วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

ปลอดประสพ การันตี เอาอยู่น้ำไม่ท่วมซ้ำรอยปี54แน่


นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี พร้อมชี้แจงม็อบต้านเขื่อนแม่วงก์ การันตี ปีนี้เอาอยู่ น้ำไม่ท่วมซ้ำรอยมหาอุทกภัยปี 2554 แน่... 

พร้อมแจง ม็อบต้านเขื่อนแม่วงศ์ 

วันนี้ (22 ก.ย.56) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำหรือ กบอ.เห็นว่าการชุมนุมคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงศ์ จังหวัดนครสวรรค์ ถือเป็นสิทธิ์ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมคำนึงถึงภาพรวมของประเทศเป็นหลัก เพราะแม้ว่าการสร้างเขื่อนขนาดเล็กจะป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ได้ แต่การสร้างเขื่อนแม่วงก์เมื่อรวมกับหลายเขื่อนในพื้นที่อื่น จะสามารถป้องกันน้ำท่วมประเทศได้ จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อประเทศไม่ได้ ส่วนหลังจากนี้ ยินดีหากผู้ชุมนุมจะเข้าพบและพร้อมพูดคุยชี้แจงเหตุผล กบอ.พร้อมผู้ว่าฯ 4 จังหวัดปลายแม่น้ำเจ้าพระยา มั่นใจภาพรวมสถานการณ์ภาพรวมสถานการณ์น้ำจะไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54 แต่ต้องเฝ้าระวังพายุ

ภายหลังนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำหรือ กบอ.พร้อมคณะและผู้เกี่ยวข้อง ล่องเรือสำรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาใน 4 จังหวัดได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง นายปลอดประสพ มั่นใจจากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระะยาในขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือ พายุจากคาบสมุทรแปซิฟิกที่อาจจะเข้ามาจากนี้ถึงสิ้นปี ที่ตามสถิติจะมีพายุเกิดขึ้น 5-10 ลูก และร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนบนซึ่งจะมีแน่นอน มีผลต่อพื้นที่ภาคกลางตอนบน อาทิ ชัยนาท นครสวรรค์ รวมถึงน้ำทะเลหนุนสูงที่สูงกว่าปกติ 10-30 เซนติเมตร ส่งผลต่อพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะฝั่งธนบุรี ซึ่งหากทั้ง 3 องค์ประกอบเกิดขึ้นพร้อมกันจะทำให้เกิดน้ำท่วมในระยะสั้น พร้อมเสนอให้จังหวัดที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำ โดยไม่ต้องกังวลจังหวัดรอบข้าง เพราะ กบอ.จะดูแลในภาพรวมเอง

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุในช่วงฝนตก 2-3 วันที่ผ่านมาทำให้มีปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่จุดรับน้ำจังกวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 1,456 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1912 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่จุดรับน้ำอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำไหลผ่านอยู่ทีี่ 1546 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังต่ำกว่าปริมาณที่สามารถรองรับได้ที่ 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และยังอยู่ในการควบคุมของกรมชลประทาน โดยจะพยายามระบายน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งบริเวณแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำน้อย ชัยนาท-ป่าสักชลสิทธิ์ ชัยนาท-อยุธยา เพราะอยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวที่ต้องพร่องน้ำออก ประกอบกับฝนที่ตกลงมายังมีน้ำในพื้นที่และแม่น้ำเจ้าพระยายังสามารถระบายน้ำได้อยู่ 

นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา ระบุ ผลจากการรับน้ำใต้เขื่อนจากภาคเหนือทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณริมตลิ่ง 8 อำเภอได้รับผลกระทบและพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอำเภอเสนาที่ระดับ 1 เมตร แต่โดยรวมไม่กระทบต่อบริเวณตัวเมือง และโบราณสถาน ขณะที่ปริมาณน้ำจากสถานีวัดน้ำสาธารณสุข แม่น้ำป่าสัก และสถานีวัดน้ำหน้าวัดชัยวัฒนาราม แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 1.30 ม. จากสันเขื่อน 2.30 ม. พร้อมคาดว่าภายใน 1-2 วันหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติมระดับน้ำน่าจะลดลง

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี รายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดนนทบุรีว่ายังอยู่ในภาวะปกติ โดยปริมาณน้ำริมฝั่งแม่น้าเจ้าพระยาท่าน้ำปากเกร็ดอยู่ที่ 1 - 1.40 ม. ซึ่งยังต่ำกว่าระดับที่จะกระทบต่อบ้านเรือนริมน้ำเจ้าพระยาที่ 1.80 ม. ขณะที่ปริมาณการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนบางไทร จ.นนทบุรี ยังมีปริมาณการปล่อยน้ำเพียง 1,549 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งต่ำกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อจังหวัดนนทบุรี ที่มีการปล่อยน้ำเกินกว่าจะรับได้ที่ระดับ 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

แต่มีมาตรการเฝ้าระวัง โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเตือนล่วงหน้าหากมีเหตุฉุกเฉินและเฝ้าระวังน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ทั้งการลอกท่อระบายน้ำ ผักตบชวาขวางคันกั้นน้ำในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน แต่ที่น่าเป็นห่วงในเวลา 22.00 น. ของวันนี้ที่น้ำทะเลอาจหนุนสูงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังตั้งเครื่องสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมผิวการจราจรบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ แคราย ราชพฤกษ์ และกาญจนาภิเษก

นายธีรวุฒิ ศิริวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ระบุปริมาณน้ำที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานี มีปริมาณน้ำที่ 2.25 ม. ต่ำกว่าแนวเขื่อนกั้นน้ำที่ 3.35 ม. ซึ่งถือว่าสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง แต่เพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันออก เช่น ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และเซียร์รังสิต จะเร่งระบายให้เหลือ 1.60 ม. จากปัจจุบันที่ปริมาณน้ำฝั่งตะวันออกในคลองรังสิตประยูรสักที่ 1.70 ม. เพื่อเตรียมรองรับน้ำที่จะมาจากอำเภอท่าเรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะปล่อยน้ำผ่านมาทางคลองรพีพัฒน์จังหวัดปทุมธานี แต่ขณะนี้มีผลกระทบน้ำเอ่อล้นเข้าบ้านเรือนบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น