รปภ.โหด เพิ่งทำงานได้ 2 อาทิตย์ ออกลายโจร ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านกาแฟ จับสาวใหญ่เจ้าของ ล็อคกุญแจมือไพร่หลัง ก่อนใช้ของมีคมทำร้ายร่างกาย ใบหน้า พร้อมชิงรถยนต์หลบหนี...
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 29 ก.ย. ร.ต.ท.รัฐพงศ์ ศรีนอก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ ที่โครงการบ้านจัดสรร ศุภาลัย วิลล์ ถ.พุทธรักษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นทาวส์โฮมสูง 3 ชั้น เลขที่ 998/234 โดยชั้นล่างทำเป็นร้านขายขนมปังและกาแฟชื่อร้านเฌอแตมมิลค์ ซึ่งอยู่ทางเข้าโครงการ ก่อนถึงตู้ยามตู้ยามรักษาความปลอดภัยประมาณ20 เมตร โดยบริเวณห้องนอนชั้น 3 พบร่างของ น.ส.รัตนาภร สุขบันเทิง อายุ 38 ปี เจ้าของร้านสภาพถูกล็อคด้วยกุญแจมือลักษณะไพร่หลังบริเวณใบหน้ามีรอยเขียว ช้ำ ศีรษะแตกเลือดไหลอาบท่วมตัว นอกจากนี้บริเวณคอยังมีรอยถูกของมีคมบาดเป็นแผลยาวประมาณ10 ซม.นอนร้องโอดโอดด้วยความเจ็บปวดเจ้าหน้าที่ได้ช่วยถอกกุญแจมือประถมพยาบาล เบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง รพ.เปาโลเมโมเรียนสมุทรปราการ
จา การสอบสวนนายสุทัศ วงเนตร อายุ 27 ปี พนักงาน รปภ.ของบริษัท พระสมุทรการ์ด จำกัด ให้การว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือนายไพรัตน์ วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปี ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่โครงการ ได้เพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเลาลา 7.00 น.นายไพรัตน์ ได้เข้ามาเซ็นชื่อทำงานตามปกติ โดยได้รับมอบหน้าที่คอยดูแลรถเข้าออกบริเวณหน้าป้อมยามทางเข้าหมู่บ้านคู่ กับตน ต่อมาระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น นายไพรัตน์ ได้ขอตัวไปซื้อกาแฟ ที่ร้านเฌอแตมมิลค์ ซึ่งห่างจากตู้ยามประมาณ 20 เมตรซึ่งก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเหตุร้าย กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณไม่เกิน 15 นาที ตนเห็นนายไพรัตน์ วิ่งออกมาจากร้านด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะเปิดประตูรถยนต์ฮอนด้ารุ่นบริโอ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ฆษ 423 สมุทรปราการ ของผู้เสียหาย ที่จอดอยู่หน้าร้านขับออกไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงผู้หญิง ร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาทางระเบียงชั้น 3ของอาอาคารดังกล่าว จึงได้มองขึ้นไปดูพบเห็นหญิงสาวผู้เสียหายสภาพเลือดท่วมตัวจึงได้รีบแจ้ง แจ้งให้หัวหน้า รปภ.และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ทาง ด้าน ร.ต.ท.รัฎฐพงศ์ กล่าวว่า คนร้ายคนร้ายน่าจะเตรียมการก่อเหตุมาล่วงหน้าและน่าจะคอยสังเกตพฤติกรรมของ ผู้เสียหายมาโดยตลอดจนทราบว่า ผู้เสียหายพักอยู่ในร้านเพียงลำพัง กระทั่งสบโอกาส ไม่มีลูกค้าเข้าไปในร้าน จึงได้เข้าไปก่อเหตุ ทำทีไปขอซื้อกาแฟก่อนจะแสดงตัวเข้าไปจี้บังคับเพื่อจะเอาทรัพย์สินแต่ผู้ เสียหายเกิดไหวตัวทันและวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้น 3 คนร้ายจึงได้วิ่งตามขึ้นไป และเข้าทำร้ายผู้เสียหาย และใส่กุนแจมือที่เตรียมมา ก่อนรื้อค้นเอาทรัพย์สินพร้อมกับหยิบกุนแจรถของผู้เสียหายที่ว่างอยู่ขับหลบ หนีไปต่อมาเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับแต่ไร้วี่แวว .
รองเท้าผ้าใบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น