไปพบ กับผู้ที่จะได้ประโยชน์จากบุคคลซึ่งต้องคดีตามคำพิพากษาถึงที่สุด ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 1/2553 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สุจริตตั้งแต่เริ่มยกร่าง และการนัดหมายให้มีการแปรญัตติเพื่อบุคคลดังกล่าว

2. แม้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 บุคคลผู้ได้รับประโยชน์ก็ออกมาแถลงเพื่อเอาใจผู้ที่ต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ว่า จะไม่ขอรับทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดยึดไปแล้วคืนหากร่างพระราช บัญญัติฉบับนี้ผ่านการอนุมัติ ข้อเท็จจริงที่เชื่อมโยงเช่นนี้ ย่อมทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า การกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลุ่มหนึ่งนั้น ขัดต่อกฎหมายและวินัยของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างชัดแจ้ง 

เห็น ว่า การประกาศ ไม่ขอรับทรัพย์สินคืนของผู้ได้รับประโยชน์จากการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ นั้น ไม่ได้มีความหมายสำคัญอะไร เพราะว่า ทรัพย์สินที่คอร์รัปชันไปนั้น เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งในทางคดีแพ่งไม่มีอายุความที่ใครจะถือครอบครองได้ ต้องมีการดำเนินการเพื่อเอาทรัพย์สินนั้น คืนสู่แผ่นดินจนถึงที่สุด

ส่วน ในทางอาญาในหลายประเทศก็ไม่มีอายุความในประเทศไทย ก็ควรบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปในทางหลักสากล  อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เรื่องสำคัญอยู่ที่การออกกฎหมายยกเว้นผู้กระทำความผิดฐานที่ คอร์รัปชัน ซึ่งเป็นคดีถึงที่สุดแล้ว และได้เคยต่อสู้คดีในศาลมาแล้วด้วย ความจริงการคอร์รัปชันนั้น มาจากมูลเหตุการกระทำความผิดของการคอร์รัปชัน เชิงนโยบายที่เกิดขึ้นก่อนปี 2549 ในสมัยที่ผู้ได้รับประโยชน์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ออกกฎหมายลดบทบาทขององค์การ โทรศัพท์แห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทยให้เป็นบริษัทธรรมดา ถ่ายโอนอำนาจของรัฐ ซึ่งมีอยู่ในเรื่องโทรคมนาคมให้กลายเป็นของบริษัทเอกชน โยกย้ายหมายเลขโทรศัพท์ให้เป็นเลขหมายโทรคมนาคม ล้วนแล้วแต่เป็นปฏิบัติการที่แสวงหาประโยชน์ไม่ชอบทั้งสิ้น ทำให้หุ้นบริษัทที่ตนถืออยู่มีราคาขึ้นมากมาย และก็ขายได้ราคามีกำไรสูงหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลได้มีคำวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาอย่างครบถ้วนแล้ว

ประเทศ ไทยและคนไทย ได้ถูกนักการเมืองที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนและครอบครัวอย่างมากมาย สามารถขายหุ้นและซื้อทรัพย์สินของรัฐ ได้อย่างไม่เกรงกลัวความผิด เพราะสามารถควบคุมเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ และข้อเท็จจริง ในเรื่องนี้ก็เป็นที่เห็นได้ชัดเจนว่า การเสนอร่างกฎหมายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าสู่วุฒิสภาและการแปรญัตติรับ หลักการในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลหรือคณะบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้มีพระคุณของตนหลุดจากการกระทำความผิด และได้รับทรัพย์สินคืน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและผิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง

3. ในมาตรา 7 ที่ “ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้” นั้น  เห็นว่าความในมาตรานี้ เป็นเรื่องที่ขัดกับผลประโยชน์ของนักการเมือง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน เพราะนายกรัฐมนตรีเอง ก็มีส่วนได้รับประโยชน์ จากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้หาก ออกใช้เป็นกฎหมาย เพราะทรัพย์สิน ที่รัฐยึดมาตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นั้น มีส่วนที่มาจากบัญชีของนายกรัฐมนตรี ในฐานะน้องสาวของ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย และโดยเฉพาะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นพี่ชายของนายกรัฐมนตรี การที่จะให้นายกรัฐมนตรี รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่า ขัดกับหลักการของการออกกฎหมายโดยชัดแจ้ง เพราะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรงและโดยอ้อมจากการออกพระราชบัญญัตินี้ จึงไม่อาจเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ได้ เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญเรื่องการขัดกันซึ่งผลประโยชน์อย่างชัดเจน

