อุบลฯเฝ้าระวังพายุหวู่ติ๊บ น้ำมูลสูงต่อเนื่อง

จ.อุบลราชธานี จัดประชุม สั่งเตรียมพร้อมรับมือพายุหวู่ติ๊บ ขณะที่ ลำน้ำมูล ระดับน้ำยังสูงต่อเนื่อง หลังน้ำจาก จ.สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ ไหลเข้าสมทบ...
วันนี้ (29ก.ย.56) นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรับมือกับผลกระทบของพายุโซนร้อนหวู่ติ๊บในทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งคาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 1 ตุลาคมและอาจส่งผลกระทบถึงจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีน้ำท่วมมากขึ้นจึงสั่งการให้หน่วยงานด้านบรรเทาสาธารณภัยที่กระจาย กำลังอยู่ทุกพื้นที่เตือนประชาชน โดยเฉพาะในจุดที่ยังมีผู้ประสบที่เป็นคนชราและเด็กพักอาศัยอยู่ในบ้านเรือน ที่มีน้ำท่วม ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากอิทธิพลของพายุลูกนี้

ขณะ ที่ระดับแม่น้ำมูล ยังสูงขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร โดยระดับแม่น้ำมูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี วันนี้ สูงขึ้นเป็น 8.87เมตร ทำให้มีน้ำล้นตลิ่งสูง 1.87 เมตร และอัตราน้ำไหลผ่านมีความเร็ว 3,710 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ลำน้ำรองรับได้ 2,360 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เนื่องจากได้เกิดฝน ตกในพื้นที่แถบเทือกเขาพนมดงรัก จนถึงแม่น้ำมูลในเขตจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีน้ำไหลลงสู่แม่น้ำมูลอย่างรวดเร็ว สาเหตุเพราะพื้นที่มีความลาดเอียงมาก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้แม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและยังคงสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง จังหวัดอุบลราชธานี เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำหลากจากตอนบนโดยมีประชุมคณะกรรมการติดตาม สถานการณ์น้ำทุกวัน นายคันฉัตร กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายมานุสัน วิวรรณลำ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ถ.วิบูลธรรม ต.วาริน อ.วารินชำราบจ.อุบลราชธานี ประธานชุมชนหาดสวนสุข อ.วารอนชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้น้ำมูลได้ไหลเข้าท่วมชุมชนทั้งหมดแล้ว กล่าวว่าปัจจุบัน ชาวบ้านต่างย้ายของออกจากบ้านขึ้นมาที่สูงกันเกือบหมดแล้วเหลือเพียงบางส่วน ที่มีบ้าน 2 ชั้น ที่คาดว่าน้ำคงท่วมไม่ถึง จึงไม่ยอมออกมาจากบ้าน ส่วนประเด็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงและเร่งด่วนคือไฟฟ้า เนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหลืออีก ไม่ถึง 10 เซนติเมตรก็จะถึงมิตเตอร์ไฟฟ้าแล้วซึ่ง กังวลว่าชาวบ้านจะได้รับอันตรายจากไฟฟ้าหากน้ำท่วมถึง

ด้านความช่วย เหลือนายมานุสัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ 1-2 วัน ก็มีความต้องการเรือในการขนย้ายสิ่งของของชาวบ้าน แต่วันนี้ก็ยังต้องการแต่ไม่เร่งด่วนเหมือน 2 วันก่อน เพราะทางชุมชน และ เครือข่ายภัยพิบัติมีเรือท้องแบน 2 ลำ ที่ได้รับงบประมาณรัฐบาลเมื่อ 2 ปีก่อนในโครงการสร้างอาชีพหลังน้ำลด ซึ่งตอนนั้นทางชุมชนก็ได้งบประมาณมาจำนวนหนึ่ง ในการให้นักเรียนอาชีวะในการฝึกต่อเรือเพื่อเอามาใช้ในชุมชน ซึ่งก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง และ อยากให้รัฐบาลได้จัดทำโครงการแบบนี้อีกอย่างน้อยชาวบ้านในชุมชนก็จะสามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้ก่อนที่หน่วยงานรัฐจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ


รองเท้าผ้าใบ