วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ตะลึง! ภาคเหนือตอนบนฆ่าตัวตายสูง สาเหตุหลักยอมเสียหน้าไม่ได้


แพทย์เผยผลวิจัย คนภาคเหนือตอนบนติดอันดับ "ฆ่าตัวตาย" สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ เหตุห่วงหน้าตา ไม่กล้าบอกความต้องการ จนนำไปสู่โรคซึมเศร้า...

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นพ.ปริทรรศ ศิลปะกิจ นายกสมาคมสะมาริตันส์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 10 ก.ย.ของทุกปี องค์การอนามัยโลก กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันสำคัญคือ วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก และจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ทุกๆ วันจะมีคนฆ่าตัวตายสำเร็จ 10 กว่าคน และในปี 2555 ที่ผ่านมา มีคนไทยฆ่าตัวตายสำเร็จ จำนวน 3,985 คน คิดเป็นอันตราเฉลี่ย 6 คนต่อประชากร 1 แสนคน และที่สำคัญพบว่าในเขตภาคเหนือตอนบน มีเหตุคนฆ่าตัวตายสูง เป็นลำดับต้นของประเทศ ติดต่อกันมาสิบกว่าปีแล้ว โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ มีประชาชนเกือบ 2 ล้านคน มีคนฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละ 14 คน ทางสมาคมสมาริตันส์เชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล ที่ก่อตั้งมาตั้บแต่ปี 2531 ที่ให้การปรึกษาทางโทรศัพท์ โดยมีอาสาสมัคร 20 กว่า มาบริการปรึกษาให้คำแนะนำกับประชาชนที่มีปัญหาชีวิตที่หาทางออกไม่ได้ เพื่อลดปัญหาการฆ่าตัวตาย

นพ.ปริทรรศ กล่าววอีกว่า จากงานวิจัย ได้ศึกษาพบว่าคนในภาคเหนือตอนบนฆ่าตัวตายสูง มาจากบริบททางวัฒนธรรมคือ คนเหนือเป็นคนรักษาหน้า ไม่กล้าบอกความต้องการ หรือแสดงออก เมื่อหาทางออกไม่ได้จึงเกิดโรคซึมเศร้า และเมื่อกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 80 เปอร์เซ็นต์ มีโอกาสจะฆ่าตัวตายสูง และพบว่าบุคคลที่ฆ่าตัวตายสูง จะอยู่ในระหว่างอายุ 15-39 ปี นอกนั้นยังพบว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายรองลงมาคือ มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และปัญหาทางเศรษฐกิจ แนวทางการรักษา ต้องให้ยาแผนปัจจุบันพร้อมกับรักษาทางจิตเวชควบคู่กันไปด้วย และทางสมาคมฯ ยังทำงานเชิงรุก เข้าไปประสานกับโรงพยาบาลชุมชนใน 25 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า ได้เข้าถึงการรักษาและเป็นการป้องกันการฆ่าตัวตายได้อีกด้วย.

รองเท้าผ้าใบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น