4. การกระทำดังที่ชี้แจงมานี้ เห็นได้ชัดเจนว่า การดำเนินการออกกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น มาจากการสมรู้ร่วมคิดกับฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนมาก ซึ่งได้เดินทางออกไปพบผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด และหลบหนีอยู่ขณะนี้ ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม และโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อมนั้น ย่อมถือได้ว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง ประชาชนผู้มีสิทธิจึงมีสิทธิ ที่จะรวมตัวคัดค้านร่างกฎหมายที่ไม่ถูกต้องนี้ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำใด ๆ ของผู้ใช้อำนาจทางกฎหมาย ที่จะจับกุมคุมขังประชาชนที่มาต่อต้านการออกพระราชบัญญัติฉบับนี้ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำสั่งใดก็ตามที่เป็นคำสั่ง ซึ่งออกมาจากฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้ใต้บังคับบัญชา ล้วนแล้วแต่เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของนายกรัฐมนตรีและญาติพี่น้อง จึงไม่ชอบที่จะดำเนินการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองใดที่รับไปปฏิบัติพึงต้องระมัดระวังและเข้าใจเสมอโดย ตลอดว่า คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นท่านไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม และเมื่อท่านทราบว่า เป็นคำสั่งหรือการดำเนินการตามกฎหมายที่ไม่ชอบ โดยไม่มี รัฐธรรมนูญมาตราใดสนับสนุน ให้มีการยกร่างกฎหมายประเภทนี้ออกมาได้ การกระทำที่ท่านจะทำตามคำสั่งให้ปราบปรามประชาชน ที่ต่อต้านถือว่าท่านทราบ และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ในเรื่องนี้ผู้ได้รับการกระทำที่ไม่ ชอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถขอรับความช่วยเหลือจากทนายความได้ทั่วประเทศ รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการ ต่อสู้กับการออกกฎหมายที่ไม่ยุติธรรมดังกล่าวนี้ สภาทนายความ จึงขอให้ประชาชนญาติมิตรทุกคนบันทึกภาพ เสียง หรือการกระทำใด ๆ ของเจ้าหน้าที่ ที่ละเมิดสิทธิของประชาชนในการออกมาต่อต้านครั้งนี้ พร้อมให้ส่งหลักฐานและคำร้องเรียนที่จะให้สภาทนายความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อ ไปได้ตลอดเวลา

5. สภาทนายความเห็นว่า ควรจัดให้มีการทำคำแปลร่างกฎหมายฉบับนี้ พร้อมทั้งเผยแพร่ คำแปลคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 1/2553 เพื่อเผยแพร่ไปยังบรรดาองค์กรทางนิติศาสตร์ทั่วโลก รัฐสภา ศาล และสภาวิชาชีพทางกฎหมายทุกแห่งให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงของการคัดค้าน รวมถึงชื่อของบุคคลผู้ที่ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้มีความชัดเจนว่าความพยายามในการล้มล้างการกระทำผิดคอร์รัปชัน และความร่วมมือของบุคคลผู้ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการกระทำที่ ไม่ต้องด้วยมติขององค์การสหประชาชาติที่ต่อต้านการคอร์รัปชันทุกรูปแบบที่ ประเทศไทยเป็นสมาชิก อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด ไม่ชอบด้วยหลักการและวิธีการของการเสนอกฎหมายที่โปร่งใส เป็นธรรม และเสมอภาค 

ในทางตรงกันข้ามกลับเป็นการสนับสนุนการคอร์รัปชันให้ กับนักการเมืองด้วยกันโดยไม่ละอาย แม้การกระทำนั้นจะเป็นการลดความน่าเชื่อถือ ศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของชาติ กลุ่มบุคคลดังกล่าว ก็ไม่นำพาที่จะรักษาความถูกต้องกลับพยายามที่จะทำความอยุติธรรมให้เป็น กฎหมาย และความพยายามนี้ยังไม่จบสิ้น สภาทนายความขอเชิญชวนสภาวิชาชีพทุกสาขาให้ร่วมกันแสดงจุดยืนของความถูกต้อง ในหลักนิติธรรมที่ทั่วโลกยอมรับนับถือและปฏิบัติ และขับไล่สิ่งที่เลวร้ายที่เปรียบเสมือนเป็นมะเร็งร้าย ออกไปจากสังคมไทยโดยเร็วที่สุด

จึงขอแถลงการณ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

รองเท้าผ้าใบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น