ตร.เผยแกนนำม็อบปิดถนน เป็นพวกหน้าเดิม

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงแกนนำม็อบสวนยางเปิดถนนรอบ 2 ล้วนแต่เป็นคนหน้าเดิม มีหมายจับในหลายคดี...  วันนี้ (15ก.ย.56) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้บริเวณแยกเตาปูน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จว.นครศรีธรรมราช กลุ่มมวลชนได้สลายตัวแล้วและเส้นทางการจราจรใช้ได้แล้ว ส่วนบริเวณแยกควนหนองหงส์ อ.ชะชวด ยังมีการปิดการจราจรมีมวลชนประมาณ 150 คน โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ได้มาประชุมที่ ศปก.ตร.ร่วมกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในการติดตามสถานการณ์การชุมนุม การชุมนุมในบริเวณแยกควนหนองหงส์ ยังมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมกันได้ มีกลุ่มวันรุ่นที่ยังขับขี่ จยย.วนเวียนไปมา ประการสำคัญได้มีคนขับรถบรรทุกเข้าไปแจ้งความที่ สภ.ชะอวด ว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงไปยังรถบรรทุก แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมดังกล่าว เป็นการชุมนุมที่ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบและเป็นการชุมนุมที่มีอาวุธ โดยมีบางส่วนใช้หนังสติ๊กยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเข้าไปในพื้นที่ แต่ยังดีที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปเจรจาได้อยู่ พล.ต.อ.ประชา ได้สั่งการถึงหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด และต้องมีการเชื่อโยงข้อมูลกันอย่างชัดเจนไปในทิศทางเดียวกันพูดภาษาเดียวกัน การปิดถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมาย ใครเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุจะร่วมหรือไม่ร่วมกันปิดถนนเจ้าหน้าที่ก็ต้องเรียกมาสอบ เป็นกระบวนการที่ต้องรับผิดชอบในกรณีฝ่าฝืนกฎหมาย จากการตรวจสอบแกนนำบางส่วนในบริเวณแยกควนหนองหงส์ พบว่าหลายคนเป็นคนเดิมที่เคยถูกออกหมายจับไว้ เช่นนายชญานิน คงสง อายุ 35 ปี มีหมายจับในการปิดถนนเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา นายไพโรจน์ บุญช่วย อายุ 46 ปี มีหมายจับหลายคดี เช่นคดีพยามฆ่าและพกพาอาวุธปืนเมื่อปี 2552 ส่วนนายยุทธการ รัตนมาศ อายุ 42 ปี และนายสันติ ศรีสวัสดิ์ อายุ 28 ปี กำลังตรวจสอบประวัติ    พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เส้นทางบริเวณแยกควนหนองหงส์ กม.333-กม.334 ถ้าวิ่งมาจากจว.พัทลุง เมื่อถึงแยกไม้เสียบ ที่กม.347 ให้ใช้ทางหลวง 4108 เข้าตัวเมืองชะอวด เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวง 4165 ผ่านแยกบ้านตูลเลี้ยวขวาเข้าทางหลวง 4151 ผ่านแยกบ่อล้อเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 408 เข้าแยกหัวถนนเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 403 ผ่านแยกนาพรุ แยกสวนผักเข้าถนนใหญ่ที่กม.315 รวมระยะทางที่ต้องอ้อมประมาณ 104 กม.ใช้เวลาในการเดินทางไม่น้อยกว่า 1 ชม.เศษ จากกทม.ใช้เส้นทางเดิมกลับกัน ทั้งที่เส้นทางเดิมจาก กม.333 ถึง กม.315 ระยะทางแต่ 32 กม.ส่วนการเตรียมกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเป็นไปตามแผนการปฏิบัติ ผบ.ตร.ได้มอบอำนาจให้พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 สามารถใช้กำลังในพื้นที่ได้ทุกหน่วย และพล.ต.อ.ประชา ได้สั่งการให้บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์จากประชาชนที่รับผลกระทบจากการปิดถนน

รองเท้าผ้าใบ