พลตรีหม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล แถลงผลการประชุม 20 ราชนิกุล 50 ราชสกุล ยืนยันนัด 10 พ.ย.เชิญคนทุกสีที่มีใจจงรักภักดีสถาบันกษัตริย์รวมตัว พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ร่วมถวายสัตย์ฯ ขณะยืนยันไม่เห็นด้วยนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ...
วัน ที่ 3 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล พระโอรส ลำดับพระองค์ที่ 4 ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ ได้เป็นประธานในการพบปะประชุมหารือในกลุ่มราชสกุล โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า 'ร่วมดวงใจ ร่วมใจไทย' ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้กลุ่มราชสกุลหรือตระกูลที่สืบสายตรงจากพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 9 เพื่อมาทำความเข้าใจให้ตรงกันในเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองและสถาบันพระมหา กษัตริย์ในขณะนี้ โดย พล.ต.ม.จ.จุลเจิม กล่าวว่า
"ผมเห็นทั้ง ประวัติศาสตร์ นักวิชาการบางท่าน หรือละครบางเรื่อง เอาสถาบันพระราชอำนาจมาบิดเบือน เสื่อมเสียพระเกียรติ พวกเราเหล่าราชสกุลจึงออกมาปกป้องพระเกียรติยศของสถาบันเท่านั้น โดยขอยืนยันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดยวันที่ 10 พ.ย. 2556 จะเป็นวันที่กลุ่มราชสกุลพร้อมกับประชาชนไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรที่มีหัวใจ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ออกมารวมตัวกัน ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แต่เวลายังไม่กำหนด เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณแด่สถาบันพระมหากษัตริย์" พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล กล่าว
ส่วนในเรื่องของพระราชบัญญัตินิรโทษ กรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชนนั้น พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ระบุว่า "การที่เราจะถวายสิ่งของแก่พระมหากษัตริย์ต้องเป็นสิ่งที่สะอาดบริสุทธิ์ เปรียบได้กับกฎหมายที่จะนำให้ท่านลงพระปรมาภิไภยนั้นต้องเป็นกฎหมายที่นัก วิชาการและประชาชนทุกคนยอมรับ ถึงจะนำทูลเกล้าฯ ถวายท่านได้ ซึ่งเหล่าราชสกุลก็จะเป็นเสมือนฝายกั้นน้ำหากมีน้ำป่าไหลมาก็จะชะลอหรือถึง ขั้นคัดค้านเต็มกำลัง แม้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ก็ตาม โดยเราจะส่งจดหมายเปิดผนึกร้องเรียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อรัฐบาล เพื่อประกาศว่ากลุ่มราชสกุลก็รู้สึกถึงการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สมควรดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง"
"วันนี้คนไทยมี 65 ล้านคนผมขอแค่ 20% ออกมาร่วมกัน ที่ผ่านมามีการจาบจ้วงสถาบันมากเกินไป โดยที่รัฐบาลไม่ดูแล ในฐานะคนไทยรู้สึกเจ็บในหัวใจ แม้รัฐบาลจะบอกว่าดำเนินการจับกุมแล้ว แต่ควรจะเอาออกมาให้ประชาชนเห็นว่าใครเป็นใคร สถานการณ์วันนี้บอบบางมาก จนทนไม่ไหว เหมือนคนมาด่าทุกวัน ถูกตบหน้าทุกวัน จึงขอต่อสู้ จะไม่ยอมปล่อยให้ตบอีกต่อไป จนถึงสุดท้าย ถ้าต้องเล่นหนักก็ต้องเล่นหนัก ซึ่งพวกผมไม่เล่นการเมือง แต่การเมืองอย่ามาเล่นกับพวกผม" พลตรีหม่อมเจ้า จุลเจิม กล่าว
ด้านนาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศให้ความเห็นกับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเพียงความเพ้อฝัน และคำว่า Set Zero ก็คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เราต้องเรียกกฎหมายฉบับนี้ว่าเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด โดยความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้ ถ้าคนทำผิดยอมสำนึกผิด
"โดยส่วนตัว ผม สนับสนุนทุกกิจกรรมเพื่อต่อสู้กับความชอบธรรม ทุกฝ่ายต้องหันมาร่วมมือกัน สามัคคีกัน กำหนดยุทธวิธี เดินหน้าไปด้วยกัน แน่นอนว่าเราต้องชนะ" น.ต.ประสงค์ กล่าวทิ้งท้าย.
รองเท้าผ้าใบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น