วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

'ผู้ว่าฯกทม.'กำชับเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติงาน 37 จุดเสี่ยงน้ำท่วม


"ผู้ว่าฯ กทม." ลงตรวจงานสถานีระบายน้ำ คลองบางซื่อ สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย เตรียมความพร้อมปฏิบัติงาน 37 จุดเสี่ยง น้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง...  วันที่ 21 ก.ย. 56 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสถานีสูบน้ำถนนพหลโยธิน ตอนลงคลองบางซื่อ (โรงไม้) บริเวณถนนพหลโยธิน ซอย 18 ด้านข้างกรมการขนส่งทางบก ว่า ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก มีน้ำขังรอระบายค่อนข้างมาก ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้หน่วยงานของ กทม. เตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ โดยไม่ต้องรอให้ฝนตก มีน้ำท่วมขังรอระบายแล้วจึงออกปฏิบัติงาน มีทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ และจัดเตรียมเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งเครื่องปั่นไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับ  นอกจากนี้ ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำจำนวน 1 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 2 เครื่อง ที่คลองบางซื่อ ซึ่งจะสามารถระบายน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งที่นี่และอีก 36 จุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ  ทั้งนี้ ขอเรียนเพิ่มเติมว่า การที่มีน้ำท่วมขังรอระบายในพื้นที่นี้บ่อยครั้งก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ กทม.มีโครงการที่จะสร้างอุโมงค์ยักษ์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 ม. ใต้คลองบางซื่อ ซึ่งสามารถระบายน้ำได้ 60 ลบ.ม./วินาที เพื่อระบายน้ำจากคลองลาดพร้าว ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา  ในขณะนี้ กทม.สามารถระบายน้ำได้ 155 ลบ.ม./วินาที หากอุโมงค์ยักษ์ใต้คลองบางซื่อ ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถระบายน้ำได้ที่ 215 ลบ.ม./วินาที เป็นการเพิ่มอัตราการระบายน้ำในสัดส่วนที่สูงมาก ดังนั้น กทม.จะเร่งรัดการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ใต้คลองบางซื่อ โดยคาดว่า 3 ปีจะแล้วเสร็จ  จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจประตูระบายน้ำลาดพร้าว 56 คลองลาดพร้าว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะคอขวด กทม.จึงได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มจำนวน 5 เครื่อง ที่หน้าประตู 2 เครื่อง ตรงประตู 1 เครื่อง และหลังประตูอีก 2 เครื่อง  เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำ นอกจากนี้ กทม.มีแผนจะปรับปรุงประตูระบายน้ำ สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมและปรับปรุงบ่อสูบน้ำแห่งนี้อีกด้วย.

รองเท้าผ้าใบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น